ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - บุรีรัมย์ฉาวรอง ผอ.โรงเรียนในฝัน ใช้โซ่ล่าม 2 นักเรียนชาย ม.1 ล็อกกุญแจติดกับต้นไม้ประจานหน้าโรงเรียนนานกว่า 3 ชั่วโมง พร้อมประกาศให้นักเรียนมาดูสัตว์ประหลาด อ้างทำโทษฐานโดดเรียน ขณะแม่นักเรียนโวยทำเกินกว่าเหตุยันเอาเรื่องถึงที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
วันนี้ (13 ม.ค.) พ่อพิมพ์ จ.บุรีรัมย์ฉาวโฉ่อีก หลัง นางสุพร ดีหล่าน้อย อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 บ.น้ำซับ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ด.ช.พรชัย หรือ หรั่ง ดีหล่าน้อย อายุ 12 ปี ลูกชาย และ ด.ช.พรชัย หรือยิ้ม พลสยาม อายุ 12 ปี เพื่อนโรงเรียนเดียวกัน ทั้ง 2 เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (ม.1) โรงเรียนภัทรบพิตร ซึ่งเป็นโรงเรียน “หนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงเรียนในฝัน” ตามนโยบายของรัฐบาล ได้ถูกนายดิเรก บูรณ์เจริญ รองผู้อำนวยการโรงเรียน ฝ่ายพัฒนานักเรียน (ฝ่ายปกครอง) ใช้โซ่เส้นเดียวกันล่ามเอวนักเรียนชายทั้ง 2 คน แล้วล็อกกุญแจติดกับต้นไม้หน้าโรงเรียน ตั้งแต่เวลาประมาณ 11.30 น.จนถึงเลิกเรียนนานกว่า 3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ เหตุเกิดช่วงปลายเดือน ธ.ค. ก่อนเทศกาลปีใหม่ 2551 และนายดิเรก รอง ผอ.ยังได้ตักน้ำใส่ขัน 2 ขันมาตั้งไว้ให้ลูกศิษย์ทั้ง 2 คนดื่ม พร้อมประกาศให้นักเรียนในโรงเรียนมาดูสัตว์ประหลาด จากนั้นก็มีนักเรียนทั้งชายและหญิงมามุงดู 200-300 คน พร้อมประจานบอกว่าเป็นการลงโทษฐานโดดเรียน หากนักเรียนคนไหนโดดเรียนก็จะถูกทำโทษเช่นนี้ ซึ่งนักเรียนทั้ง 2 คนที่ถูกล่ามโซ่ได้นั่งร้องไห้เพราะอายเพื่อน
ด้าน ด.ช.พรชัย หรือ หรั่ง เล่าว่า รู้สึกเสียใจมากที่ถูกทำโทษเช่นนี้ เพราะตนไม่ได้ทำผิดร้ายแรงถึงขนาดจะต้องล่ามโซ่ และหลังจากที่ถูกล่ามโซ่ประจาน เวลาไปโรงเรียนก็จะถูกเพื่อนล้อว่า “ตัวสัตว์ประหลาด” จนไม่อยากจะไปโรงเรียน ทั้งยังยอมรับตนได้โดดเรียนวิชาคณิตศาสตร์จริงแต่โดดเพียงคาบเรียนเดียว และไม่ได้โดดเรียนแค่ 2 คนที่ถูกทำโทษเท่านั้น ยังมีเพื่อนอีกหลายคนที่โดดเรียนแต่ก็ไม่ได้ถูกทำโทษเหมือนตนกับเพื่อน
ทางด้าน ด.ญ.สมาณี ผิวพิมาย อายุ 14 ปี พี่สาว ด.ช.พรชัย หรือหรั่ง เรียนอยู่ชั้น ม.3 โรงเรียนเดียวกันกับน้องชาย เล่าว่า หลังจากได้ยินเสียงประกาศให้มาดูสับประหลาด ตนกับเพื่อนก็พากันเดินมาดูซึ่งมีนักเรียนในโรงเรียนมายืนมุงดูเป็นจำนวนมาก แต่ไม่นึกว่าจะเป็นน้องชายของตนเอง เมื่อเห็นน้องถูกล่ามไซ่และนั่งร้องไห้ ตนก็สงสารน้องมากแต่ก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้ เพราะกลัวจะถูกครูทำโทษ จนเลิกเรียนกลับบ้านก็ไปเล่าให้แม่ฟัง ส่วนสาเหตุที่น้องถูกทำโทษตนก็ไม่ทราบ เพียงน้องชายเล่าให้ฟังว่าโดดเรียนเพียงคาบเดียวเท่านั้น ไม่ได้ทำผิดเรื่องอื่นที่ร้ายแรง และหลังจากไปเล่าให้แม่ฟังแม่ก็ร้องไห้เพราะสงสารน้อง และบอกให้ตนช่วยดูแลน้องด้วย
นางสุพร ดีหล่าน้อย ยังกล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ที่รอง ผอ.โรงเรียนกระทำกับลูกชายโดยการใช้โซ่ล่ามประจานหน้าโรงเรียน โดยอ้างเป็นการทำโทษที่เด็กหนีเรียน ตนรู้สึกรับไม่ได้เป็นการทำเกินกว่าเหตุ เพราะถึงแม้ตนจะเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา มีอาชีพเก็บของเก่าขายส่งลูกเรียนถึง 3 คน และเลี้ยงตาวัย 73 ปี หลังจากสามีเสียชีวิตไปแล้ว แต่ถึงแม้จะมีฐานยากจนก็ไม่เคยทำโทษลูกถึงขนาดนี้ ประกอบกับลูกชายก็ไม่ใช่เด็กเกเร หลังเลิกเรียนมาก็ทำงานช่วยแม่ที่บ้าน
อย่างไรก็ตาม หากจะให้ไปฟ้องร้องเอาผิด ลำพังตนเองคงไม่มีปัญญา จึงอยากร้องขอให้ทางเขตพื้นที่การศึกษาได้ทำการสอบเอาผิดนายดิเรกเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างและเกิดขึ้นกับนักเรียนคนอื่นๆ อีก ส่วนสภาพจิตใจของลูกชายขณะนี้ก็มีอาการซึมผิดปกติ ต้องคอยปลอบอยู่ตลอดเวลาเกรงว่าลูกจะคิดมาก