xs
xsm
sm
md
lg

ขังคุกนักเขียนนิยายวาย!! อ้างทำคนเบี่ยงเบน-ไม่อยากมีลูก ทั่วโลกรุมยำ “จีน” ล้าหลัง-เหยียดรสนิยม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ช็อกโลกไปตามๆ กัน เมื่อทางการจีนสั่งจับกุม“นักเขียนนิยายวาย” ฐานทำให้ผู้คน“เบี่ยงเบนทางเพศ” ปลูกฝังค่านิยมให้ผู้หญิง“ไม่อยากมีลูก” ซึ่งขัดกับนโยบายหลักของประเทศ ท่ามกลางกระแสโลก เปิดกว้างยอมรับ LGBTQ+ เตือนอย่าโทษสื่อ แล้วเลือกปิดกั้นเสรีภาพ เหยียดรสนิยม

** ปราบปรามรุนแรง เพราะเหมารวมผิดๆ **


ล่าสุด มี “นักเขียนนิยายวายออนไลน์” ถูกจับกุมตัวมากกว่า 30 ราย และส่วนใหญ่เป็นเด็กสาววัย 20 ต้นๆ เท่านั้น การกวาดล้างอย่างจริงจังครั้งนี้ของทางการจีน เลยกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์หนักไปทั่วโลก เพราะถือเป็นมาตรการจัดการขั้นรุนแรง

เจ้าของผลงานบางคน โดนโทษจำคุกสูงถึง 10 ปี จากข้อกล่าวหาว่า “ละเมิดกฎหมายต่อต้านสื่อลามกของจีน” แถมทางเจ้าหน้าที่สามารถบุกตรวจค้นบ้าน ตรวจสอบมือถือ และค้นข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ได้ทันที โดยไม่ต้องมีหมายศาล รวมถึงปฏิบัติการยึดรายได้จากการเขียนทั้งหมดกลับเข้ารัฐ



ส่วนเหตุผลเบื้องหลังของการ “กวาดล้างสื่อวาย” อย่างรุนแรง ตลอดช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ เพราะภาครัฐมองว่า นิยายวาย ทั้งแนววายชายรักชาย หรือที่เรียกว่า “Boys’ love (BL)” และแนววายหญิงรักหญิง ที่เรียกว่า “Girls’ love (GL)” ทำให้คนเสพเบี่ยงเบนทางเพศ

จนทำให้ “ผู้หญิงไม่คิดแต่งงาน” และ “ไม่อยากมีลูก” ในที่สุด ซึ่งขัดกับค่านิยมการสร้างครอบครัวแบบดั้งเดิม และเข้าข่ายต่อต้านนโยบายส่งเสริมประชากรจีน

ถามว่านิยายแนวนี้ มีผลทำให้คนเสพเบี่ยงเบน หรือแม้แต่ไม่อยากมีลูก ตามที่ทางการจีนกล่าวอ้างแค่ไหน กูรูด้านนี้อย่าง “ต้น-อภินันท์ ธรรมเสนา” นักมานุษยวิทยา จากศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) มองว่า ไม่สามารถกล่าวโทษสื่อแนวนี้ได้ขนาดนั้น

เพราะเหตุผลที่ผลักให้ใครคนนึงเป็น LGBTQ+ นั้น เกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย ซึ่งมีรายละเอียดที่ลึกซึ้งกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นแรงผลักจากเหตุผลทางพันธุกรรม ฮอร์โมน รวมไปถึงด้านจิตใจ ที่ได้จากการเลี้ยงดูและเติบโต มาจนถึงการหล่อหลอมจากสภาพสังคมและวัฒนธรรม



ดังนั้น ถ้าจะบอกว่า นิยายวาย ซีรีส์วาย และสื่อแนวนี้ ทั้ง BL ไปจนถึงแนว GL ทำให้เบี่ยงเบนทางเพศนั้น คงไม่สามารถเหมารวม หรือกล่าวโทษไปได้ขนาดนั้น ไม่อย่างนั้น แฟนนิยายเหล่านี้ก็กลายเป็น LGBTQ+ กันหมดแล้ว

หรือความจริงแล้ว กลุ่มที่เสพสื่อวายส่วนใหญ่ อาจคือกลุ่มคนที่ชัดเจนในจุดยืนอยู่แล้วว่า คือกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศ ก่อนที่จะมาเสพสื่อแนวนี้ด้วยซ้ำ ผู้บริโภคเลยเป็นแค่คนเลือกเสพ ตามรสนิยมของตัวเองที่มีอยู่แล้วเท่านั้นเอง

“เรายังเชื่อว่าคล้ายๆ ว่า มนุษย์เนี่ย เป็นผู้อ่อนด้อย เวลาใครใส่อะไรมา ก็จะรับมาหมด แล้วก็เป็นพฤติกรรมแบบนั้น ซึ่งอาจไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียว

คือเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ซีรีส์วาย บางทีเขาดูเพื่อความบันเทิง ก็มีนะ ผู้หญิงก็ดู ทำไมผู้หญิงไม่ลุกมาเป็น LGBTQ+ ล่ะ

งานวิชาการออกมา พิสูจน์มากมายก่ายกองเลยว่า มันไม่ได้เป็นเหตุผล ตรงไปตรงมาแบบนั้น”


                                                  {“ต้น-อภินันท์” นักมานุษยวิทยา}

** เศรษฐกิจตกต่ำ แต่โทษ “สื่อ LGBTQ+” **

ส่วนที่อ้างว่า เสพสื่อวายแล้วทำให้ไม่อยากมีลูกนั้นยิ่งไปกันใหญ่ เพราะเหตุผลจริงๆ ที่ทำให้คนยุคนี้ส่วนใหญ่เลือก “ไม่มีทายาท” มาจาก “ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ” เป็นหลัก

