xs
xsm
sm
md
lg

เหยื่อหมอเถื่อนเมืองแพร่รอวันสิ้นลมตามยถากรรม ตร.-สสจ.เมินสั่งปิดคลินิกไสยศาสตร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แพร่ – ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมคนเมืองแพร่ ที่ตกเป็นเหยื่อหมอเถื่อนศรีสัชนาลัยมานานกว่า 7 เดือน เริ่มนับเวลาถอยหลังสู่ห้วงสุดท้ายของชีวิตแล้ว โดยที่ไม่มีหน่วยงานใดเข้าให้การช่วยเหลือทั้งสิ้น แม้เคยเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาก่อนหน้านี้ก็ตาม ล่าสุด คดีไม่คืบหน้า – สสจ.ไม่สนใจ ปล่อยหมอเถื่อนตัวปัญหาเปิดคลินิกต่อหน้าตาเฉย

รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่ แจ้งถึงความคืบหน้ากรณี นางสุชาดา ใจเมธา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/3 หมู่ 3 ต.แม่เกิ้ง อ.วังชิ้น จ.แพร่ ต้องเผชิญต่อโรคร้าย เป็นมะเร็งเต้านมขั้นสุดท้ายหลังจากตกเป็นเหยื่อหมอไสยศาสตร์ที่แอบอ้างว่ารักษาหายมาแล้วนับไม่ถ้วน ซึ่ง นางสุชาดา หลงเชื่อเข้ามารักษาอยู่ในสถานพยาบาลเถื่อนของ นายธาร ใจแก้ว อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 6 บ้านฮู้ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย (ตรงข้ามโรงเรียนบ้านแม่ฮู้) ที่ใช้เป็นสถานพยาบาลรักษาโรคมะเร็งอย่างเปิดเผยนานถึง 7 เดือน

จนอาการทรุดหนัก เสียเงินค่ากินอยู่ในคลินิกเถื่อนและค่ายาพร้อมทั้งค่า “ยกครู” ไปกว่า 20,000 บาท กระทั่งรู้สึกตัวว่าไม่หาย และผิดหวังกับการรักษาดังกล่าว ญาติๆ พร้อมทั้งสามีนำกลับบ้าน โดยได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีหมอไสยศาสตร์ข้อหาหลอกลวงประชาชน แต่การแจ้งความยังไม่คืบหน้าใดๆ นั้น

เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ญาติได้นำ นางสุชาดา เข้ารักษาที่โรงพยาบาลแพร่อีกครั้ง ในขณะที่แพทย์โรงพยาบาลแพร่ลงความเห็นว่าไม่สามารถรักษาได้แล้ว เนื่องจากมะเร็งลามทั่วและเหลือเวลาไม่เกิน 4 วัน คนไข้ก็จะเสียชีวิต พร้อมกับแนะนำให้นำกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลวังชิ้น เพื่อความประหยัดในการใช้จ่ายของญาติ เนื่องจากมีฐานะยากจน อย่างไรก็ตาม แม้ นายธวัชชัย ใจเมธา สามี ยังคงต้องการให้มีการรักษาภรรยาจนถึงที่สุด แต่ก็ต้องจำยอมเนื่องจากมีฐานะยากจน

ล่าสุด วันที่ 2 ธันวาคม 2550 นางสุชาดา ได้พยายามเขียนคำกลอน สอนคนที่ยังมีชีวิตอยู่อย่าไปหลงเชื่อหมอเถื่อน ให้กับลูกสาวเพื่อเก็บไว้อ่านวันเผาศพของตน เป็นข้อความที่เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนจนไร้ความรู้ และโอกาสในการเข้าถึงการรักษาพยาบาล รวมทั้งกฎหมายบ้านเมืองไม่ได้แก้ปัญหาให้กับเธอ

ในขณะที่หมอเถื่อนที่รักษาด้วยการเป่าคาถาเวชมนต์ ยังคงทำหน้าที่ “หมอเถื่อน” รักษาคนจำนวนมากอยู่เช่นเดิม ถึงแม้ว่า มีการแจ้งความกล่าวโทษข้อหาหลอกลวงไปแล้วก็ตาม พนักงานสอบสวน สภ.ศรีสัชนาลัย ก็ยังมิได้ดำเนินการใดๆ ต่อหมอเถื่อนรายดังกล่าว อีกทั้งสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย ก็ยังไม่ส่งเข้าหน้าที่เข้าควบคุมการรักษาพยาบาลดังกล่าวแต่อย่างใด

รวมทั้งองค์กรที่พิทักษ์สิทธิ์และหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคก็ไม่ได้ให้ความสนใจที่จะเข้าไปจัดการ ซึ่งถือว่าผู้ที่เข้าไปรักษาตกเป็นเหยื่ออย่างช่วยไม่ได้ แม้กฎหมายและรัฐธรรมนูญได้มีข้อกฎหมายพิทักษ์ประชาชนอยู่พร้อมแล้วก็ตาม

กำลังโหลดความคิดเห็น