สกลนคร - นายก อบจ.สกลนคร นำชาวบ้านจากหลายอำเภอที่ถูกนายทุนเงินกู้โหดยึดบ้านที่ดินไร่นากว่า 50 คน บุกศาลากลางยื่นหนังสือให้ผู้ว่าฯช่วยเหลือด่วน ขณะที่ผู้ว่าฯสกลนครเต้นสั่งเอาผิดนายทุนหน้าเลือดถึงที่สุด
ช่วงสายวันนี้ (29 ม.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดสกลนคร อ.เมือง จ.สกลนคร นายวีรศักดิ์ พรหมภักดี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สกลนคร นำชาวบ้านกว่า 50 คน เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจาก นายไพรัตน์ สกลพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ภายหลังชาวบ้านจาก อ.สว่างแดนดิน, พังโคน, พรรณนานิคม และ วานรนิวาส กว่า 100 คน ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกนาย “ศ” นายทุนเงินกู้โหดเป็นที่รู้จักดีในพื้นที่ จ.สกลนคร ปล่อยกู้โดยให้ชาวบ้านเอาโฉนดที่ดินจำนองไว้ คิดดอกเบี้ยร้อยละ 30 บาท/เดือน
เมื่อจำนองเรียบร้อยหากชาวบ้านใช้หนีหมด แต่นายทุนคนดังกล่าวกลับไม่ยอมคืนโฉนดที่ดิน พร้อมแต่งเรื่อง อ้างลูกหนี้ยังเป็นหนี้อีกหลายแสนแม้กู้เพียงไม่กี่หมื่นบาท บางรายถึงขั้นต้องนำลูกสาวไปขัดดอก สร้างความเจ็บช้ำให้แก่ชาวบ้านเป็นจำนวนมาก จึงนำเรื่องเข้าพบพ่อเมืองช่วยเหลือด่วนหวั่นไร้ที่อยู่
นางคำฟอง วันสวัสดิ์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109/1 ม.44 ต.พอกน้อย อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ลูกหนี้รายหนึ่งกล่าวทั้งน้ำตา ว่า ตนมีอาชีพรับจ้างรายได้น้อย แต่เพราะต้องการที่จะนำเงินมาลงทุนค้าขายจึงได้นำที่นา 3 แปลง และที่ดินพร้อมบ้าน 1 แปลง รวม 4 แปลง นำไปจำนองกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แต่ธนาคารได้ปฏิเสธการขอกู้
ด้วยความที่เรียนหนังสือมาน้อยความรู้ก็ไม่มีจึงตัดสินใจนำที่ดินไปจำนองนอกระบบกับนายทุนเงินกู้ ชื่อ “ศ” ซึ่งอยู่ในอำเภอพังโคน และมีการตกลงทำสัญญาจำนอง เป็นเงิน 4 หมื่นบาท ต่อมาได้ชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยอยู่เป็นประจำทุกงวด จนครบตามจำนวนหนี้
แต่นายทุน “ศ” ก็ยังไม่ยอมคืนโฉนดที่ดินให้ และพยายามบ่ายเบี่ยงตลอดเวลา และยังบอกว่าตนยังติดหนี้อีกราว 4.7 แสนบาท ตนไม่รู้จะทำอย่างไร เนื่องจากหนี้ที่ยืมมาก็เพียง 4 หมื่นและได้จ่ายเงินจำนวน 8 หมื่นบาท จนครบแล้วตั้งแต่ปี 2540 ยังคงติดหนี้อีก
โดยนายทุน “ศ” รายนี้ ยังบอกว่าหากไม่มีเงินต้นมาใช้หนี้ก็ให้เอาลูกสาวมาขัดดอกแทน ด้วยความที่ลูกสาวสงสารแม่ และยากให้ได้ที่ดินทั้งหมดคืน จึงยอมเสียสละทั้งร่างกายและจิตใจ จึงต้องยอมไปขัดดอก ด้วยความสงสารลูกสาวตนจึงตัดสินใจเดินทางมาเรียกร้องความเป็นธรรมในครั้งนี้
