ลำปาง – กฟผ.ยื้อเกมโยกย้ายกลุ่มเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยต่อ แม้ ครม.มีมติให้สร้างบ้านมั่นคงตามข้อเสนอ แต่ล่าสุดกลับอ้างต้องเสนอเรื่องเข้า ครม.ซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้มีหลักฐานการจ่ายเงิน แต่กลับโอนเงินชดเชยให้จังหวัดฯจ่ายให้ผู้ได้รับผลกระทบที่ขอรับเป็นตัวเงิน ขณะที่นายอำเภอคนใหม่ รับไม่เข้าใจการไฟฟ้าฯ โยนกลองแก้ปัญหาทั้งที่ ครม.มีมติชัดเจน นัดทุกฝ่ายหารือวันนี้ พร้อมย้ำต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 6 เดือน มิฉะนั้นขอย้ายตัวเอง
นายสามารถ ลอยฟ้า รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า จังหวัดลำปางได้มีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ของจังหวัด ในเรื่องการพิจารณาเงินชดเชย 4 หมู่บ้านในอำเภอแม่เมาะที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจำนวน 493 หลังคาเรือน จากการสำรวจล่าสุดพบว่าต้องจ่ายเงินชดเชย 366 หลังคาเรือน สร้างบ้านมั่นคง 108 หลังคาเรือน อีก 19 หลังคาเรือนมีความประสงค์และสมัครใจอยู่ที่เดิม
ภายหลังที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการไปแล้วนั้น ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้โอนเงินทั้งหมดที่ทางจังหวัดลำปาง เพื่อจ่ายให้กับกลุ่มที่ต้องการเงินชดเชยจำนวน 250 ล้านบาท โดยคณะกรรมการได้สำรวจ-สรุปยอดเงิน และจ่ายเงินงวดแรก 25% ให้กับประชาชน 79 ราย รวมเป็นยอดเงินทั้งสิ้น 37,800,880.03 ล้านบาท
โดยเมื่อวันที่ 16 ม.ค.51 ที่ผ่านมา ได้อนุมัติอีก 97 รายเป็นเงิน 43,416,951.90 ล้านบาท และทางจังหวัดได้พิจารณาเพิ่มเติมอีก 17 ราย จากยอดเดิมที่ระงับไว้ในงวดแรก รวมที่จะขออนุมัติและให้ทางจังหวัดโอนเงินให้ทางอำเภอเพื่อจ่ายให้กับประชาชน ในรอบใหม่คาดว่าจะจ่ายได้ภายในเดือนนี้ อีก 114 ราย รวม 49,518,031.71 ล้านบาท
สรุป ณ เวลานี้ได้มีการอนุมัติจ่ายเงินงวดแรกให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบในส่วนผู้ที่ต้องการเงินชดเชยแล้ว 193 ราย เหลืออีก 173 ราย ที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติม บางส่วนก็อยู่ระหว่างอุทธรณ์ในราคาประเมิน
ส่วนกรณีของผู้ป่วยที่ต้องการให้สร้างบ้านมั่นคงให้ และมีมติของ ครม.ออกมาให้ดำเนินการก่อสร้างบ้านให้ผู้ได้รับผลกระทบ เมื่อวันที่ 15 ม.ค.51 แล้วนั้น นายเสริมศักดิ์ สีสันต์ นายอำเภอแม่เมาะคนใหม่ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคม 51 ได้เข้าพูดคุยในเรื่องดังกล่าวกับนายเกียรติสาร เอกะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่โรงไฟฟ้า 2 โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ได้คำตอบว่า กรณีของกลุ่มผู้ป่วยจะต้องนำเข้าหารือใน ครม.อีกครั้ง เพื่อให้มีหลักฐานในการจ่าย เพราะ กฟผ.เกรงจะมีปัญหาตามมาทีหลัง
นายเสริมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในประเด็นนี้ส่วนตัวผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะก่อนหน้านั้นเท่าที่ทราบคือก็ได้รับการพิจารณาจาก ครม.อนุมัติให้ดำเนินการได้ แต่ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไร ถึงโยนเรื่องไปทางโน้นทีทางนี้ที ซึ่งเรื่องทั้งหมดควรจะจบได้แล้ว และตนเองก็ไม่เห็นด้วยกันวิธีการนี้
ดังนั้น ในวันนี้ (22 ม.ค.) จะเชิญทุกฝ่ายเข้าหารือในเรื่องนี้อีกครั้งแล้วจะเชิญกลุ่มผู้ป่วยมาพูดคุยกันเพื่อหาข้อยุติ ซึ่งตนเห็นว่าที่ผ่านมากลุ่มผู้ป่วยก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ที่มีปัญหาคือ มีคนคอยยุยงอยู่เบื้องหลัง บางคนก็มีอิทธิพลและมีอคติต่อกัน ซึ่งผมจะต้องทำให้ทุกคนทุกฝ่ายที่จะเข้าไปอยู่ในพื้นที่เดียวกันอยู่ด้วยกันให้ได้ และจะใช้เวลาเพียง 6 เดือน เพื่อสะสางปัญหาที่มีอยู่ให้หมดไป หากทำไม่ได้ก็พร้อมจะย้ายออกจากพื้นที่
สำหรับปัญหาการอพยพราษฎร 4 หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบด้านมลพิษจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแม่เมาะ นี้ได้ยืดเยื้อมานานกว่า 10 ปี แต่ก็แก้ปัญหาไม่ได้ แม้ว่าทาง กฟผ.จะจัดสรรพื้นที่รองรับการอพยพให้แล้วกว่า 1,100 ไร่ ณ บริเวณบ้านห้วยรากไม้ ม.5 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ พร้อมสาธารณูปโภคครบครันพร้อมให้เข้าอยู่ได้ทันที แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากเกิดความขัดแย้งชาวบ้าน ที่มีการแบ่งแยกออกเป็นกลุ่มๆ จนในที่สุดพื้นที่ดังกล่าวในปัจจุบันเริ่มทรุดโทรมลงตามลำดับ
