อุดรธานี - สสจ.อุดรธานี จัดรณรงค์ห้ามสูบบุหรี่ในผับ-เธค สถานที่ทำงานเอกชนที่มีระบบปรับอากาศ-ตลาดสดและตลาดนัด เผยฝ่าฝืนทั้งผู้สูบและเจ้าของสถานที่ต้องรับโทษตามกฎหมาย
วันนี้ (11 ก.พ.) นายแพทย์สัญชัย ปิยพงษ์กุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานเปิดการรณรงค์ ห้ามสูบบุหรี่ผับ-เธค สถานที่ทำงานเอกชนที่มีระบบปรับอากาศ ตลาดสด และตลาดนัด จังหวัดอุดรธานี โดยการจัดขบวนรณรงค์ประชาสัมพันธ์ แจกจ่ายแผ่นพับ ตามถนนสายหลักในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ทั้ง 4 สาย ได้แก่ ถนนทหาร ถนนโพศรี ไปทาง จ.สกลนคร ถนนโพศรี ไปทางโรงพยาบาลอุดรธานี และถนนอุดรดุษฏี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากระเบียบข้อกฏหมายดังกล่าว นายแพทย์มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 18 ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2550 และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2550 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2551
โดยตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 มีเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ โดยที่ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับในทางการแพทย์ ว่า ควันบุหรี่เป็นผลเสียแก่สุขภาพของผู้สูบและไม่สูบบุหรี่ที่อยู่ใกล้เคียงหลายประการ อีกทั้งควันบุหรี่ยังทำให้เกิดโรคบางโรค
นอกจากนั้น ยังพิสูจน์ได้ว่า การที่ผู้ไม่สูบบุหรี่ต้องสูดควันบุหรี่ ซึ่งผู้อื่นสูบเข้าไปก็ยังเป็นผลเสียแก่สุขภาพของผู้นั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ผู้สูดควันบุหรี่เป็นเด็ก สมควรที่จะคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ไม่ให้ต้องรับควันบุหรี่ในสถานทีสาธารณะ
นายวรวุฒิ เมฆเวียน ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มเติม ฉบับที่ 9, 12, 13, 15, 16, 17 เป็นเรื่องกำหนดชื่อ หรือประเภทของสถานที่สาธารณะที่ให้มีการคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ และกำหนดส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของสถานที่สาธารณะ เป็นเขตสูบบุหรี่หรือเขตปลอดบุหรี่
รวมทั้งกำหนดสภาพ ลักษณะและมาตรฐานของเขตสูบบุหรี่ หรือเขตปลอดบุหรี่ โดยกำหนดเขตปลอดบุหรี่โดยสิ้นเชิงไว้ 22 ประเภท ได้แก่ ผับ เธค ร้านอาหาร สถานที่ทำงานเอกชนที่มีระบบปรับอากาศ ตลาดสด และตลาดนัด หากประชาชนฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบมีโทษ ปรับ 2,000 บาท ส่วนเจ้าของสถานที่จะถูกปรับ 2 หมื่นบาท
ทางด้าน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า จากประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 18 เพิ่มเติม ในประกาศดังกล่าว มีการเพิ่มสถานที่ปลอดบุหรี่มากขึ้นอีก 4 ประเภท พร้อมกำหนดบทลงโทษทั้งผู้สูบและเจ้าของสถานที่ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ข้อบังคับของกฏหมายให้ประชาชนและผู้ประกอบการได้รับทราบพร้อมทั้งจะได้ปฏิบัติตามกฎหมายให้ถูกต้อง
โดยจัดให้มีการประชาสัมพันธ์ข้อกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ผ่านสื่อต่างๆ ทุกแขนง เริ่มจากวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2551 ถึงวันงดสูบบุหรี่โลก วันที่ 31 พฤษภาคม 2551