กาฬสินธุ์ - หนุ่มนักศึกษาปี 4 สถาบันมีชื่อแห่งหนึ่งในกาฬสินธุ์ เกิดอาการคลุ้มคลั่งจะกระโดดศาลากลางจังหวัด ซึ่งสูงถึง 7 ชั้น เนื่องจากคิดว่าแฟนสาวเกิดปันใจไปมีชายอื่น แต่โชคดีที่สามารถเกลี้ยกล่อมลงมาได้
วันนี้ (17 ม.ค.) เวลา 15.00 น.ร.ต.ท.พงษ์ภิญโญ ลมคำพา พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ว่า มีคนจะพยายามกระโดดลงมาจากศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ด้านจิตเวช และหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ พร้อมกับรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้น
ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นตึกสูงระฟ้าของศาลากลาง ชั้น 7 เจ้าหน้าที่พบ นายปิยะพงษ์ (ตั้ม) มุดนาเวช อายุ 24 ปี คุ้มทุ่งศรีเมือง ตำบลกาฬสินธุ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ สวมเสื้อยีนส์สีเทาคล้ายชุดทหาร ในสภาพซึมเศร้า ร้องไห้อยู่ตลอดเวลาโดยปากพร่ำพูดถึงแต่ น.ส.อ้น ซึ่งเป็นแฟนสาวอยู่ตลอดเวลา
หลังทราบเหตุ นายประชา จิตสุทธิผล ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ นายพงษ์ศักดิ์ นาถประดา รองผู้ว่าราชการจังหวัด จัดหาเจ้าหน้าที่จิตเวชผู้ชำนาญจากโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เข้ามาช่วยกันเกลี้ยกล่อมเนื่องจาก นายปิยะพงษ์ หรือ ตั้ม มีความพยายามที่จะกระโดดตึก
ต่อมาเวลาราว 15.30 น.ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่จิตเวช ได้เดินทางเข้าไปเกลี้ยกล่อม โดยได้นำตัว น.ส.อ้น แฟนสาวไปด้วย จากนั้นได้ใช้เวลาในการพูดคุยประมาณ 30 นาที นายปิยะพงษ์ จึงยอมเดินลงมาแต่โดยดี ท่ามกลางบรรดาไทยมุ่งที่เฝ้าดูอย่างใกล้ชิด โดย นายปิยะพงษ์ ได้แต่เดินเพ้อพูดแต่เพียงชื่อ น.ส.อ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวมอบให้ทีมแพทย์โรงพยาบาลกาฬสินธุ์เข้าบำบัดรักษาต่อไป
นางกันติมาภรณ์ วิวัฒน์ตระกูล หัวหน้างานอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นขณะนี้ นายปิยะพงษ์ ได้เข้ารับการบำบัดรักษาด้านสุขภาพทางจิตแล้ว ส่วนสาเหตุคาดว่าจะมาจากสาเหตุหึงหวงแฟนสาว เพราะเท่าที่สอบถามทราบว่า คิดมากเรื่องมีเพื่อนชายโทร.เข้ามาหาแฟนของตน
ด้าน นายประชา จิตสุทธิผล ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่โชคดีที่สามารถป้องกันเหตุได้ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นคงเป็นเพราะจิตใจไม่ปกติ อย่างไรก็ตาม ก็ได้กำชับให้ทางทีมแพทย์ได้ดูแลอย่างใกล้ชิด อีกทั้งเนื่องจากเป็นนักศึกษาก็จะได้กำชับไปยังสถาบันการศึกษา ได้ติดตามพฤติกรรมนักศึกษาของตนเองอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายอีกต่อไป