ภายหลังรับฟังข้อร้องเรียนจากชาวบ้านแล้ว นายไพรัตน์ สกลพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า นายทุนเงินกู้โหดรายนี้มีพฤติกรรมที่ท้าทายกฎหมายบ้านเมืองมาก อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นผู้มีอิทธิพล หรือว่าเป็นใครก็ตาม หากสร้างความเดือดร้อนให้คนส่วนใหญ่ด้วยความเห็นแก่ตัว ตนพร้อมที่จะชักธงรบ เพื่อกู้ศักดิ์ศรีของผู้ถูกกระทำคืนมาอย่างเต็มที่
อย่างกรณีที่ชาวบ้านต้องนำลูกสาวไปขัดดอก ตนไม่อยากเชื่อว่าจะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในสังคมไทยยุคใหม่แล้ว แต่ก็พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นจริงและกินเวลานาน ในเบื้องต้นตนได้ขอความร่วมมือไปยัง พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผบก.ภ.จว.สกลนคร ให้เข้ามาดำเนินการให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกนายทุนรายนี้ฟ้องว่า ข้อกล่าวหาที่นายทุนได้ฟ้องให้ชะลอไว้ก่อน เพื่อรอการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งได้เตรียมปรึกษากับอัยการจังหวัดเพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป
พร้อมกันนี้ ได้แนะนำให้ชาวบ้านทุกคนที่ได้รับความเดือดร้อนไปแจ้งรายละเอียดปัญหา ต่อสำนักงานดำรงธรรมจังหวัดสกลนคร เพื่อจะได้หาทางช่วยเหลือในเร็วนี้
ผู้ว่าจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า ปัญหาทุกอย่างจะต้องจบลงด้วยความเรียบร้อย เนื่องจากตนได้ประสานไปยังชุดสืบสวนสอบสวนของ ป.ป.ช.และกระทรวงมหาดไทย ให้ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง เพื่อเป็นการปราบปรามกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบที่มีพฤติกรรมฉ้อโกงประชาชน
ช่วงสายวันนี้ (29 ม.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดสกลนคร อ.เมือง จ.สกลนคร นายวีรศักดิ์ พรหมภักดี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สกลนคร นำชาวบ้านกว่า 50 คน เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจาก นายไพรัตน์ สกลพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ภายหลังชาวบ้านจาก อ.สว่างแดนดิน, พังโคน, พรรณนานิคม และ วานรนิวาส กว่า 100 คน ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกนาย “ศ” นายทุนเงินกู้โหดเป็นที่รู้จักดีในพื้นที่ จ.สกลนคร ปล่อยกู้โดยให้ชาวบ้านเอาโฉนดที่ดินจำนองไว้ คิดดอกเบี้ยร้อยละ 30 บาท/เดือน
เมื่อจำนองเรียบร้อยหากชาวบ้านใช้หนีหมด แต่นายทุนคนดังกล่าวกลับไม่ยอมคืนโฉนดที่ดิน พร้อมแต่งเรื่อง อ้างลูกหนี้ยังเป็นหนี้อีกหลายแสนแม้กู้เพียงไม่กี่หมื่นบาท บางรายถึงขั้นต้องนำลูกสาวไปขัดดอก สร้างความเจ็บช้ำให้แก่ชาวบ้านเป็นจำนวนมาก จึงนำเรื่องเข้าพบพ่อเมืองช่วยเหลือด่วนหวั่นไร้ที่อยู่
นางคำฟอง วันสวัสดิ์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109/1 ม.44 ต.พอกน้อย อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ลูกหนี้รายหนึ่งกล่าวทั้งน้ำตา ว่า ตนมีอาชีพรับจ้างรายได้น้อย แต่เพราะต้องการที่จะนำเงินมาลงทุนค้าขายจึงได้นำที่นา 3 แปลง และที่ดินพร้อมบ้าน 1 แปลง รวม 4 แปลง นำไปจำนองกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แต่ธนาคารได้ปฏิเสธการขอกู้