บวกกับค่านิยมการให้ความสำคัญกับความสุขของตัวเองมาก่อน เพราะไม่พร้อมสละเวลาชีวิตอันยุ่งเหยิง ให้กับการเลี้ยงดูชีวิตเกิดใหม่ เลยส่งผลให้การแต่งงานแบบไม่มีลูก กลายเป็นเทรนด์ไปทั่วโลก

ถ้าหนัง ซีรีส์ หรือว่านิยายวาย จะมีผลต่อทัศนคติอะไรบางอย่าง อาจจะเป็นในแง่เน้นสื่อสารเรื่องความสัมพันธ์ของคน 2 คน จนบางครั้งทำให้คนดูรู้สึกว่า ไม่จำเป็นต้องมีครอบครัวใหญ่ ไม่ต้องมีลูกก็มีความสุขดี ซึ่งเส้นเรื่องเหล่านี้ก็ไม่ได้มีแค่สื่อสายวาย

“การใช้ชีวิต 2 คน แบบนี้ก็ดีนี่ ก็คือเป็น โลกของฉันกับเธอ ไม่ใช่โลกของครอบครัวและคนอื่นๆ คนรุ่นใหม่คิดแบบนี้เยอะ
ไอ้การมีลูก มันไม่ได้เป็นเรื่องปัจจัย แค่เรื่องเพศอย่างเดียว ยังมีเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ เงื่อนไขทางสังคมด้วย เวลาใครจะมีลูกสักคน มันเริ่มคิดไง ค่าใช้จ่ายจะเป็นยังไง รถก็ต้องผ่อน บ้านก็ต้องผ่อน มีลูกมาอีก มันจะคุ้ม หรือไม่คุ้มยังไง”



ลองศึกษาจากมุมมองของนักวิชาการด้านจีนศึกษาดูบ้าง “ผศ.ดร.ชาดา เตรียมวิทยา” จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ช่วยยืนยันอีกเสียงว่า การที่คนยุคนี้ไม่อยากมีลูก “ไม่เกี่ยวกับนิยายวาย” แต่เป็นเพราะเรื่องเศรษฐกิจมากกว่า

และการที่จีนออกมากวาดล้าง เหล่านักเขียนนิยายพวกนี้ พร้อมอ้างว่าคือตัวการทำให้คนไม่อยากมีลูก น่าจะต้องการกลบกระแสที่ว่า “เศรษฐกิจจีนกำลังตกต่ำ” มากกว่า

“บางคนก็บอกว่า มันเกิดข่าวอย่างนี้มา เพื่อจะกลบเรื่องกระแสวิกฤตทางเศรษฐกิจของจีนตอนนี้หรือเปล่า ก็เลยเอาประเด็นของนิยายวายขึ้นมา”



** ยึดติด “ค่านิยมเก่า” จนไม่เข้าใจ “โลกยุคใหม่” **

จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่นิยายวายเท่านั้น ที่ถูกทางการจีนพยายามควบคุม แม้แต่ซีรีส์วายบางเรื่อง ที่ไม่ได้แสดงออกจุดยืน LGBTQ+ ขนาดนั้น แต่แค่ตัวเอกมีความสัมพันธ์แบบเพื่อนพี่น้อง ที่สนิทแนบแน่น จนชวนให้คนดูจิ้นกันไปเอง ก็ยังถูกจับตามอง

ส่วนเรื่องไหนที่เน้นจุดขายว่าเป็น Boys’ Love หรือ Girls’ Love รัฐบาลก็จะตามไปลบ ไปจัดการในทันที ไม่ว่าคอนเทนต์นั้นๆ จะอยู่บนแพลตฟอร์มไหนก็ตาม

ส่วนเหตุผลที่ทางการจีนไม่ยอมรับความหลากหลายทางเพศ และเลือกที่จะปราบปรามสื่อรูปแบบนี้อย่างหนักนั้น เพราะมันไปขัดกับค่านิยมของลัทธิ “ขงจื๊อ”ซึ่งเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของสังคมจีน ที่มองว่าโลกใบนี้มีแค่เพศ “ชาย” กับ “หญิง”




                                             {“ผศ.ดร.ชาดา” นักวิชาการด้านจีนศึกษา}

และมีหน้าที่ในสังคม แบ่งตามแต่ละเพศอย่างชัดเจน เช่น ผู้ชายต้องเป็นผู้นำ ทำงานเลี้ยงครอบครัว ส่วนผู้หญิงก็ต้องเป็นกุลสตรี คอยดูแลลูกและสามี

ดังนั้น กระแสของนิยายวายที่เกิดขึ้น เลยเป็นเหมือนการท้าทายค่านิยมเดิมของสังคม รวมไปถึงท้าทายอำนาจการปกครองด้วย เพราะรัฐบาลจีนใช้แนวคิดของขงจื๊อ ในการปกครองคนและชี้นำสังคมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

“แต่วันนี้ กลุ่มนิยายวายเนี่ย มันไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่ว่ามันกลายเป็น การสร้างพื้นที่ใหม่ทางเพศ ที่ให้หลุดพ้น กรอบชาย-กรอบหญิง ที่เป็น(กรอบ)แบบเดิม ในสังคมจีน

จีนก็เลยมองว่า สิ่งเหล่านี้มันกำลังเข้ามากระเทือน ในเชิงอำนาจนิยม ในวัฒนธรรมของจีนเขา เขามองว่าสิ่งเหล่านี้ มันเป็นภัยคุกคามทางวัฒนธรรม ในเชิงสัญลักษณ์ เป็นโครงสร้างที่สังคมและรัฐเนี่ย ต้องเข้าไปควบคุม”



สกู๊ป : ทีมข่าว MGR Live



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น