เมื่อโลกกังขา “อาหารทะเลญี่ปุ่น” ปลอดภัยจริงหรือ? หลังปล่อยน้ำเสียของฟุกุชิมะลงทะเล นายกญี่ปุ่นนำทีม “กินปลาดิบโชว์” ย้ำว่า “ปลอดภัย” แต่จีนแบน เกาหลีประท้วง!! และนี่คือเสียงสะท้อนจากคนไทยว่า ยังเชื่อมั่นใน “อาหารทะเลจากญี่ปุ่น” อยู่ ธุรกิจนี้จึงยังไม่กระทบ
“เชื่อใจ” มาตรฐานญี่ปุ่น
หลังจากความกังขาของชาวโลก ถึงความปลอดภัยจากอาหารทะเลญี่ปุ่น เมื่อญี่ปุ่นตัดสินใจ “ระบายน้ำเสียที่บำบัดแล้ว”ออกจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ เมื่อ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา
ทำให้ “ฟูมิโอะ คิชิดะ” นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ถึงกับต้องนำทีมรัฐมนตรี “กินปลาดิบจากจังหวัดฟุกุชิมะ” โชว์ เพื่อแสดงให้ชาวโลกมั่นใจว่า อาหารทะเลจากญี่ปุ่นนั้น “ปลอดภัย”
แต่การพยายามกู้ภาพลักษณ์อาจไปได้ไม่สวยเท่าไหร่ เมื่อ “เท็ตสึโระ โนมูระ” รัฐมนตรีว่าการประมงญี่ปุ่น หลุดปากเรียกน้ำที่ปล่อยจาก โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะว่า “น้ำปนเปื้อน” ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ
จนนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นต้องสั่งให้รัฐมนตรีว่าการประมงท่านนี้ ออกมาขอโทษและถอนคำพูดที่ว่าเป็น “น้ำปนเปื้อน” เพราะสำหรับญี่ปุ่นแล้วมันคือ “น้ำที่ผ่านการบำบัดโดยระบบALPS”
เพื่อให้เห็นภาพชัดเกี่ยวกับผลกระทบต่อพี่น้องชาวไทยทีมข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจว่า การตัดสินใจปล่อยน้ำที่ปนเปื้อน จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ลงทะเลของรัฐบาลญี่ปุ่น มีผลกระทบต่อร้านอาหารญี่ปุ่น หรือความเชื่อมั่นผู้บริโภคในไทยบ้างหรือเปล่า?
“รู้
ครับ แต่ว่าก็ไม่ได้กังวลเท่าไหร่ เห็นแบบว่านายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น เขาก็มานั่งกินปลาโชว์ แบบว่าปลาจากประเทศเขามันก็ไว้ใจได้ ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจระดับหนึ่ง”
“ดิว” นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ที่มานั่งกินอาหารญี่ปุ่นกับเพื่อนในห้างฯ ดัง แสดงความมั่นใจให้ทีมข่าวฟังว่า ไม่มีความกังวลที่จะเลือกกินอาหารญี่ปุ่ม แม้จะมีข่าวการปล่อยน้ำเสียจากออกมาจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ
{บรรยากาศภายในร้านอาหารญี่ปุ่นในห้างดังแห่งหนึ่ง}
“ก็คิดว่าไม่มีผลอะไร และคิดว่ามันก็ไม่ได้เป็นวิกฤตอะไรที่ใหญ่มาก เพราะคิดว่าน้ำที่ออกมาจากโรงไฟฟ้ามันก็เป็นน้ำที่บำบัดแล้ว”
เช่นเดียวกับ “พัท” นักศึกษาอีกคนที่ก็บอกว่า มั่นใจในมาตรฐานของรัฐบาลญี่ปุ่น เพราะเราทุกคนรู้ว่าเรื่อง กัมมันตภาพรังสี เป็นเรื่องอันตราย “ถ้าเขาจะกล้าปล่อยมาขนาดนี้ แสดงว่ามันต้องบำบัดดีประมาณหนึ่งแล้ว”
“ผมรู้สึกว่า ถ้าทางการญี่ปุ่นเขาออกมาบอกว่ามันบำบัดเรียบร้อยแล้ว ผมก็ไม่กังวล เพราะผมรู้ถึง มาตรฐานของเขาว่า มาตรฐานเขาเป็นยังไง”
{ ดิว(ช้าย)และพัท(ขวา) }
ทั้งหมดคือเรื่อง “การเมือง”!!