ด้วยความที่เรียนหนังสือมาน้อยความรู้ก็ไม่มีจึงตัดสินใจนำที่ดินไปจำนองนอกระบบกับนายทุนเงินกู้ ชื่อ “ศ” ซึ่งอยู่ในอำเภอพังโคน และมีการตกลงทำสัญญาจำนอง เป็นเงิน 4 หมื่นบาท ต่อมาได้ชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยอยู่เป็นประจำทุกงวด จนครบตามจำนวนหนี้
แต่นายทุน “ศ” ก็ยังไม่ยอมคืนโฉนดที่ดินให้ และพยายามบ่ายเบี่ยงตลอดเวลา และยังบอกว่าตนยังติดหนี้อีกราว 4.7 แสนบาท ตนไม่รู้จะทำอย่างไร เนื่องจากหนี้ที่ยืมมาก็เพียง 4 หมื่นและได้จ่ายเงินจำนวน 8 หมื่นบาท จนครบแล้วตั้งแต่ปี 2540 ยังคงติดหนี้อีก
โดยนายทุน “ศ” รายนี้ ยังบอกว่าหากไม่มีเงินต้นมาใช้หนี้ก็ให้เอาลูกสาวมาขัดดอกแทน ด้วยความที่ลูกสาวสงสารแม่ และยากให้ได้ที่ดินทั้งหมดคืน จึงยอมเสียสละทั้งร่างกายและจิตใจ จึงต้องยอมไปขัดดอก ด้วยความสงสารลูกสาวตนจึงตัดสินใจเดินทางมาเรียกร้องความเป็นธรรมในครั้งนี้
ภายหลังรับฟังข้อร้องเรียนจากชาวบ้านแล้ว นายไพรัตน์ สกลพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า นายทุนเงินกู้โหดรายนี้มีพฤติกรรมที่ท้าทายกฎหมายบ้านเมืองมาก อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นผู้มีอิทธิพล หรือว่าเป็นใครก็ตาม หากสร้างความเดือดร้อนให้คนส่วนใหญ่ด้วยความเห็นแก่ตัว ตนพร้อมที่จะชักธงรบ เพื่อกู้ศักดิ์ศรีของผู้ถูกกระทำคืนมาอย่างเต็มที่
อย่างกรณีที่ชาวบ้านต้องนำลูกสาวไปขัดดอก ตนไม่อยากเชื่อว่าจะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในสังคมไทยยุคใหม่แล้ว แต่ก็พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นจริงและกินเวลานาน ในเบื้องต้นตนได้ขอความร่วมมือไปยัง พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผบก.ภ.จว.สกลนคร ให้เข้ามาดำเนินการให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกนายทุนรายนี้ฟ้องว่า ข้อกล่าวหาที่นายทุนได้ฟ้องให้ชะลอไว้ก่อน เพื่อรอการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งได้เตรียมปรึกษากับอัยการจังหวัดเพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป
พร้อมกันนี้ ได้แนะนำให้ชาวบ้านทุกคนที่ได้รับความเดือดร้อนไปแจ้งรายละเอียดปัญหา ต่อสำนักงานดำรงธรรมจังหวัดสกลนคร เพื่อจะได้หาทางช่วยเหลือในเร็วนี้
ผู้ว่าจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า ปัญหาทุกอย่างจะต้องจบลงด้วยความเรียบร้อย เนื่องจากตนได้ประสานไปยังชุดสืบสวนสอบสวนของ ป.ป.ช.และกระทรวงมหาดไทย ให้ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง เพื่อเป็นการปราบปรามกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบที่มีพฤติกรรมฉ้อโกงประชาชน