พิษณุโลก - ศิลปากรที่ 6 เดินหน้าขุดแต่งฐานพระราชวังจันทน์ให้เสร็จปีนี้ พร้อมของบปี 52 อีก 103 ล้านบาท เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลประวัติศาสตร์-จ่ายชดเชยชาวบ้าน แต่ยังรอรัฐบาลใหม่-บารมี ส.ส.พิษณุโลก จะจัดสรรงบให้ได้หรือไม่ ยอมรับที่ผ่านมานักท่องเที่ยวร้องเรียนมาดูแล้วไม่มีอะไร
รายงานข่าวจากจังหวัดพิษณุโลก แจ้งว่า นายอนันต์ ชูโชติ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย พร้อมคณะได้ลงสำรวจพื้นที่พระราชวังจันทน์ อ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 16 ม.ค.51 ที่ผ่านมาเพื่อติดตามงานบูรณะ พร้อมกับกล่าวว่า กรมศิลปากรได้เข้ามาบูรณะขุดแต่งพระราชวังจันทร์ตามมติ ครม.เมื่อปี 2545 โดยได้รื้อถอนอาคารของโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคมหมดแล้ว ล่าสุดเตรียมแผนบูรณะพระราชวังจันทน์เนื้อที่ 128 ไร่ 2 งาน เพื่อเปิดพื้นที่ให้สมบูรณ์ สมเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ พระราชวังจันทร์
ในปี 2551 กรมศิลปากรได้รับงบประมาณจำนวน 9.7 ล้านบาท จะทำการขุดแต่งฐานพระราชฐานชั้นในทั้งหมดให้เห็นเป็นเค้าโครงชัดเจน ผลการขุดค้นพบว่าพระราชวังจันทน์มีการสร้างวังมา 3 ยุคสมัย ยุคแรกสร้างขึ้นสมัยอยุธยาตอนต้น ครั้งเจ้าสามพระยาครองเมืองพิษณุโลกจากฐานพระราชวังลึกจากพื้นดิน 1.5 เมตร แต่จุดนี้จะไม่ขุดขึ้นมา เพียงแต่จะทำแนวเป็นป้ายบอก
ยุคที่ 2 สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ กษัตริย์อยุธยาที่มาประทับอยู่ที่เมืองพิษณุโลกนานถึง 25 ปี และยุคที่ 3 สร้างสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยจะขุดแนวฐานอิฐถือปูนของพระราชวังที่สร้างในยุคที่ 3 ให้เห็นแนวพระราชฐานให้เด่นชัด พร้อมกับทำอาคารศูนย์ข้อมูลชั่วคราวให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาความเป็นมาบริเวณหน้าประตูทางเข้า หลังจากที่ได้รับข้อร้องเรียนว่า มาดูพระราชวังจันทน์แล้วไม่มีอะไร
ในปี 2552 ได้จัดทำคำของบประมาณจำนวน 103 ล้านบาท เพื่อบูรณะพระราชวังจันทน์ให้สมบูรณ์ ปรับภูมิทัศน์ 128 ไร่ พร้อมเชื่อมโบราณสถานรอบๆ คือ วัดศรีสุคต วัดวิหารทอง สระสองห้อง โดยจะแยกใช้งบ 40 ล้านบาทเพื่อก่อสร้างศูนย์ข้อมูลประวัติศาสตร์ภายในอาคารเดิมของสำนักงานป่าไม้ ที่กำลังดำเนินการย้ายออก และเตรียมงบประมาณอีก 30 ล้านบาทสำหรับค่าขนย้ายบ้านเรือนประชาชนจำนวน 129 หลังคาเรือนในเขตโบราณสถานออกไปทั้งหมด ล่าสุดกำลังสำรวจอย่างละเอียดถึงเงินค่าชดเชยแต่ละหลัง
นายอนันต์ กล่าวอีกว่า เงินงบประมาณ 103 ล้านบาทก็ควรได้รับอนุมัติจากสำนักงบประมาณ เพราะหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบไว้เกือบ 400 ล้าน(รวมค่าย้ายโรงเรียน) แต่กรมศิลปก็ไม่ได้เบิกจ่ายมาครบทั้งหมด นำมาใช้เพียง 50-60 ล้านบาทเท่านั้น
ฉะนั้น คิดว่าการของบประมาณในปี 52 คงไม่ยากนัก แต่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่ และ ส.ส.ของพิษณุโลกว่าจะใช้บารมีผลักดันงบเข้าจังหวัดพิษณุโลกได้หรือไม่ หากทำได้เท่ากับ ส.ส.กำแพงเพชร ที่ผันเงินมาลงอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรแล้ว 400 ล้านบาทก็ถือว่าประสบผลสำเร็จ
สำหรับพระราชวังวังจันทน์นั้นมีเรื่องราวและประวัติศาสตร์น่าสนใจกว่า อีกทั้งพิษณุโลกเป็นเมืองใหญ่ ถ้าได้ผู้ที่มีความสามารถร่วมมือกันดึงงบเข้ามาบูรณะพระราชวังจันทน์ ก็เท่ากับพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวพิษณุโลกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น