แต่หลังจากญี่ปุ่น ดำเนินแผ่นปล่อยน้ำจากฟุกุชิมะได้ไม่นาน “จีน”ก็ได้ออกมาประกาศ “ห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น” โดยทันทีและนี่คือคำแถลงการณ์จากกรมศุลกากรจีน
“เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางอาหาร จากการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสี และปกป้องผู้บริโภคชาวจีน และเพื่อให้มั่นใจว่าอาหารนำเข้าทั้งหมดปลอดภัย กรมศุลกากรได้ตัดสินใจระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางทะเลที่มาจากญี่ปุ่นทั้งหมด ตั้งแต่ 24 ส.ค. 2023 เป็นต้นไป”
และไม่ใช่แค่จีน เพื่อนบ้านอย่าง“เกาหลีใต้” ก็ไม่พอใจในการกระทำครั้งนี้ วันที่ 26 ส.ค. ประชาชนเกาหลีใต้หลายพันคน ได้เดินขบวนประท้วงการกระทำครั้งนี้ของญี่ปุ่น และเรียกร้องให้หยุดแผนการปล่อยน้ำ
“ผมว่ามันเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า” ความเห็นจาก“ไพโรจน์”ลูกค้าอีกรายที่พาครอบครัวมานั่งกินร้านญี่ปุ่นชื่อดัง บอกกับทีมข่าวพร้อมรอยยิ้มว่า จากข่าวทั้งหมดไม่ให้วิตกเลย “ไม่ซีเรียสเท่าไหร่ ไม่กลัวว่างั้น (หัวเราะ)”
ทั้งหมดเป็นเรื่องของการเมือง!! มุมมองนี้สอดคล้องกับ “เบิ้น” ภาสธร ศักดิ์เดชยนต์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด จาก“Thonglor Nihon Ichiba”ตลาดญี่ปุ่นทองหล่อ ร้านขายวัตถุดิบอาหารทะเลจากประเทศญี่ปุ่น
“คนญี่ปุ่นเขากินปลาดิบ เขาก็ไม่ได้หยุดกิน เพียงแต่ว่าได้ข่าวที่มันมาหนักๆ เพราะว่าจีนกับเกาหลี เท่าที่ผมทราบมา เขาเป็นประเทศที่ทำสงคราม ตั้งใจจะมากลั่นแกล้งญี่ปุ่นอยู่แล้ว เขาก็จะหาทางทุกทางที่จะมาสกัดญี่ปุ่น”
{เบิ้น-ภาสธร ศักดิ์เดชยนต์}
ล่าช้า แต่ไม่กระทบ “นักชิม-ร้านอาหาร”
เมื่อถามผู้จัดการฝ่ายขายของ“Thonglor Nihon Ichiba” ว่าจากเหตุการณ์ณืที่เกิดขึ้น ตอนนี้ร้านได้รับผลกระทบหรือเสียงสะท้อนจากลูกค้าบ้างหรือเปล่า? จึงได้คำตอบดังนี้
“ถ้าดูจากยอดขายจริงๆ มันไม่ได้กระทบอะไรนะครับ แต่ว่าเรื่องการนำเข้ามันจะกระทบที่ว่า มันช้าเนื่องจากเขา ทาง อย. หรือทางศุลกากร เขาจะสุ่มตรวจปริมาณรังสีอะไรของเขานะครับ”
ส่วนของลูกค้า เบิ้มบอกว่าก็ไม่มีค่อยมีความกังวลเท่าไหร่ มีเข้ามาถามในช่วงแรกๆ พอทางร้านอธิบายว่า น้ำที่ปล่อยมาถูกบำบัดแล้ว ค่าต่างๆ ก็ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งทางร้านก็เตรียมข้อมูลไว้อธิบายกับลูกค้า มีทั้งเอกสารจาก อย.ไทย และข้อมูลจากญี่ปุ่น
“ลูกค้าเขาก็เข้าใจครับ เดี่ยวนี้เขาคงมั่นใจในความเป็นประเทศญี่ปุ่นว่า คงไม่ทำอะไรสะเพร่าแบบนั้นนะครับ ลูกค้าก็ยังเหมือนเดิม”
ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาซื้อวัตถุดิบที่ร้านคือ “ร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย” และยอดการสั่งวัตถุดิบก็ไม่ได้ลดลงเลย “แปลว่าตัวร้านอาหารเองก็น่าจะพอขายได้อยู่นะครับ”
และส่วนหนึ่งมองว่า อาจเป็นเพราะวัตถุดิบของที่ร้านใช้ ไม่ได้มาจาก “ฝั่งทะเลฟุกุชิมะ” แต่ส่วนใหญ่นำเข้ามาจาก “ชิโกกุ” กับ “เอฮิเมะ” ซึ่งเป็นทะเลคนละฝั่งกับที่เป็นข่าว เลยทำให้ไม่ได้รับผลกระทบก็เป็นได้
“เพราะฉะนั้น ลูกค้าเขาก็ถามเราแหละว่า ปลานี้มันมาจากตรงไหน มาจากเมืองนี้หรือเปล่า เราก็ตอบเขาได้ว่าเราไม่ได้มีของมาจากที่นั้นอยู่แล้ว
มันไม่ได้มาจากทะเลตรงนั้นเป๊ะๆ ต่อให้มันปล่อยรังสี ลูกค้าเขาคิดว่ารังสีมันคงไม่ได้วิ่งเร็วเป็นจรวด อ้อมมาทะเลอีกฝั่งได้หรอกมั้งอะไรอย่างนี้”
สกู๊ป :ทีมข่าวMGR Live
คลิป : ชยพัทธ์ พวงพันธ์บุตร
ขอบคุณภาพ :www.japantimes.co.jp , asia.nikkei.com , www.cbc.ca , abcnews.go.com ,e.vnexpress.net , japannews.yomiuri.co.jp ,เฟซบุ๊ก “Thonglor Nihon Ichibaตลาดญี่ปุ่นทองหล่อ”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **