ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจเร่งสรุปหาสาเหตุแก๊สระเบิดอู่ต่อเรือ “ยูนิไทยฯ” เรียกหัวหน้าคุมงานสอบเครียด หลังมีคนงานเสียชีวิต 2 ศพ
จากเหตุการณ์แก๊สระเบิดขึ้นภายในอู่ต่อเรือบริษัท ยูนิไทย ชิปยาร์ด แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่ใกล้กับท่าเรือแหลมฉบัง จนเป็นเหตุให้มีพนักงานได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
หลังจากเกิดเหตุ พ.ต.อ.สีห์ศักดิ์ สร้อยศรี ผู้กำกับการ สภ.แหลมฉบัง พร้อมด้วย นายฐานิฐ น้องเพ็ง นายอำเภอศรีราชา ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ พร้อมกับเข้าตรวจสอบยังที่เกิดเหตุภายในอู่ต่อเรือของบริษัท ยูนิไทย จากการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่าขณะเกิดเหตุมีคนงานกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ทั้งสิ้น 20-30 คน ซึ่งกระจายกันทำงานตัดเชื่อมเหล็กอยู่โดยทั่วไปบนแท่นเหล็ก ที่ยกสูงขึ้นมาจากพื้นประมาณ 50 เซนติเมตร
ขณะที่คนงานทั้งหมดกำลังทำงานอยู่นั้น ได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้ร่างคนงานที่อยู่ใกล้กับจุดที่เกิดการระเบิดกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง ท่ามกลางฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจายและกลิ่นไอระเหยของแก๊ส ซึ่งก็สร้างความตื่นตกใจให้กับเหล่าคนงานที่ทำงานอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุเป็นอย่างมาก ส่งผลให้คนงานกลุ่มดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นเจ้าหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยและคนงานที่อยู่ใกล้เคียงก็ได้รีบวิ่งเข้ามาช่วยเหลือนำร่างผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้เคียงเป็นการเร่งด่วน
พ.ต.อ.สีห์ศักดิ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ว่า เบื้องต้นได้เชิญตัว นายวิสูตร เพียรทอง หัวหน้าผู้ควบคุมงานในจุดที่เกิดเหตุมาทำการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุเวลาประมาณ 18.00 น.มีคนงานทั้งสิ้น 26 คนกำลังทำงานตัดเชื่อมเหล็กอยู่บนแท่นทำงานดังกล่าว
จากนั้นได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นอย่างกะทันหันโดยที่ทุกคนไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายเซฟตี้ของบริษัทได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นจากการรั่วซึมของแก๊สที่ไหลเข้าไปสะสมอยู่ภายในใต้แท่นทำงานที่คนงานกำลังทำงานอยู่ เมื่อมีประกายไฟไปถูกจึงเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ส่งผลให้พนักงานได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง กำลังรอผลการตรวจสอบที่เกิดเหตุจากกองวิทยาการตำรวจ ซึ่งเบื้องต้นยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหากับทางหัวหน้าผู้ควบคุมงานและทางบริษัทยูนิไทย แต่อย่างใด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะสามารถสรุปผลการตรวจสอบได้อย่างแน่นอนและเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้คงไม่น่าจะเกี่ยวกับการรวมตัวประท้วงเพื่อของกลุ่มพนักงานบางส่วนที่ขอขึ้นโบนัสการทำงานของบริษัท
สำหรับเหตุการณ์ล่าสุดขณะนี้มีหน่วยงานราชการหลายหน่วยเดินทางมาทำการตรวจสอบและให้การช่วยเหลือพนักงานที่ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้แล้ว
จากเหตุการณ์แก๊สระเบิดขึ้นภายในอู่ต่อเรือบริษัท ยูนิไทย ชิปยาร์ด แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่ใกล้กับท่าเรือแหลมฉบัง จนเป็นเหตุให้มีพนักงานได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
หลังจากเกิดเหตุ พ.ต.อ.สีห์ศักดิ์ สร้อยศรี ผู้กำกับการ สภ.แหลมฉบัง พร้อมด้วย นายฐานิฐ น้องเพ็ง นายอำเภอศรีราชา ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ พร้อมกับเข้าตรวจสอบยังที่เกิดเหตุภายในอู่ต่อเรือของบริษัท ยูนิไทย จากการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่าขณะเกิดเหตุมีคนงานกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ทั้งสิ้น 20-30 คน ซึ่งกระจายกันทำงานตัดเชื่อมเหล็กอยู่โดยทั่วไปบนแท่นเหล็ก ที่ยกสูงขึ้นมาจากพื้นประมาณ 50 เซนติเมตร
ขณะที่คนงานทั้งหมดกำลังทำงานอยู่นั้น ได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้ร่างคนงานที่อยู่ใกล้กับจุดที่เกิดการระเบิดกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง ท่ามกลางฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจายและกลิ่นไอระเหยของแก๊ส ซึ่งก็สร้างความตื่นตกใจให้กับเหล่าคนงานที่ทำงานอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุเป็นอย่างมาก ส่งผลให้คนงานกลุ่มดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นเจ้าหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยและคนงานที่อยู่ใกล้เคียงก็ได้รีบวิ่งเข้ามาช่วยเหลือนำร่างผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้เคียงเป็นการเร่งด่วน
พ.ต.อ.สีห์ศักดิ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ว่า เบื้องต้นได้เชิญตัว นายวิสูตร เพียรทอง หัวหน้าผู้ควบคุมงานในจุดที่เกิดเหตุมาทำการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุเวลาประมาณ 18.00 น.มีคนงานทั้งสิ้น 26 คนกำลังทำงานตัดเชื่อมเหล็กอยู่บนแท่นทำงานดังกล่าว
จากนั้นได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นอย่างกะทันหันโดยที่ทุกคนไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายเซฟตี้ของบริษัทได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นจากการรั่วซึมของแก๊สที่ไหลเข้าไปสะสมอยู่ภายในใต้แท่นทำงานที่คนงานกำลังทำงานอยู่ เมื่อมีประกายไฟไปถูกจึงเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ส่งผลให้พนักงานได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง กำลังรอผลการตรวจสอบที่เกิดเหตุจากกองวิทยาการตำรวจ ซึ่งเบื้องต้นยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหากับทางหัวหน้าผู้ควบคุมงานและทางบริษัทยูนิไทย แต่อย่างใด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะสามารถสรุปผลการตรวจสอบได้อย่างแน่นอนและเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้คงไม่น่าจะเกี่ยวกับการรวมตัวประท้วงเพื่อของกลุ่มพนักงานบางส่วนที่ขอขึ้นโบนัสการทำงานของบริษัท
สำหรับเหตุการณ์ล่าสุดขณะนี้มีหน่วยงานราชการหลายหน่วยเดินทางมาทำการตรวจสอบและให้การช่วยเหลือพนักงานที่ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้แล้ว
