ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษโหมรณรงค์ให้เกษตรกรชาวศรีสะเกษไถกลบตอซังข้าว และหว่านพืชตระกูลถั่วเพื่อปรับปรุงบำรุงดินแทนการใช้ปุ๋ยเคมี และพัฒนาไปสู่การเกษตรอินทรีย์ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อลดต้นทุนการผลิตและส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (18 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหนองค้า ต.หนองค้า อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ไถกลบตอซังข้าวและพบปะกับประชาชนชาวบ้านหนองค้า เพื่อให้รณรงค์เชิญชวนให้เกษตรกรชาว จ.ศรีสะเกษ หันมาใช้วิธีปรับปรุงบำรุงดินแบบเกษตรอินทรีย์แทนการใช้ปุ๋ยเคมี โดยการไถกลบตอซังข้าว และหว่านพืชตระกูลถั่ว
พร้อมทั้งได้สาธิตการหว่านพืชตระกูลถั่วลงในแปลงนา และผู้ว่าฯ ศรีสะเกษได้ขับรถไถนาเพื่อไถกลบตอซังข้าวเพื่อให้ประชาชนที่มาร่วมงานครั้งนี้ได้ชมด้วย โดยมีประชาชนชาวบ้านหนองค้าและหมู่บ้านใกล้เคียงมาร่วมงานกันอย่างคึกคัก
นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวในนาแล้วเกษตรกรควรมีการไถกลบตอซังข้าวเพราะเป็นเรื่องดีที่มีประโยชน์มาก นอกจากจะเป็นการช่วยทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์แล้วยังเป็นการลดต้นทุนการผลิต ไม่ต้องซื้อปุ๋ยเคมีซึ่งมีราคาแพงขึ้นทุกวัน และสามารถพัฒนานำไปสู่การทำการเกษตรอินทรีย์ ตามแนวพระราชดำริขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อทำให้เกิดสิ่งแวดล้อมที่ดี ประชาชนมีพลานามัยสมบูรณ์ร่างกายแข็งแรง มีความมั่นคงทางด้านอาหาร ทั้งครอบครัวและชุมชน
นายเสนีย์ กล่าวต่อว่า จ.ศรีสะเกษ ได้ดำเนินโครงการรณรงค์ไถกลบตอซังข้าวเพื่อเป็นกรณีตัวอย่างให้ประชาชนเกิดความตระหนักในเรื่องนี้เกือบทุกอำเภอแล้ว เนื่องจากต้องปรับปรุงดินเป็นจุดเริ่มต้นของการทำการเกษตรอินทรีย์ เช่น การไถกลบตอซัง และการหว่านพืชปุ๋ยสด
ดังนั้น หน้าแล้งนี้เกษตรกรอย่าเผาตอซังข้าวทิ้ง ควรหันมาไถกลบตอซังข้าวจะดีกว่า และมีประโยชน์มากในการช่วยปรับปรุงสมบัติทางกายภาพของดิน เพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุและหมุนเวียนธาตุอาหารพืชคืนสู่ดินและดูดซับธาตุอาหารในดิน และปลดปล่อยออกมาอยู่ในรูปที่เป็นประโยชน์ต่อพืช ลดความเป็นพิษของเหล็กและแมงกานีสในดิน เพิ่มปริมาณของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดิน
“ทั้งนี้ อินทรีย์วัตถุเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำเนินกิจกรรมของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดินมาก เช่น ช่วยในการลดระดับความเค็มของดิน รักษาระดับความเป็นกรดด่างของดิน เพิ่มผลผลิตให้กับพี่น้องชาวเกษตรกรต่อไป” นายเสนีย์ กล่าว
