ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตร.กองปราบฯ ส่งชุดทำงานลงพื้นที่โคราชร่วมสางคดีบึ้ม! บ้านเช่า ส.ส.“แรมโบ้อีสาน” ด้าน ตร.ภาค 3 เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีทุกชุด เพื่อสรุปพยานหลักฐาน เผยผลพิสูจน์ระบุเป็นระเบิดชนิดขว้างสังหาร แบบ 28-1 ชี้เป้าหมายการก่อเหตุ “สุพร อัตถาวงศ์” ระบุมุ่งสอบสวนปมขัดแย้งส่วนตัว “สุพร” เป็นหลัก เผยตำรวจผู้ตายมือระเบิดเป็นอดีต “ตชด.” เชี่ยวชาญอาวุธปืน-วัตถุระเบิด เชื่อไม่ได้ลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุระเบิดในซอยข้างบ้านเช่า ของ นายสุพร อัตถาวงศ์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย (ทรท.) 1 ใน 111 กรรมการบริหารพรรค ทรท.ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เลขที่ 38 หมู่ 3 เขตเทศบาลตำบลเสิงสาง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา เป็นเหตุให้ ด.ต.ดำเนิน เมสูงเนิน ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.สูงเนิน อ.สูงเนิน คาดเป็นมือระเบิด เสียชีวิตคาที่ และแรงระเบิดส่งผลให้บ้านหลังดังกล่าวได้รับความเสียหายบริเวณหลังคา และหน้าต่างกระจกแตกหลายบาน เมื่อคืนนี้วันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด วันนี้ (15 ม.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศูนย์อำนวยการ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.อำนาจ อันอาตม์งาม รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) เป็นประธานประชุม ชุดสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดีระเบิดในพื้นที่ อ.เสิงสาง โดยมีชุดสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา นำโดย พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.จว.) นครราชสีมา, ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3, ชุดสืบสวน สภ.เสิงสาง นำโดย พ.ต.อ.รวีวรรธน์ เทียนสุวรรณ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เสิงสาง และตำรวจกองปราบปราม เข้าร่วมประชุม
การประชุมเป็นไปด้วยความเคร่งเครียด ซึ่งไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนและบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับไปในห้องประชุมดังกล่าว และใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.ต.อำนาจ อันอาตม์งาม รอง ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้เพื่อสรุปพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ในที่เกิดเหตุ รวมถึงข้อมูลจากพยานที่ได้ทำการสอบปากคำไปแล้วจำนวน 11 ปาก และเชื่อมโยงกับข้อมูลที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ทำการสืบสวนมา รวมทั้งวันนี้ (15 ม.ค.) ทางตำรวจกองปราบปราม นำโดยผู้กำกับการ 3 กองปราบปราม ได้เข้ามาทำงานร่วมกันเพื่อคลี่คลายคดีนี้ด้วย
ขณะนี้ การสืบสวนสอบสวนคดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว และจากการตรวจพิสูจน์สะเก็ดระเบิดของกองวิทยาการเขต 21 ที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุพบว่า เป็นระเบิดชนิดขว้างสังหาร แบบ 82-1 ลูกเกลี้ยง นำเข้าจากประเทศจีน สามารถหาได้ง่ายตามแนวชายแดนเป็นอาวุธสมัยสงครามเวียดนาม ซึ่งทางการประกาศเลิกใช้อาวุธชนิดนี้ไปนานแล้ว
ส่วนอาวุธปืนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุเป็นของ ด.ต.ดำเนิน เมสูงเนิน ผู้ตายจริง จากการพิสูจน์ พบว่า เป็นปืนกล็อก 23 ขนาด .40 ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่า ที่พบปลอกกระสุนและหัวกระสุนในที่เกิดเหตุนั้น เป็นการยิงในช่วงระหว่างการเกิดเหตุหรือเกิดจากแรงอัดระเบิด
สำหรับการก่อเหตุครั้งนี้ สันนิษฐานว่า มีเป้าหมาย คือ ตัว นายสุพร อัตถาวงศ์ เนื่องจากขณะเกิดเหตุรถยนต์ของ นายสุพร จอดอยู่บริเวณด้านหน้าบ้านพักหลังดังกล่าว ส่วนจะลงมืออย่างไร หรือเกิดความผิดพลาดเกิดระเบิดขึ้นอย่างไรยังอยู่ระหว่างการสอบสวน
อย่างไรก็ตาม การสอบสวนพยายามเชื่อมโยงจากตัวผู้ตายไปยังคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ พบว่า ยังมีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งทางตำรวจจะพยายามสาวไปให้ถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
“ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจได้ว่าเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายคดีและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แม้ว่าผู้ตายจะเป็นตำรวจก็ตาม การสืบสวนก็จะเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ได้มีการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง” พล.ต.ต.อำนาจ กล่าว
พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวต่อว่า แนวทางการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ยังคงมุ่งประเด็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวของนายสุพร ที่เคยถูกลอบยิงมาแล้วเป็นหลัก แต่จะมีประเด็นอื่นที่ทำให้ก่อเหตุขึ้นช่วงนี้ เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน คาดว่าจะสามารถคลี่คลายคดีทั้งหมดได้ในเร็วๆ นี้
ล่าสุดจากการสอบปากคำ นายสุพร อัตถาวงศ์ ระบุชัดเจนว่าไม่เคยรู้จักกับผู้ตายมาก่อน ส่วนประวัติของ ด.ต.ดำเนิน ผู้ตายนั้น เคยเป็นตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และมีความรู้ในเรื่องระเบิด และอาวุธปืนเป็นอย่างดี เคยผ่านงานเกี่ยวกับระเบิดมาก่อน แต่ระเบิดชนิดขว้างนี้คงไม่ต้องใช้ความรู้หรือความเชี่ยวชาญอะไรก็สามารถทำได้