นายสามารถ ลอยฟ้า รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า จังหวัดลำปางได้มีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ของจังหวัด ในเรื่องการพิจารณาเงินชดเชย 4 หมู่บ้านในอำเภอแม่เมาะที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจำนวน 493 หลังคาเรือน จากการสำรวจล่าสุดพบว่าต้องจ่ายเงินชดเชย 366 หลังคาเรือน สร้างบ้านมั่นคง 108 หลังคาเรือน อีก 19 หลังคาเรือนมีความประสงค์และสมัครใจอยู่ที่เดิม
ภายหลังที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการไปแล้วนั้น ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้โอนเงินทั้งหมดที่ทางจังหวัดลำปาง เพื่อจ่ายให้กับกลุ่มที่ต้องการเงินชดเชยจำนวน 250 ล้านบาท โดยคณะกรรมการได้สำรวจ-สรุปยอดเงิน และจ่ายเงินงวดแรก 25% ให้กับประชาชน 79 ราย รวมเป็นยอดเงินทั้งสิ้น 37,800,880.03 ล้านบาท
โดยเมื่อวันที่ 16 ม.ค.51 ที่ผ่านมา ได้อนุมัติอีก 97 รายเป็นเงิน 43,416,951.90 ล้านบาท และทางจังหวัดได้พิจารณาเพิ่มเติมอีก 17 ราย จากยอดเดิมที่ระงับไว้ในงวดแรก รวมที่จะขออนุมัติและให้ทางจังหวัดโอนเงินให้ทางอำเภอเพื่อจ่ายให้กับประชาชน ในรอบใหม่คาดว่าจะจ่ายได้ภายในเดือนนี้ อีก 114 ราย รวม 49,518,031.71 ล้านบาท
สรุป ณ เวลานี้ได้มีการอนุมัติจ่ายเงินงวดแรกให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบในส่วนผู้ที่ต้องการเงินชดเชยแล้ว 193 ราย เหลืออีก 173 ราย ที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติม บางส่วนก็อยู่ระหว่างอุทธรณ์ในราคาประเมิน
ส่วนกรณีของผู้ป่วยที่ต้องการให้สร้างบ้านมั่นคงให้ และมีมติของ ครม.ออกมาให้ดำเนินการก่อสร้างบ้านให้ผู้ได้รับผลกระทบ เมื่อวันที่ 15 ม.ค.51 แล้วนั้น นายเสริมศักดิ์ สีสันต์ นายอำเภอแม่เมาะคนใหม่ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคม 51 ได้เข้าพูดคุยในเรื่องดังกล่าวกับนายเกียรติสาร เอกะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่โรงไฟฟ้า 2 โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ได้คำตอบว่า กรณีของกลุ่มผู้ป่วยจะต้องนำเข้าหารือใน ครม.อีกครั้ง เพื่อให้มีหลักฐานในการจ่าย เพราะ กฟผ.เกรงจะมีปัญหาตามมาทีหลัง
นายเสริมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในประเด็นนี้ส่วนตัวผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะก่อนหน้านั้นเท่าที่ทราบคือก็ได้รับการพิจารณาจาก ครม.อนุมัติให้ดำเนินการได้ แต่ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไร ถึงโยนเรื่องไปทางโน้นทีทางนี้ที ซึ่งเรื่องทั้งหมดควรจะจบได้แล้ว และตนเองก็ไม่เห็นด้วยกันวิธีการนี้
ดังนั้น ในวันนี้ (22 ม.ค.) จะเชิญทุกฝ่ายเข้าหารือในเรื่องนี้อีกครั้งแล้วจะเชิญกลุ่มผู้ป่วยมาพูดคุยกันเพื่อหาข้อยุติ ซึ่งตนเห็นว่าที่ผ่านมากลุ่มผู้ป่วยก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ที่มีปัญหาคือ มีคนคอยยุยงอยู่เบื้องหลัง บางคนก็มีอิทธิพลและมีอคติต่อกัน ซึ่งผมจะต้องทำให้ทุกคนทุกฝ่ายที่จะเข้าไปอยู่ในพื้นที่เดียวกันอยู่ด้วยกันให้ได้ และจะใช้เวลาเพียง 6 เดือน เพื่อสะสางปัญหาที่มีอยู่ให้หมดไป หากทำไม่ได้ก็พร้อมจะย้ายออกจากพื้นที่
สำหรับปัญหาการอพยพราษฎร 4 หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบด้านมลพิษจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแม่เมาะ นี้ได้ยืดเยื้อมานานกว่า 10 ปี แต่ก็แก้ปัญหาไม่ได้ แม้ว่าทาง กฟผ.จะจัดสรรพื้นที่รองรับการอพยพให้แล้วกว่า 1,100 ไร่ ณ บริเวณบ้านห้วยรากไม้ ม.5 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ พร้อมสาธารณูปโภคครบครันพร้อมให้เข้าอยู่ได้ทันที แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากเกิดความขัดแย้งชาวบ้าน ที่มีการแบ่งแยกออกเป็นกลุ่มๆ จนในที่สุดพื้นที่ดังกล่าวในปัจจุบันเริ่มทรุดโทรมลงตามลำดับ
