xs
xsm
sm
md
lg

เลือกตั้ง “นายก อบจ.” โคราชหงอย - “หมอแหยง” นำชาวบ้าน/เงินซื้อเสียงร้อง “กกต.” อีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เลือกตั้งนายก อบจ.โคราช เงียบเหงา ปชช.ออกมาใช้สิทธิบางตา ด้านผู้ว่าฯ เป็นห่วง คาดใช้สิทธิน้อยไม่ถึง 60% เหตุคนเบื่อเลือกตั้ง และอพยพไปทำงานต่างถิ่น ระบุ ตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น ขณะที่ “หมอแหยง” ผู้สมัครหมายเลข 1 นำชาวบ้านจาก อ.คง พร้อมเงินซื้อเสียงบุกเข้าร้อง กกต.จังหวัดอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา ว่า ตลอดทั้งวันนี้ (10 ก.พ.) ประชาชนชาวนครราชสีมาได้ทยอยออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งกันอย่างต่อเนื่อง แต่จำนวนผู้ออกไปใช้สิทธิค่อนข้างบางตา ไม่หนาแน่นเหมือนการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะเป็นคนสูงอายุและแม่บ้านที่ไม่ได้เดินทางไปทำงานต่างถิ่น โดยเฉพาะหน่วยเลือกตั้งในเขต อ.เมืองนครราชสีมา จะเงียบเหงามากกว่าหน่วยเลือกตั้งในต่างอำเภอ บางหน่วยมีเพียงเจ้าหน้าที่นั่งรอประชาชนมาใช้สิทธิ ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะว่ามีการเลือกตั้งทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย ประกอบกับผู้ที่ไปทำงานในต่างจังหวัดไม่ได้เดินทางกลับมาใช้สิทธิ

ขณะที่หน่วยเลือกตั้งที่ 30 บริเวณลานจอดรถโรงภาพยนตร์ไฟว์สตาร์ มัลติเพล็กซ์ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา นายประสิทธิ์ โพธิ์นอก อายุ 64 ปี พิการทางสายตา ได้ให้หลานสาวพาเดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครราชสีมา ซึ่งสร้างความชื่นชมให้กับประชาชนที่มาใช้สิทธิและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ในความเป็นนักประชาธิปไตยของนายประสิทธิ์และเป็นตัวอย่างที่แก่ประชาชนทั่วไป เป็นอย่างมาก

นายประสิทธิ์ กล่าวว่า แม้ตนจะตาบอดมองไม่เห็นแต่ก็มาใช้สิทธิทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่น หรือระดับชาติก็ตาม เพราะเป็นโอกาสของประชาชนในการเลือกคนดีเข้าไปทำงานให้กับประเทศชาติ หรือท้องถิ่นของตัวเอง

ด้าน นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายอภิวัตน์ พลสยม ปลัดอบจ.นครราชสีมา และคณะได้เดินทางไปตรวจความเรียบร้อยในการเลือกตั้งนายก อบจ. ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 43 ภายในโรงเรียนวัดสระแก้ว เขตเทศบาลนครนครราชสีมา พร้อมเปิดเผยว่า มีความเป็นห่วงเกี่ยวกับการที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อย โดย จ.นครราชสีมา มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 1.8 ล้านคน แต่พบว่าอาศัยอยู่ในภูมิลำเนาไม่เดินทางไปทำงานต่างจังหวัดมีเพียง 1.2 ล้านคนเท่านั้น ฉะนั้นจึงคาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิไม่ถึง 60%

อย่างไรก็ตาม จากที่ได้รับรายงาน ทราบว่า การจัดการเลือกตั้งนายก อบจ.นครราชสีมา ทั้ง 32 อำเภอเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายหรือการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเกิดขึ้นแต่อย่างใด คาดว่า ผลการนับคะแนนจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการได้ในเวลาประมาณ 02.00 น.หรือไม่เกินเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ (11 ก.พ.) เพราะเป็นจังหวัดใหญ่ รวม 32 อำเภอ มีหน่วยเลือกตั้งมากถึง 4,248 หน่วย นายสุธี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เวลา 13.30 น.วันเดียวกันนี้ (10 ก.พ.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดนครราชสีมา ชั้น 1 หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นพ.สำเริง แหยงกระโทก หรือ “หมอแหยง” ผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ. นครราชสีมา หมายเลข 1 ได้นำชาวบ้านจากอำเภอคง จ.นครราชสีมา จำนวน 3 คน พร้อมเอกสารหลักฐานเป็นธนบัตรฉบับละ 100 บาท ที่อ้างว่าได้มาจากการซื้อเสียงของผู้สมัคร หมายเลข 2 นายวิทูร ชาติปฏิมาพงษ์ และเอกสารการแจ้งความบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานของ สภ.คง เข้าร้องเรียนกับ กกต.จังหวัดนครราชสีมา

โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานสืบสวนสอบสวนของ กกต.นครราชสีมา เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน พร้อมสอบปากคำ นพ.สำเริง และ พยานทั้ง 3 คนเพิ่มเติม

นพ.สำเริง แหยงกระโทก ผู้สมัคร นายก อบจ.นครราชสีมา หมายเลข 1 เปิดเผยว่า วันนี้ตนในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการเลือกตั้งได้นำชาวบ้าน 1 คนที่ได้รับแจกเงินซื้อเสียงจำนวน 100 บาท จากผู้สนับสนุนผู้สมัคร นายก อบจ.นครราชสีมา หมายเลข 2 เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนให้ พร้อมพยานอีก 2 คนเข้าร้องเรียน กกต.จังหวัดให้ดำเนินการเอาผิดกับผู้สมัคร ซึ่งมีการแจกเงินซื้อเสียงกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างชัดเจน

“การเลือกตั้ง นายก อบจ.นครราชสีมา ในครั้งนี้ พบว่า มีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยเฉพาะการแจกเงินซื้อเสียงเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในแทบทุกพื้นที่ เฉพาะช่วง 3 วันที่ผ่านมากลุ่มของเราได้นำชาวบ้านพร้อมหลักฐานเป็นเงินซื้อเสียงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและ ร้องเรียน กกต.จังหวัดมาแล้วถึง 3 กรณี คือ กรณีการแจกเงินที่ อ.จักราช, อ.เสิงสาง และล่าสุด วันนี้ ที่ อ.คง รวมมีพยานเกี่ยวข้องจำนวน 16 คน และเงินซื้อเสียงฉบับละ 100 บาท เป็นหลักฐานมอบให้กับ กกต.จังหวัด รวมถึง 23,600 บาท ซึ่งเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” นพ.สำเริง กล่าว












กำลังโหลดความคิดเห็น