ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – กรมคุ้มครองสิทธิฯโดย สนง.ยุติธรรม ศรีสะเกษ มอบเงินค่าทดแทน 2 แสนบาท เยียวยาครอบครัวเด็กหญิง 2 พี่น้องตระกูล “แช่มโตนด” ถูกฆ่าข่มขืนอย่างโหดเหี้ยมในบ้านก่อนนำร่างไปท่วงน้ำอำพรางคดี ระบุเกิดเหตุมาเกือบ 2 ปี คนร้ายยังลอยนวล แม่เหยื่อวอน ตร.เร่งจับกุมฆาตกรโหดมาดำเนินคดี เผย บอบช้ำหนักต้องมาตกเป็นจำเลยทางสังคม ถูกใส่ร้ายว่าคบชู้ทำให้ลูกสาวต้องตาย
วันนี้ (7 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดศรีสะเกษ ว่า ที่ที่ว่าการอำเภอขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ นายสุทิน ไชยวัฒน์ หัวหน้าสำนักงานยุติธรรมจังหวัดศรีสะเกษ นำคณะ เข้ามอบเงินค่าทดแทนจำนวน 200,000 บาท ให้กับ นางรจนา ลิ้นทอง ซึ่งเป็นเงินค่าทดแทนผู้เสียหาย ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ค่าตอบแทน ค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายจำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2545 ที่ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้พิจารณาอนุมัติให้การช่วยเหลือ เยียวยา แก่ครอบครัวของนางรจนา เป็นค่าทดแทนกรณีการเสียชีวิตของลูกสาว 2 คน รายละ 80,000 บาท และค่าจัดทำศพอีกรายละ 20,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 200,000 บาท
สำหรับการเสียชีวิตของลูกสาว นางรจนา ทั้ง 2 คน ดังกล่าว นับว่าเป็นข่าวสะเทือนขวัญ เป็นที่สนใจของประชาชนทั่วประเทศ โดยเกิดเหตุขึ้นเมื่อวันที่ 18 ก.ย.2549 เวลาประมาณ 19.00 น.ที่บ้านเลขที่ 117 หมู่ 8 ต.นิคมพัฒนา อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน บุกเข้าไปในบ้านข่มขืน ด.ญ.ณัฐพร แช่มโตนด อายุ 14 ปี นักเรียน ชั้น ม.4/7 โรงเรียนขุขันธ์ และ ด.ญ.พิชชาพร แช่มโตนด อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนศรีประชานุกูล สองพี่น้องตระกูลแช่มโตนด
ก่อนนำเอาร่างทั้ง 2 คน ไปถ่วงน้ำเอาขอนไม้ทับไว้ เพื่อเป็นการอำพรางคดี ทั้งที่เหยื่อเคราะห์ร้ายยังไม่สิ้นลมหายใจทำให้จมน้ำเสียชีวิต และเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านมานานเกือบ 2 ปี แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมฆาตกรโหดมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้แม้แต่คนเดียว
นายสุทิน ไชยวัฒน์ หัวหน้าสำนักงานยุติธรรมจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า สำหรับเงินจำนวน 200,000 บาท ที่นำมามอบให้ในวันนี้ เป็นเงินค่าทดแทนผู้เสียหาย ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทน ค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายจำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2545 ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้พิจารณาอนุมัติให้การช่วยเหลือ เยียวยา แก่ครอบครัวของ นางรจนา เป็นค่าทดแทน
โดยแต่เดิมนั้นกระบวนการยุติธรรมอาญาไทยจะมุ่งเน้นการบำบัดฟื้นฟู พัฒนานิสัย เฉพาะผู้กระทำความผิดที่เป็นจำเลยเป็นส่วนมาก และในปัจจุบันนี้รัฐบาลให้ความสำคัญ คุ้มครอง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ได้รับความเสียหายในคดีอาญามากขึ้น จึงได้ตรา พ.ร.บ.ค่าตอบแทน ค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา เพื่อคุ้มครองประชาชนหรือเหยื่อทางอาญา
ทางด้าน นางรจนา ลิ้นทอง แม่ของสองพี่น้องที่ถูกฆาตกรฆ่าข่มขืนอย่างโหดเหี้ยม กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์มาจนถึงทุกวันนี้ ยังทำใจรับสภาพไม่ได้ ยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่ลูกสาวทั้ง 2 เป็นผู้บริสุทธิ์ แต่จนถึงขณะนี้ เกือบจะ 2 ปี แล้ว ฆาตกรยังลอยนวลอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีเบาะแสที่จะจับคนร้ายได้เลย และที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ กับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และสำนักนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่เรื่องก็เงียบหายไป
หากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ก็จะเดินหน้าขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวทั้ง 2 คนต่อไป และในทุกวันนี้ตนกลับต้องมาตกเป็นจำเลยของสังคมเสียเอง จากการที่ชาวบ้านในละแวกนี้ต่างมองในทางที่ไม่ดี และไม่มีใครคบ กล่าวหาใส่ร้ายว่าตนคบชู้ ทำให้ลูกต้องมาตาย ซึ่งสร้างความบอบช้ำทางจิตใจให้กับตนเป็นอย่างมาก
