xs
xsm
sm
md
lg

ไลฟ์ “ไฟไหม้บ้าน” เพื่อคอนเทนต์!? บทเรียน “ยุคโซเชียลฯ” หลุดจากโลกแห่งความเป็นจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กะเทาะเคสไฟไหม้!! นั่งร้องไห้ Live-ไม่หนี สังคมจับตาเคสสุดแปลก สร้างสถานการณ์เรียกเงิน ทำคอนเทนต์ลงโซเชียลฯ เสียงสะท้อนจากหมอส่งสัญญาณ ดูแล้วผิดปกติ




สร้างคอนเทนต์ “ไฟไหม้บ้าน” ติดโซเชียลฯ-หลอกลวงเงิน!?


กลายเป็นเรื่องที่สังคมกังขากับเหตุการณ์ไฟไหม้สุดแปลก เมื่อสาวรายหนึ่ง Live ข้างกองเพลิงไหม้บ้าน ร้องห่มร้องไห้ พร้อมทั้งตัดพ้อ “ไม่อยากอยู่กับมัน มันบังคับทุกสิ่ง แต่กลับไม่หนีออกมา”

ส่งให้ชาวโซเชียลฯ ตั้งข้อสงสัยถึงพฤติกรรมสุดแปลกนี้ รวมถึงเพลิงไหม้ที่ไม่ทราบสาเหตุ ว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ให้คนสงสาร เรียกเงินรับบริจาคหรือไม่

เพราะก่อนหน้านี้เคยมีเคสเรียกความน่าสงสาร จนทำให้มีผู้เสียหายโอนเงินช่วยเหลือจำนวนมากก่อนตกเป็นเหยื่อ


อย่างเคสครูอาสาสอนเด็กนักเรียนบนดอย มีพฤติกรรมขอรับบริจาคเงิน อ้างจะนำไปช่วยเหลือเด็กนักเรียนบนดอย สร้างถนน ซื้อหนังสือ เป็นค่าอาหาร แต่ในความเป็นจริงไม่ได้ทำแบบนั้น เงินทั้งหมดเอาเข้ากระเป๋าตัวเอง รวมยอดบริจาคกว่า 300,000 บาท

หรือก่อนหน้านี้เคส “แม่ปุ๊ก” มนุษย์อ้างว่าเป็นแม่ แต่กลับวางแผนวางยาเลี้ยงไข้ลูกสาวและลูกชายเพื่อเปิดรับบริจาค

ไม่เพียงแค่นั้น ยังมองถึงการทำคอนเทนต์ในปัจจุบัน ที่ถือว่าเป็นยุคแห่งการทำทุกอย่างเป็นคอนเทนต์ ต้องมีการสร้างเรียกราว เหตุการณ์ต่างๆ


เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ทีมข่าว MGR Live จึงติดต่อไปยัง นพ.โยธิน วิเชษฐวิชัย แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจิตเวชศาสตร์ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ให้ช่วยไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยวิเคราะห์ถึงเคสนี้ว่ามีอาการป่วยทางจิต หลุดออกจากโลกแห่งความจริง

“ในเคสกรณีบ้านไฟไหม้ดูแล้วมีความไม่ปกติ คือหลุดจากโลกแห่งความเป็นจริง คือผมว่ายังไงถ้าไม่ใช่เรื่องยาเสพติด อาจจะมีอาการป่วยทางจิต

อาการป่วยทางจิต คือลักษณะที่ทางจิตเวชเรียกว่าโรคจิต คือแยกแยะความจริงไม่ได้ อันนี้น่าจะเหนือกว่าการติดโซเชียลฯ ธรรมดา


คือถ้าติดโซเชียลฯ ธรรมดา ผมว่าเขาต้องหนีเอาตัวรอด ออกมาข้างนอก และถ่ายรูป และถ้าบ้านตัวเองไฟไหม้ คงไม่นั่งไลฟ์สด แต่นี่น่าจะหลุดออกจากโลกความเป็นจริง

เราก็ไม่ได้รู้เลเวลความผิดชอบชั่วดี เท่ากับคนปกติทั่วไป ถามว่าโยงกับเรื่องติดโซเชียลฯ ขนาดนั้นไหม ผมว่าก็เป็นไปได้ว่าเคสนี้อาจจะมีเรื่องของการติดโซเชียลฯ มาก่อน แต่ไม่ได้เป็นประเด็นหลัก ประเด็นหลักของเคสนี้ คือเรื่องของการหลุดโลกมากกว่า




