ผู้ว่าฯ สั่งตั้งกรรมการหารือลาวแก้ปัญหานักท่องเที่ยวตกภูชี้ฟ้าถาวร

เชียงราย – ผู้ว่าฯ เมืองพ่อขุนฯ สั่ง นอภ.เทิง ตั้งกรรมการร่วมหามาตรการป้องกันนักท่องเที่ยวตกดอยซ้ำ ชี้อาจต้องตั้งวงหารือ สปป.ลาว ที่ยังมีปัญหาเรื่องเขตแดนบริเวณที่เกิดเหตุก่อน ระบุการใช้เชือกกั้นจุดล่อแหลมเป็นมาตรการเบื้องต้นเท่านั้น พร้อมเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องการท่องเที่ยวทุกท้องที่เร่งหาวิธีป้องกันด่วน ขณะที่กรุ๊ปทัวร์แห่ขึ้นผาตั้งแทนภูชี้ฟ้า ร่วมงานชิมอาหารจีน-ดูซากุระบานถิ่นลูกหลายกองพลก๊กมินตั๋ง

รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า หลังจากเกิดเหตุนักท่องเที่ยวพลัดตกเหวบริเวณจุดชมวิว หรือปากสิงห์โต ภูชี้ฟ้า ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย จนเสียชีวิตเมื่อ 13 ม.ค.51 ที่ผ่านมา ล่าสุดนายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ออกคำสั่งเมื่อ 15 ม.ค.51 ให้นายชัยสิทธิ์ รัตนชัยสิทธิ์ นายอำเภอเทิง จ.เชียงราย ตั้งคณะกรรมการหามาตรการในการป้องกันนักท่องเที่ยวแล้ว

การจะไปทำที่กั้น หรือราว หรือกองหิน ที่ขอบภูชี้ฟ้านั้นอาจจะทำยาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ชายแดน คาบเกี่ยวกับ สปป.ลาว ดังนั้น ต้องให้หารือฝ่าย สปป.ลาว ด้วยว่าจะหาทางในการป้องกันนักท่องเที่ยวตกจากภูชี้ฟ้าได้อย่างไร

กรณีที่เจ้าหน้าที่วนอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า กรมป่าไม้ ร่วมกับนายบันเทิง เครือวงค์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตับเต่า ได้นำเชือกปอสีแดงยาวกว่า 20 เมตร ไปล้อมจุดที่จักท่องเที่ยวตกหน้าผา และบริเวณจุดล่อแหลมอีกด้านของภูชี้ฟ้า รวม 2 จุด พร้อมประกาศเตือน ถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเท่านั้น

ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวก็ไม่ควรประมาทเกินไป เพราะการท่องเที่ยวธรรมชาติอาจมีอันตรายหลายรูปแบบ ซึ่งต้องแสดงความาเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตด้วย เพราะเหตุการณ์ไม่น่าเกิด เพียงเพราะผู้เสียชีวิตเข้าไปถ่ายภาพกับเพื่อน แล้วไม่ทราบว่าจุดที่ไปยืนด้านหลังติดหน้าผาสูงชัน จึงเหยียบไปบนหญ้าที่ไม่มีหินด้านล่าง ซึ่งจุดนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพิ่งขึ้นไปชมเมื่อวันที่ 7 ม.ค.51 ที่ผ่านมา ครั้งที่เดินทางมา จ.เชียงราย

ส่วนแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ก็ต้องหาทางป้องกันเหตุลักษณะนี้ด้วย คาดว่าหากมีมาตรการที่ดี นักท่องเที่ยวจะมั่นใจมาท่องเที่ยวตามปกติ

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่าล่าสุดพบว่ากรุ๊ปทัวร์จากต่างจังหวัด ได้แห่ขึ้นไปโต้ลมหนาวชมทะเลหมอก และดวงอาทิตย์ขึ้นที่บริเวณดอยผาตั้ง ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ซึ่งอยู่บนเทือกเขาเดียวกันกับดอยภูชี้ฟ้า ทำให้บรรยากาศดอยผาตั้ง ยอดดอยรอยตะเข็บชายแดนไทย-ลาว มีความครึกครื้นมากกว่าที่ดอยภูชี้ฟ้า ซึ่งซบเซาลงถนัดตา

กรุ๊ปทัวร์ได้ขึ้นโต้ลมหนาว ท่องเที่ยวงานชิมอาหารจีนยูนนาน ชมซากุระบานที่หมู่บ้านผาตั้ง หมู่ที่ 14 ที่มีการจัดการแสดงวัฒนธรรมธรรมชนเผ่าจีนคณะชาติ ลูกหลานกองพล 93 ก๊กมินตั๋ง ชนเผ่าม้ง เผ่าเมี่ยน (เย้า) เผ่าอาข่า เผ่าไทลื้อ เผ่าลาหู่ เป็นการแสดงร่ายรำตามแบบฉบับชนเผ่าที่ชมได้ยาก แสดงทั้งบนเวทีและมีการเดินเรียงแถวแสดงตามถนนวิถีธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งซุ้มพันธุ์ไม้เมืองหนาวให้นักท่องเที่ยวได้เลือกถ่ายรูปอย่างชื่นตา

นายแสน ลือชา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปอ กล่าวว่า ยอมรับว่าการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวที่พลัดตกดอยภูชี้ฟ้า มีผลกระทบกระเทือนต่อความมั่นใจของนักท่องเที่ยวอย่างมาก ทำให้นักท่องเที่ยวหลายๆส่วน ที่ขึ้นมาถึงบนเทือกเขาชายแดนไทย-ลาว ไม่ว่าจะเป็นภูชี้ฟ้า ต.ตับเต่า อ.เทิง รอยต่อดอยผาตั้ง ต.ปอ อ.เวียงแก่น ซึ่งอยู่ระนาบเดียวกันมีความวิตก บางส่วนไม่กล้าที่จะเดินขึ้นไปชมความงามบริเวณจุดที่สูง เกรงว่าจะได้รับอันตรายอย่างเช่นผู้เสียชีวิตรายล่าสุด

นายแสน กล่าวอีกว่า ในส่วนการรักษาความปลอดภัยของดอยผาตั้ง อบต.ได้ประสานทุกหน่วยงานในท้องถิ่นทั้งทหารพราน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น รวมทั้งประสานขอมัคคุเทศน์น้อย จากโรงเรียนบรรพตวิทยา ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทางอาจารย์ สนับสนุนไกด์จูเนียร์ มาอำนวยความสะดวกนำพานักท่องเที่ยว เข้าชมสถานที่ทั้งผาตั้ง ถ้ำผาบ่อง ประตูสู่สยามชายแดนไทย-ลาว เนิน 101, 102, 103 ที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,450 เมตร มีทะเลหมอกขาวโพลน นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นมาถ่ายรูปได้ โดยมีการจัดเจ้าหน้าที่ มาดูแลทางขึ้นตั้งแต่เวลา 04.00 น.เป็นต้นไป เพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายซ้ำสองขึ้นมาได้