ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “พระสงฆ์” ศีรสะเกษ สุดทนนำชาวบ้านโอบังโก บุกศาลากลางจังหวัดยื่นหนังสือร้องผู้ว่าฯศรีสะเกษให้ดำเนินการกับกลุ่มนายทุนใช้ชาวบ้านเป็นเครื่องมือบุกรุกตัดไม้-แผ้วถางป่าชุมชน “ราชินี” ที่อุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งต้นน้ำ “อ่างเก็บน้ำห้วยศาลา” เพื่อปลูกยางพาราเป็นบริเวณกว้าง เผยปัจจุบันต้นไม้ใหญ่ถูกตัดโค่นเกือบหมดแล้ว
วันนี้ (29 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าห้องปฏิบัติการผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พระอาจารย์จอน จารุธัมโม ประธานสงฆ์วัดป่าพึ่งธรรม ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นำชาวบ้านโอปังโก ต.ไพรพัฒนา กว่า 30 คน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับ นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ
เพื่อขอความช่วยเหลือให้ดำเนินการตรวจสอบและจับกุมดำเนินคดีกับกลุ่มนายทุนของ อ.ภูสิงห์ ที่หลอกใช้ชาวบ้านใน ต.ไพรพัฒนา กลุ่มหนึ่งเข้าไปบุกรุกแผ้วถางป่าราชินี บริเวณใกล้กับวัดป่าพึ่งธรรมที่มีพื้นที่ป่าติดกับอ่างเก็บน้ำห้วยศาลา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นป่าชุมชนขนาดใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ แต่ขณะนี้ได้ถูกกลุ่มนายทุนดังกล่าวบุกรุกตัดต้นไม้ใหญ่ รวมทั้งแผ้วถางป่าปลูกยางพาราเป็นบริเวณกว้าง
พระอาจารย์จอน เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวเมื่อสมัย 30 ปีก่อนได้ร่วมกับชาวบ้านใน ต.ไพรพัฒนา ช่วยกันก่อสร้างเป็นสำนักสงฆ์ขึ้นบนเนื้อที่ 50 ไร่ จากเนื้อที่ทั้งหมดกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งมีพื้นที่ติดกันและเป็นแหล่งต้นน้ำของอ่างเก็บน้ำห้วยศาลาเพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและเป็นศูนย์รวมในการอนุรักษ์รักษาผืนป่าแห่งนี้ไว้ให้ลูกหลาน โดยชาวบ้านได้เรียกป่าแห่งนี้ว่า “ป่าราชินี” ซึ่งเป็นป่าชุมชนที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับชาวบ้านสร้างแนวกันไฟ รวมทั้งปลูกป่าเพิ่มเติมขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสมดุลของป่าไว้ จนกระทั่งเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มนายทุนนำหวายมาปลูกที่บริเวณข้างวัด จากนั้นก็มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งเริ่มเข้ามาแผ้วถางป่าแห่งนี้ โดยบอกว่ามีคนจ้างมาเพราะเป็นที่ดินที่มีเจ้าของและได้นำกล้วย ยางพารามาปลูก ส่วนต้นไม้ใหญ่ถูกตัดโค่นและขนออกจากป่าไปจนใกล้หมดแล้ว
พระอาจารย์จอน กล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปี ได้ร่วมกับชาวบ้านคัดค้าน และร้องเรียนกับหน่วยงานที่รับผิดชอบมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้มีการเข้าไปตรวจสอบ หรือแก้ไขแต่อย่างใด และได้มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเข้าไปข่มขู่พระในวัดตลอดเวลาเพื่อให้หยุดเคลื่อนไหว ส่งผลต่อการเจริญภาวนาของพระสงฆ์ภายในวัด
พร้อมกับพูดว่าป่าหมดไม่เป็นไร ขอให้พื้นดินเหลือไว้ค่อยปลูกขึ้นมาใหม่ ซึ่งอาตมาเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากพื้นที่ป่าแห่งนี้เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์อยู่แล้วหากช่วยกันรักษา ชาวบ้าน พระสงฆ์ รวมทั้งสัตว์ป่าก็จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ จึงได้เดินทางมาขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษได้ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยเร่งด่วนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่ นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษได้สอบถามและพูดคุยกับพระอาจารย์จอน และชาวบ้านแล้ว ได้มอบหมายให้ นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ นายอำเภอภูสิงห์ ได้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งรายงานให้ทราบเพื่อแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วนต่อไป