หยุดเสพติด! ก่อนสายเกินแก้


ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบัน “โซเชียลมีเดีย” ถือเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันไปแล้ว การใช้โซเชียลมีเดียผ่านอุปกรณ์สมาร์ทโฟนมากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะเสพติดได้

เพื่อเข้าใจให้ถูกต้อง และเป็นบทเรียนให้ตระหนักถึงพิษภัยจากการเล่นโซเชียลฯ จึงได้สอบถามคุณหมอโยธินถึงวิธีสังเกตของอาการเสพติดนี้

ผ่านสายตาของคุณหมอแล้วนั้น มองว่าในปัจจุบันโซเชียลฯ ค่อนข้างดึงเอาชีวิตจริง ไปอยู่ในโซเชียลฯ เยอะ ผู้ที่เสพติดจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้


“สิ่งที่เราพบบ่อย คือเป็นวัยรุ่น กับสูงอายุไปเลย ถ้าเป็นวัยรุ่นก็อาจจะเป็น TikTok,  Twitter, Instagram ถ้าเป็นสูงอายุก็เป็น Line สวัสดีวันจันทร์กันตลอด ก็จะมีเรื่องการยอมรับเป็นหลัก

ถ้าติดโซเชียลฯ จะมีอาการจะเล่นอยู่ตลอดเวลา ขาดไม่ได้ต้องเข้าไปดู ถ้าเน็ตเข้าไม่ได้ก็จะมีอาการหงุดหงิด เหมือนคนเสพติดยาเสพติด ต้องถอน ต้องห่างจากสิ่งนี้ ก็จะห่างไม่ได้ จะกระวนกระวายใจ อาจจะใช้ชีวิตไม่เป็นสุข

ถ้าในลักษณะที่แบบว่าต้องการให้คนมาสนใจ ต้องการยอดไลก์เยอะๆ มีความต้องการยอมรับจากสังคมมากๆ และแยกแยะไม่ได้ อันนั้นก็น่ามีปัญหา

แต่ถามว่ามีคนติดไหม ...มี ต้อง Live เกี่ยวกับทุกๆ เรื่อง กินข้าวก็ต้องโพสต์ ไปเที่ยวไหน อาจจะชีวิตดี ก็ต้องโพสต์ทุกอย่าง ซึ่งความจริงไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น มันเป็นเรื่องของการเรียกร้อง การยอมรับจากสังคม”


นอกจากนี้ คุณหมอโยธินได้เสริมถึงการสำรวจสภาพจิตใจของตนเองเบื้องต้น ก่อนที่จะติดโซเชียลฯ สายเกินแก้

“ในกรณีที่ไม่ใช่เคสนี้ อย่างกรณีทั่วไป ติดโซเชียลฯ ติดเกม คืออย่างแรกเลยมันจะทำให้เสียเวลา ในเรื่องของการที่จะไปทำเรื่องที่เป็นประโยชน์ สิ่งที่ติดก็ต้องมาเป็นอันดับ 1

จะทำให้คนคนนั้นอาจจะเสียงาน เสียการเรียน เสียสังคมจริงๆ ในชีวิตที่เราอาจจะต้องใช้ ที่ไม่ใช่ออนไลน์ครับ ก็อาจจะเสียทั้งหมด นี่คือเรื่องที่เป็นห่วง

อย่างที่ 2 คือ พอเขาขาดสิ่งนั้นไม่ได้ เขาก็จะเป็นทุกข์ ต้องขวนขวาย ต้องเข้าไปหาสิ่งนั้นตลอด เพราะติดโซเชียลฯ ไม่แน่ใจว่าเขาอาจจะติดการยอมรับในโซเชียล

ถ้าติดเกม มันอาจจะต้องการการยอมรับจากตัวเอง เพื่อให้เล่นชนะ เพื่อให้รู้สึกตัวเองเป็นที่ 1 ถ้าจะให้เตือนคนเหล่านี้ยังไง อย่างแรกคือ เขาควรที่ต้องดูว่าเขาต้องการอะไรอยู่ แล้วมันส่งผลต่อชีวิตเขายังไงบ้าง คือแต่ละท่านต้องมีสติ และตระหนักด้วยตัวเองครับ คนอื่นเตือนน่าจะยาก”

อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ไฟไหม้บ้านในครั้งนี้ ยังไม่ได้ผลสรุปที่แน่ชัดว่ามีเกิดขึ้นเพราะสาเหตุอะไรจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าตัว จะต้องรอติดตามกันต่อไป




สกู๊ป : ทีมข่าว MGR Live



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น