“POP MART Thailand” เผย ยอดขายในไทยแซงเป็น “อันดับ 1” จาก 400 สาขาทั่วโลก อะไรทำให้ Art Toy บ้านเราโตได้ขนาดนี้ โดยเฉพาะสินค้า resale ที่ราคาพุ่งกว่า 3 เท่า!!
ตลาดบูม เพราะ “ลาบูบู้?”
จากกระแส “ลาบูบู้” ตุ๊กตาคาแรกเตอร์ “ปีศาจฟันแหลม”สุดน่ารัก ในอ้อมกอด “ลิซ่า BLACKPINK” (ลลิษา มโนบาล) สู่ไวรัลที่ผู้คนตามหาเพื่อจับจองเป็นเจ้าของ ส่งให้ยอดขาย Art Toy ในไทยพุ่งขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าจับตามอง
ล่าสุด “POP MART” ประเทศไทย บริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่าย Art Toy สุดฮอต ออกมาเผยข้อมูลว่า ประเทศไทยทุบทำลายสถิติ สร้างยอดขาย “อันดับ 1” จาก 400 สาขาทั่วโลก
“ผลตอบรับดีเกินคาด” คือสิ่งที่ “ศิริพร แผลงจันทึก” Country General Managerบริษัท ป๊อปมาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด บอกเอาไว้ เพราะไม่ว่าจะมีสินค้าสต๊อกไว้เยอะแค่ไหน ก็ไม่พอกับความต้องการของแฟนๆ ชาวไทยอยู่ดี
ลองย้อนเส้นทางความฮอต จริงๆ แล้วArt Toyคือของสะสมที่กลุ่มคนผู้แพ้ความน่ารัก เล่นกันมาได้ระยะนึงแล้ว โดยช่วงแรกๆ จะเล่นกันค่อนข้างเฉพาะกลุ่มมากๆ
แต่เมื่อ “ลิซ่า-BLACKPINK”ไอดอลเกาหลีสายเลือดไทย คนที่หยิบจับอะไรก็กลายเป็นกระแส ได้หยิบเจ้าArt Toyตัวโปรดอย่าง“ลาบูบู้” มาถ่ายรูปเท่านั้นแหละ ตลาดของเล่นชนิดนี้ก็บูมขึ้นมาทันทีในบ้านเรา
รวมถึงความเอ็นดูที่ได้รับจากเหล่าเซเลบ-ดาราทั้งหลาย ที่ผลัดกันออกมาโพสต์ภาพอวดคอลเลกชั่นของตัวเอง จึงทำให้Art Toyในไทยถูกส่องสปอตไลท์อยู่ไม่ขาดสาย
{“ลิซ่า” คนที่หยิบจับอะไรก็กลายเป็นกระแส}
แต่จะเป็นเพราะกระแสจากคนดังอย่างเดียวหรือเปล่า?ที่ทำให้ตลาดนี้บูมมากๆ ในเวลานี้ “ไมค์” ศรีภูมิ ทินมณี ผู้บริหาร “Toylaxy”บริษัทผลิต Art Toyของไทย คือคนวงในที่จะมาช่วยวิเคราะห์ปรากฏการณ์นี้ให้กับเรา
“ไมค์” เล่าถึงเสน่ห์ที่ทำให้คนหลงรักArt Toyว่าคือ “Blind Box” มีให้ลุ้นว่าจะได้ “ตัวพิเศษ”คอลเลกชั่นไหนซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่หลายเป็นแบรนด์เลือกใช้ เพื่อเพิ่มสีสันและความตื่นตาตื่นใจให้ลูกค้า
“มันมีfeelingของการลุ้นอยู่ว่าคุณจะได้ตัวพิเศษหรือเปล่า ลุ้นว่าคุณได้ตัวอะไร เสน่ห์มันอยู่ตรงนี้ครับ”
อีกอย่างที่ทำให้คนชอบงานพวกนี้คือ “การออกแบบ” ที่เชื่อมโยงกับคนซื้อได้ เช่น การหยิบเอา “ราศี” หรือPop Cultureของตัวละคร ทั้งจากหนัง การ์ตูนที่ผู้คนชอบออกมาผลิต กระตุ้นต่อมอยากสะสม
“ง่ายๆ ก็คือ มันไม่ได้เป็นแค่การลุ้นนะครับ มันเป็นเรื่องของงานศิลปะดัวย และมันก็เป็นเรื่องของPop Culture ของตัวละครที่เขาเลือกมาทำด้วย
{“ไมค์” CEO จาก Toylaxy}
อีกเหตุผลที่ทำให้ตลาดนี้โต และmassในวงกว้างมากกว่าแต่ก่อนคือ “ราคาที่จับต้องได้” เพราะการเข้ามาของเจ้าใหญ่อย่างPOP MARTที่ตลาดเดิมอยู่ใน “ประเทศจีน” ซึ่งฐานของเขาใหญ่อยู่แล้ว
CEO Toylaxyบอกว่า เมื่อตลาดใหญ่ กำลังผลิตก็มาก ทำให้การผลิตArt Toy ต่อ1แบบ ได้ที่ละ “หลายล้านตัว” ราคาจึงถูก
ดังนั้น เมื่อ “ความน่ารัก” บวก “ราคา” ที่จับต้องได้ รวมกับ “กระแส” ที่ทั่วโลกเริ่มหันมาให้ความสนใจ ก็ไม่แปลกที่จะบูมขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่เห็น
“ประจวบเหมาะกับ ลิซ่า ไปโพสต์ลาบูบู้ตัวนั้น ก็เลยยิ่งไปกันใหญ่เลย”
Art Toyไทยได้อะไร?