“ขอฝากถึงผู้ใหญ่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องใน จ.ศรีสะเกษ ทุกคน โดยเฉพาะผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ให้ช่วยเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายด้วย ไม่เช่นนั้นลูกสาวทั้ง 2 คน คงตายฟรี และ แม่ต้องกลับมาตกเป็นผู้ต้องหาทางสังคมในสายตาของเพื่อนบ้านตลอดไป” นางรจนา กล่าว
วันนี้ (7 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดศรีสะเกษ ว่า ที่ที่ว่าการอำเภอขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ นายสุทิน ไชยวัฒน์ หัวหน้าสำนักงานยุติธรรมจังหวัดศรีสะเกษ นำคณะ เข้ามอบเงินค่าทดแทนจำนวน 200,000 บาท ให้กับ นางรจนา ลิ้นทอง ซึ่งเป็นเงินค่าทดแทนผู้เสียหาย ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ค่าตอบแทน ค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายจำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2545 ที่ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้พิจารณาอนุมัติให้การช่วยเหลือ เยียวยา แก่ครอบครัวของนางรจนา เป็นค่าทดแทนกรณีการเสียชีวิตของลูกสาว 2 คน รายละ 80,000 บาท และค่าจัดทำศพอีกรายละ 20,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 200,000 บาท
สำหรับการเสียชีวิตของลูกสาว นางรจนา ทั้ง 2 คน ดังกล่าว นับว่าเป็นข่าวสะเทือนขวัญ เป็นที่สนใจของประชาชนทั่วประเทศ โดยเกิดเหตุขึ้นเมื่อวันที่ 18 ก.ย.2549 เวลาประมาณ 19.00 น.ที่บ้านเลขที่ 117 หมู่ 8 ต.นิคมพัฒนา อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน บุกเข้าไปในบ้านข่มขืน ด.ญ.ณัฐพร แช่มโตนด อายุ 14 ปี นักเรียน ชั้น ม.4/7 โรงเรียนขุขันธ์ และ ด.ญ.พิชชาพร แช่มโตนด อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนศรีประชานุกูล สองพี่น้องตระกูลแช่มโตนด
ก่อนนำเอาร่างทั้ง 2 คน ไปถ่วงน้ำเอาขอนไม้ทับไว้ เพื่อเป็นการอำพรางคดี ทั้งที่เหยื่อเคราะห์ร้ายยังไม่สิ้นลมหายใจทำให้จมน้ำเสียชีวิต และเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านมานานเกือบ 2 ปี แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมฆาตกรโหดมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้แม้แต่คนเดียว
นายสุทิน ไชยวัฒน์ หัวหน้าสำนักงานยุติธรรมจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า สำหรับเงินจำนวน 200,000 บาท ที่นำมามอบให้ในวันนี้ เป็นเงินค่าทดแทนผู้เสียหาย ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทน ค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายจำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2545 ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้พิจารณาอนุมัติให้การช่วยเหลือ เยียวยา แก่ครอบครัวของ นางรจนา เป็นค่าทดแทน
โดยแต่เดิมนั้นกระบวนการยุติธรรมอาญาไทยจะมุ่งเน้นการบำบัดฟื้นฟู พัฒนานิสัย เฉพาะผู้กระทำความผิดที่เป็นจำเลยเป็นส่วนมาก และในปัจจุบันนี้รัฐบาลให้ความสำคัญ คุ้มครอง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ได้รับความเสียหายในคดีอาญามากขึ้น จึงได้ตรา พ.ร.บ.ค่าตอบแทน ค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา เพื่อคุ้มครองประชาชนหรือเหยื่อทางอาญา
ทางด้าน นางรจนา ลิ้นทอง แม่ของสองพี่น้องที่ถูกฆาตกรฆ่าข่มขืนอย่างโหดเหี้ยม กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์มาจนถึงทุกวันนี้ ยังทำใจรับสภาพไม่ได้ ยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่ลูกสาวทั้ง 2 เป็นผู้บริสุทธิ์ แต่จนถึงขณะนี้ เกือบจะ 2 ปี แล้ว ฆาตกรยังลอยนวลอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีเบาะแสที่จะจับคนร้ายได้เลย และที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ กับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และสำนักนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่เรื่องก็เงียบหายไป
หากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ก็จะเดินหน้าขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวทั้ง 2 คนต่อไป และในทุกวันนี้ตนกลับต้องมาตกเป็นจำเลยของสังคมเสียเอง จากการที่ชาวบ้านในละแวกนี้ต่างมองในทางที่ไม่ดี และไม่มีใครคบ กล่าวหาใส่ร้ายว่าตนคบชู้ ทำให้ลูกต้องมาตาย ซึ่งสร้างความบอบช้ำทางจิตใจให้กับตนเป็นอย่างมาก
“ขอฝากถึงผู้ใหญ่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องใน จ.ศรีสะเกษ ทุกคน โดยเฉพาะผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ให้ช่วยเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายด้วย ไม่เช่นนั้นลูกสาวทั้ง 2 คน คงตายฟรี และ แม่ต้องกลับมาตกเป็นผู้ต้องหาทางสังคมในสายตาของเพื่อนบ้านตลอดไป” นางรจนา กล่าว