ศูนย์ข่าวศรีราชา- เมืองพัทยาจัดทำประชาพิจารณ์จากประชาชน 27 ชุมชนทั่วเขตเมือง เรื่องการก่อสร้างห้างค้าปลีกต่างชาติ “โลตัสเอ็กซ์เพรส” เผยผลประชาพิจารณ์ผ่านฉลุย เตรียมส่งเรื่องให้จังหวัดพิจารณาต่อ
วันนี้ (14 ม.ค.) ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร นายกเมืองพัทยา เป็นประธานในการจัดทำประชาพิจารณ์การก่อสร้างห้างค้าปลีกต่างชาติในพื้นที่ หรือ “โลตัส เอ็กซ์เพรส” ครั้งที่ 2 หลังจากที่ผ่านมา มีการจัดทำไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ปรากฏว่ายังมีประชาชนบางส่วนยังยืนยันคัดค้านอยู่ ซึ่งที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
นายนิรันดร์ เผยว่า เรื่องดังกล่าวสร้างความสับสนให้ประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาเมืองพัทยาได้มีการตรวจสอบเรื่องของอาคาร และการอนุญาตการใช้อาคาร ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบว่า ผ่านการพิจารณาในทุกระบบอย่างถูกต้อง แต่ยังมีการโจมตีการทำงานของผู้บริหารเมืองพัทยาชุดนี้อย่างต่อเนื่อง ว่ามีส่วนรู้เห็นกับห้างยักษ์ใหญ่ ซึ่งไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด
ทั้งนี้ หากยังมีประชาชนที่ยังคงค้างคาในเรื่องการอนุญาตด้านอาคารของ “โลตัสเอ็กซ์เพรส” ย่านเนินพลับหวาน สามารถตรวจสอบการทำงานได้อย่างละเอียด ซึ่งเมืองพัทยาได้ดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมาย และกฎกระทรวงมหาดไทยอยู่แล้ว ซึ่งยังคงให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดเพื่อประโยชน์ของประชาชนท้องถิ่นเป็นหลัก
ด้าน นายทวิช ฉายสว่างวงศ์ ประธานสภาเมืองพัทยา เผยว่า การทำงานของเมืองพัทยามีระบบข้าราชการประจำเป็นผู้บริหาร และมีคณะสมาชิกสภาเมืองพัทยา เป็นผู้ตรวจสอบ ซึ่งหากพบว่ามีข้อมูลของการไม่ชอบมาพากลกันเกิดขึ้น สมาชิกสภาเมืองพัทยาเองซึ่งมีหน้าที่เรื่องดังกล่าวก็จะมาดูแลทุกข์สุข และผลประโยชน์ของประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง
“การแก้ปัญหาต้องแกให้ถูกทาง ถึงจะทำให้เกิดความโปร่งใสและชัดเจนในทุกภาคฝ่าย บ้านเมืองมีขื่อมีแป ทำอะไรอยากให้ประชาชนคำนึงถึงกฎหมายเป็นหลัก เพราะต้องอาศัยกฎหมายในการทำงานทุกระบบ ซึ่งเมืองพัทยาก็มีฝ่ายตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ภาครัฐอยู่แล้ว หากพบว่าไม่มีความโปร่งใส หรือไม่มีความชัดเจน” นายทวิช ระบุ
ขณะที่ ตัวแทนจากชุมชนรุ่งเรือง ซึ่งอยู่ละแวกเดียวกับที่มีการก่อสร้าง “โลตัสเอ็กซ์เพรส” เผยข้อมูลว่า ถ้ามองดูตลาดแล้ว ผู้ประกอบการโชวห่วยกับห้างค้าปลีกต่างชาติ ก็มีลูกค้าของตนเอง ซึ่งไม่ใช่ลูกค้ากลุ่มเดียวกัน ตรงนี้ประชาชนเองควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจอะไร ถ้าประชาชนถูกปลุกปั่นและไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง บ้านเมืองก็จะเกิดความไม่เข้าใจกัน ซึ่งจะนำมาซึ่งความแตกแยก ทั้งนี้เชื่อว่าผู้บริโภคก็ต้องหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง ในห้างอาจจะมีราคาแพงมากกว่าร้านของชำปกติ แต่บางคนยังใช้บริการ เพราะเขาอาจจะมองว่า ยอมเสียราคาที่สูงกว่าแต่ได้สินค้าที่มีคุณภาพมากกว่า ซึ่งก็เป็นเรื่องของผู้บริโภคจะตัดสินใจ
อย่างไรก็ตาม จากการทำประชาพิจารณ์รอบ 2 ในกรณีดังกล่าว ปรากฏว่า มีการนับผลประชาพิจารณ์กันในทันที ซึ่งผลสรุปออกมาว่า มีผู้เห็นด้วยรวม 156 คน ไม่เห็นด้วย 69 คน ไม่ประสงค์จะลงคะแนน 2 คน และทำบัตรเสีย 1 คน จากจำนวนประชาชนที่ร่วมกิจกรรมทั้งหมด 228 คน
รายข่าวรายงานแจ้งว่า หลังจากทราบผลประชาพิจารณ์ แล้วยังมีชาวบ้านบางกลุ่มที่ไม่พอใจกับผลประชาพิจารณ์ จึงเข้าสอบถามต่อนายกเมืองพัทยา ซึ่งก็ได้ชี้แจงว่า ทั้งนี้ต่อไปเมืองพัทยาจะส่งผลประชาพิจารณ์ดังกล่าวต่อทางผุ้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อพิจารณาเป็นการสุดท้าย ซึ่งหากยังไม่ได้รับผลที่พึงพอใจ สามารถยื่นเสนอต่อจังหวัดเพื่อพิจารณาอีกได้
