แพร่ – สาวแพร่เหยื่อหมอเถื่อนศรีสัชนาลัย รักษามะเร็งด้วยเวทมนตร์สิ้นชีวิตแล้ว หลังหลงเชื่อเข้ารักษานานกว่า 7 เดือน แต่ไม่หาย ญาติเข้าแจ้งความดำเนินคดีตั้งแต่ปลายปี 50 แต่เรื่องกลับเงียบเป็นเป่าสาก ไร้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสนใจ ล่าสุด ญาติพี่น้องเรียกร้องทางการเอาผิดหมอเถื่อนเจ้าปัญหาด่วน ก่อนก่อความเดือดร้อนให้คนอื่นซ้ำซาก
รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่ แจ้งว่า หลังจาก นางสุชาดา ใจเมธา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/3 หมู่ 3 ต.แม่เกิ๋ง อ.วังชิ้น จ.แพร่ ตกเป็นเหยื่อ นายธาร ใจแก้ว อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 6 บ้านฮู้ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย หมอเถื่อนที่อ้างว่าสามารถใช้เวทมนตร์คาถารักษาโรคมะเร็ง นานถึง 7 เดือนในคลินิกเถื่อน จนต้องสังเวยชีวิตไปอย่างน่าอนาถ โดยเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2551 ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลวังชิ้น อ.วังชิ้น จ.แพร่ ขณะนี้ญาติตั้งศพบำเพ็ญกุศลอยู่ที่บ้านเลขที่ 65/3 ต.แม่เกิ๋ง อ.วังชิ้น จ.แพร่ ตามยถากรรม เนื่องจากครอบครัวดังกล่าวมีฐานะยากจน และจะทำการเผาศพในวันนี้ (6 ม.ค.) นั้น
แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ปรากฏหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใดๆ เข้ามาตรวจสอบ หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ตำรวจ สภ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ที่ญาติ นางสุชาดา ได้เข้าแจ้งความไว้แล้ว - สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย และกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงกระทรวงพัฒนาสังคม
นางสาวแสงอรุณ สายคำ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 / 2 หมู่ 3 ต.แม่เกิ๋ง อ.วังชิ้น จ.แพร่ ญาติผู้เสียชีวิต กล่าวว่า การเสียชีวิตของนางสุชาดา เป็นการเสียชีวิตจากการหลอกลวงให้หลงเชื่อ เพราะเมื่อ 8 เดือนที่ผ่านมา นางสุชาดา มีก้อนมะเร็งขนาดเล็กๆ เพียง 2 ก้อนที่เต้านมด้านซ้าย หากไปรักษากับแพทย์ที่โรงพยาบาลแพร่ หรือศูนย์มะเร็งจังหวัดลำปาง น่าจะทำให้มีชีวิตยืนยาวช่วยสามีเลี้ยงลูก 2 คนต่อไป ถึงแม้จะมีความยากจนแต่ก็สามารถที่จะช่วยกันทำงานได้และอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุขตามอัตภาพ
แต่ด้วยการจูงใจของหมอเถื่อน ที่รับรองว่าจะหายจากโรคมะเร็งอย่างแน่นอน โดยเรียกค่าครูถึง 9,000 บาท และต้องไปอยู่ในบ้านของหมอธาร ที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ครอบครัวนี้ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ อ.ศรีสัชนาลัย นานถึง 7 เดือน
กรณีดังกล่าว นายธวัชชัย ใจเมธา อายุ 35 ปี สามีได้เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2550ที่ผ่านมา โดยเดินทางไปสถานีตำรวจพร้อมด้วย นายชาติชาย ใจอ้าย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.แม่เกิ๋ง อ.วังชิ้น จ.แพร่ พร้อมด้วยญาติของนางสุชาดา ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ต.สมเกียรติ ยนต์ทิพย์เวช พนักงานสอบสวน สภ.ศรีสัชชนาลัย จ.สุโขทัย ในข้อหาฉ้อโกงและหลอกลวงประชาชน ดำเนินคดี นายธาร ใจแก้ว ไปแล้ว แต่พนักงานสอบสวนไม่ดำเนินคดีปล่อยทิ้งมาจนนางสุชาดา เสียชีวิตไปแล้ว ก็ยังไม่มีการดำเนินการ
ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยที่คนจนไม่มีโอกาสเข้าถึงการบังคับใช้กฎหมาย และไม่สามารถเรียกร้องความเป็นธรรมจากทางราชการ มาถึงวันนี้จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพิทักษ์ความยุติธรรมได้เข้ามาช่วยครอบครัวยากจนรายนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดสุโขทัย พัฒนาสังคมฯ จังหวัดแพร่ เป็นต้น