แพร่ - พบแล้วศพพนักงานขับรถไฟที่หายสาบสูญ หลังหัวรถจักรดิ่งน้ำยม 1 ปี 5 เดือนก่อน ล่าสุดชาวบ้านหาปลาพบซากศพในแม่น้ำยมที่เหลือแต่โครงกระดูก-รองเท้าโผล่กลางสันทรายในแม่น้ำยม ต้องวิ่งโร่แจ้งตำรวจขุดพบเป็นศพ พขร.ที่หายไปในวันรถไฟตกราง
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2549 เวลา 20.45 น.ได้เกิดรถไฟขบวนที่ 52 เชียงใหม่ กรุงเทพฯ เกิดตกรางที่บริเวณบ้านแก่งหลวง ต.แม่ปาน อ.ลอง จ.แพร่ โดยมีโบกี้ที่ 2 และหัวรถจัก ตกลงไปในแม่น้ำยม ซึ่งในขณะนั้นเกิดน้ำท่วมสูงจนหัวรถจักหายไปในน้ำ และก็ทำให้นายสาธิต เอี่ยมเสือ พขร.เสียชีวิตคาที่ และยังมี พขร.อีกคนซึ่งได้หายสาบสูญไปตั้งแต่วันเกิดเหตุคือนายอนุชา อนุรักษ์ ช่างเครื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทั้งกู้ภัย พนักงานการรถไฟได้ออกค้นหานานนับเดือนก็ไม่พบจึงเลิกค้นหาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ล่าสุด พ.ต.ท.ธงชัย เนื่องพืช สารวัตรเวร สภ.ลอง จ.แพร่ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านเมื่อวันที่ 23 ม.ค.51 ที่ผ่านมาว่า มีรองเท้าพร้องเท้าคนโผล่ออกมาจากกองทรายในแม่น้ำยมที่แห้งขอดคาดว่าจะเป็นศพที่ถูกฆ่านำมาทิ้ง จากนั้นจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบจากนั้นได้รุกไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุรสิทธิ์ ชาวนา รอง ผกก.(ป.) พ.ต.อ.สิรภพ พุ่มเฉลิม ผกก.สภ.ลอง หน่วยกู้ภัย และแพทย์จากโรงพยาบาลลอง ได้เดินทางไปที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง ซึ่งห่างจากที่หัวรถจักรตกรางจมน้ำประมาณ 80 เมตร
สภาพศพที่เห็นเป็นเพียงรองเท้าที่โผล่ขึ้นมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขุดขุ้ยเอาทรายออกก็พบมีกางเกงเสื้อชุดของ พขร.พร้อมกระดูกข้อเท้าที่ติดรองเท้าอยู่ กระดูกบางส่วนที่ติดอยู่กับเสื้อ ส่วนหัวกะโหลกไม่พบ เมื่อตรวจค้นในกระเป๋ากางเกงพบมีกระเป๋าใส่เงินสีดำ มีเงินเหรียญสิบบาทจำนวน 8 เหรียญ และมีบัตรเอกสารอื่น เช่น บัตรประจำตัว พขร. บัตรประชาชน ใบขับขี่ ระบุชื่อนายอนุชา อนุรักษ์ ซึ่งก็เป็นคนเดียวกับที่หายสาบสูญไปเมื่อครั้งรถไฟตกรางจมน้ำ เวลาผ่านไปร่วม 1 ปี 5 เดือน
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมเอากระดูกที่เหลือทั้งหมดมาเก็บไว้ เพื่อที่จะนำไปตรวจหาดีเอ็นเออีกครั้ง จากนั้นได้แจ้งให้ทางญาติได้รับทราบ ซึ่งจากการตรวจสอบของแพทย์โรงพยาบาลลอง ยืนยันว่าเป็นกระดูกของมนุษย์จริง ต่อมานายสมชาติ อนุรักษ์ ผู้เป็นพ่อของนายอนุชา ได้เดินทางไปตรวจสอบหลักฐานต่างๆ และยืนยันว่ามีสร้อยคอมีเหรียญรัชกาลที่ 5 กรอบเงิน และเอกสารต่างๆ ซึ่งมั่นใจว่าเป็นของลูกชายแน่นอน
อย่างไรก็ดี ในวันนี้ (24 ม.ค.) ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย จะส่งเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจสอบเนื่องจากจะมีผลเรื่องของการจ่ายค่าตอบแทนต่างๆ ด้วย