ผู้พิการชายแดนสระแก้วร่วมแสดงความอาลัยถวายแด่พระพี่นางเธอฯ

สระแก้ว – ผู้พิการชายแดนสระแก้ว สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระเจ้าพี่นางเธอฯ ร่วมแสดงความอาลัยถวายฯ

วันนี้ (10 ม.ค.) นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย นพ.วีรชัย ภาณุมาตรัศมี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอรัญประเทศ นำคณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของโรงพยาบาลและผู้พิการจากอำเภออรัญประเทศกว่าร้อยคนที่เคยได้รับประทานขาเทียมจากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อคราวเสด็จฯจังหวัดสระแก้ว ร่วมลงนามแสดงความอาลัยถวายแด่พระองค์ท่าน

นายแพทย์พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า จังหวัดสระแก้ว เป็นจังหวัดที่มีผู้พิการจำนวนมากอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ เนื่องจากผลกระทบจากภาวะสงครามของประเทศเพื่อนบ้าน ที่ส่งผลต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน ไม่ว่าจะเป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ที่พลัดตกเข้ามาในเขตชายแดนไทย รวมทั้งต้องเสี่ยงภัยต่อกับระเบิดตามแนวชายแดน

ที่ผ่านมาแม้ว่าโรงพยาบาลอรัญประเทศ ได้จัดตั้งหน่วยให้บริการทำขาเทียมแก่ประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายมาแล้วกว่า 27 ปี แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมกับจำนวนผู้ป่วยที่มารับบริการ จนกระทั่งตั้งแต่ พ.ศ.2539 เป็นต้นมา

มูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราราชนนี ซึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเป็นองค์ประธาน ได้มาออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ให้บริการทำขาเทียมแก่ผู้พิการในจังหวัดสระแก้วอย่างต่อเนื่อง จากที่มีผู้พิการรายใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นจากอุบัติเหตุ แผลเรื้อรังจากเบาหวาน ความพิการผิดปกติแต่กำเนิด และเหยียบกับระเบิด รวมทั้งผู้ป่วยรายเก่าที่เคยได้รับขาเทียมไปใช้แล้วเกิดการเสื่อมสภาพจากการใช้งาน ทำให้ต้องมาเปลี่ยนขาเทียมใหม่เป็นระยะ

นายแพทย์พีระ กล่าวต่อว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในฐานะองค์ประธานมูลนิธิขาเทียม ทรงมีพระเมตตาแก่ผู้พิการในจังหวัดสระแก้วและจังหวัดใกล้เคียงเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีจำนวนผู้พิการแขน-ขาขาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้พิการที่ด้อยโอกาสและยากจนที่ยังมีร่างกายแข็งแรงและยังประกอบอาชีพเกษตรกรรมอยู่ โดยมูลนิธิขาเทียมร่วมกับมูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้จังหวัดสระแก้วเป็นศูนย์กลางสำหรับทำขาเทียมพระราชทานให้แก่ผู้พิการ

โดยที่ผ่านมามูลนิธิขาเทียมได้มาออกหน่วยฯ เคลื่อนที่ที่จังหวัดสระแก้วหลายครั้ง ด้วยพระประสงค์ของสมเด็จย่าและสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่ทรงต้องการให้ผู้พิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถประกอบอาชีพได้ต่อไป และเมื่อปี 2539 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นที่มีต่อพสกนิกรชาวสระแก้ว และคณะเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โดยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ได้เสด็จพระราชทานขาเทียมแก่ผู้พิการที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว และเมื่อปี 2545 ที่หอประชุมจังหวัดทหารบกสระแก้ว อำเภออรัญประเทศ

นพ.วีรชัย ภาณุมาตรัศมี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอรัญประเทศ กล่าวว่า โรงพยาบาลอรัญประเทศ เปิดหน่วยให้บริการทำขาเทียมแก่ประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดใด มาตั้งแต่ปี 2524 มีช่างกายอุปกรณ์ประจำเพียง 2 คน แต่เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลชายแดน ประกอบกับมีผู้พิการจากกับระเบิดทั้งจากอำเภออรัญประเทศและอำเภอใกล้เคียง รวมทั้งจังหวัดอื่นๆ มาทำขาเทียมจำนวนมาก ไม่สามารถผลิตขาเทียมได้ทันความต้องการของผู้ป่วยได้

ต่อมาทางโรงพยาบาลได้ร้องขอไปยังมูลนิธิขาเทียม ที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเป็นองค์ประธานมูลนิธิจึงได้ระดมช่างทำขาเทียมจากทั่วประเทศหลายร้อยคนมาออกหน่วยที่อำเภออรัญประเทศ เมื่อปี 2543 และปี 2545 ช่วยทำขาเทียมให้กับผู้พิการชายแดนได้ไม่ต่ำกว่า 500 ขา ทำให้ผู้พิการและเจ้าหน้าที่ทุกคนรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอย่างหาที่สุดมิได้

โดยทุกวันนี้มีผู้พิการมาขอรับบริการขาเทียมไม่ต่ำกว่าปีละ 50 คน นอกจากนี้มูลนิธิขาเทียมยังได้สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์แก่โรงพยาบาลเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน แล้วเมื่อ 2 ปีก่อนยังได้ข้ามไปให้บริการทำขาเทียมแก่ชาวกัมพูชาอีกด้วย

นายแพง บุญแถม อายุ 60 ปีผู้พิการจากตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศ กล่าวว่า ตนได้รับอุบัติเหตุจากการออกไปทำไร่ทำนาแล้วเหยียบกับระเบิดจากเหตุการณ์สู้รบกันของเขมรทั้งสองฝ่ายเมื่อปี 2517 ทำให้ขาขวาขาด ไม่สามารถประกอบอาชีพตามปกติได้

จนกระทั่งปี 2545 มูลนิธิขาเทียมของพระเจ้าพี่นางเธอฯ ได้ร่วมกับโรงพยาบาลอรัญประเทศ ทำขาเทียมให้กับผู้พิการชายแดน ทำให้ตนและเพื่อนบ้านหลายคนที่พิการเหมือนกันรู้สึกมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นพึ่งพาตัวเองได้

จากการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทำให้ตนและเพื่อนผู้พิการทั้งหมดรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง เพราะพระองค์ท่านมีพระเมตตาต่อผู้พิการอย่างตน โดยขอตั้งจิตให้พระองค์ท่านสู่สวรรคาลัยนิรันดร์และตั้งใจว่าตนจะซื่อสัตย์สุจริต เป็นคนดีของสังคมและประเทศชาติตลอดไป

นายวิเชียร วงศ์จำปา อายุ 50 ปี ผู้พิการชายแดนจากตำบลผ่านศึก อำเภออรัญประเทศ กล่าวว่า เมื่อปี 2531 ตนเหยียบกับระเบิดตามลำคลองชายแดน รู้สึกเสียใจมากที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา แต่ต้องมาประสบเคราะห์กรรมทั้งที่ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์สู้รบเลย ทำให้ต้องตัดขาทิ้งและรักษาแผลจนหาย

จนกระทั่ง 6 เดือนผ่านไปจึงมาทำขาเทียมกับมูลนิธิขาเทียมที่มาช่วยเหลือ รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้กลับมาเดินได้เหมือนคนทั่วไป และรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งหลังจากที่ได้ข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระพี่นางเธอฯ เพราะท่านได้ช่วยเหลือผู้พิการอย่างตน จากนี้ไปตนขอตั้งปณิธานว่าจะเป็นคนดีของสังคม จะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติเท่าที่จะทำได้ ขอให้มูลนิธิขาเทียมอยู่คู่กับผู้พิการต่อไป