จากกระแส “ลาบูบู้” หรือArt Toyรูปแบบต่างๆ ที่คนกำลังนิยมตอนนี้ ส่วนใหญ่เป็นผลงานของ “ศิลปินต่างประเทศ” จึงอดสงสัยไม่ได้ว่า ศิลปินไทยจะได้ประโยชน์อะไรบ้างหรือเปล่า? และนี่คือคำตอบของกูรูรายเดิม
“กระแสที่เข้ามาตอนนี้ เป็นประโยชน์กับศิลปินไทยไหม เป็นประโยชน์ครับ ไม่ได้เป็นประโยชน์กับแค่ศิลปินไทยด้วย แต่เป็นประโยชน์กับ เจ้าที่ทำของเล่น เจ้าเดียวในประเทศไทย อย่างToylaxyก็ได้ประโยชน์ไปด้วย”
“Designer Toys” หรือ “Art Toy” ไทยมีมานานแล้ว แต่เมื่อก่อนคนไม่เข้าใจว่า งานพวกนี้คือใคร ทำงานอะไร จากประสบการณ์ตรงของผู้ผลิตArt Toyไทยอย่าง “ไมค์” เขาต้องอธิบายกับผู้คนมากมายด้วยคำถามเดียวกันนี้
“แต่ตอนนี้ เราแค่บอกว่า เราเป็นโรงงานทำDesigner Toys/Art Toyคนก็เข้าใจแล้ว”
ผลบวกอีกด้านคือ พอมีคนอินเรื่องArt Toyมากขึ้น เหล่าศิลปินไทยเองก็มี “ช่องทาง” ในการแสดงผลงานมากขึ้นเหมือนกัน จากการมีบริษัทที่มาสนับสนุน มาจ้างให้ออกแบบ เพื่อสนองความต้องการของตลาด
“อย่างเช่นล่าสุด ผมเห็นไปรษณีย์ไทย เอาศิลปินมาออกแบบArt Toyเห็นไหมครับ มันก็เริ่มโตขึ้น เริ่มมีทางของมันมากขึ้น”
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตัวสินค้าไทยเองก็ยังมีปัญหาเรื่อง “ราคา” ที่ไม่สามารถสู้Art Toyที่นำเข้าจากต่างประเทศได้ ต้องยอมรับว่าส่วนนึงเป็นเพราะตลาดในไทยเล็ก การผลิตจึงมีต้นทุนสูงกว่า ยังไม่รวมค่าส่วนต่างที่ผู้ผลิตต้องจ่ายให้ร้านค้า หรือตัวแทนจำหน่าย
“ธรรมดาตลาดArt Toyในบ้านเราเนี่ย ส่วนใหญ่แล้วก็จะไม่ตัวใหญ่ไปเลย ก็จะตัวเล็ก ราคาแพง เพราะมันผลิตได้น้อย ตลาดเรามันแคบกว่าครับ”
แต่อย่างไรก็ตาม “ไมค์”ToyLaxsyมองว่า กระแสที่เข้ามาตอนนี้ยังเป็นเรื่องดี เพราะเป็นการขยายตลาด Art Toy ในบ้านเรา ส่วนเรื่องการแข่งขันด้านราคา เป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจที่ต้องปรับตัวกันไป
ส่วนกระแสในตลาดของเล่น-ของสะสมนี้ จะบูมไปอีกนานแค่ไหน กูรูรายนี้มองว่า อีกเดี๋ยวคง “ซาลง”แต่คงไม่ถึงขั้น “ตายจากไป”เพราะถึงยังไงก็มีกลุ่มคนชอบสะสมงานอาร์ตอยู่ดี
“คือตอนนี้ทุกคนเฮฮา เพราะว่ามันเป็น ลาบูบู้ ตัวละ 590 เหมา resaleตัวละ 1,600 โอโห..มันเท่าไหร่อะ 3 เท่าใช่ไหมครับ
แล้วถามว่าจะซาลงไหม ก็น่าจะซาลง แต่ถึงขั้นคนไม่ซื้อArt Toyหรือ Designer Toysเลยไหม ผมว่าไม่ใช่ครับ”
ความยากของศิลปินและผู้ผลิตArt Toyฝีมือคนไทยคือ จะทำยังไงให้ผู้คนในบ้านเรา เปิดใจซื้อสินค้าที่คนไทยออกแบบ และทำยังไงให้ศิลปินไทยโด่งดัง จนสามารถขายได้ในระดับโลก นั่นเป็นสิ่งที่Toylaxyกำลังพยายามทำอยู่
สกู๊ป : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : www.ebay.ch, Facebook “POP MART”, Instagram @lalalalisa_m
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **