เปิดคลังแสง “ปอ ยูโร่” เจ้าของ “ของเล่นของแถม ยุค 80-90” ทั้ง ตุ๊กตุ่น-หุ่นเซนต์เซย่า-การ์ดโอเดงย่า และอื่นๆ อีกนับหมื่นชิ้น ใครจะคิดว่าของแถมเมื่อ 30 ปีที่แล้ว จะกลายมาเป็นของสะสมมูลค่ารวมหลายล้าน “เราไม่มีไทม์แมชชีน ก็ต้องใช้ของพวกนี้ กลับไปสู่ช่วงที่เรามีความสุขที่สุด”
จากของแถมวันนั้น สู่ของสะสมวันนี้
“ผมเคยถามตัวเองบ่อยเหมือนกัน กว่าจะรู้ว่าตัวเองชอบอะไรที่สุดกันแน่ ตั้งแต่วัยรุ่นแล้ว เคยเก็บนู่นนี่มามั่วไปหมด จนมาถึงอายุ 34 ก็มาหาคำตอบให้ตัวเองได้ว่าเราชอบของเล่นนี่หว่า พอมาคิดย้อนถึงตัวเองตอนเด็กๆ ก็ชอบจะไปแต่ร้านของเล่น ก็เลยเริ่มสะสมจริงจัง เก็บพวกการ์ตูน พวกของเล่นครับ
มันเป็นความรู้สึกคิดถึงอดีตล้วนๆ เห็นแล้วมันแบบ... เราเคยเล่น ตัวนี้เรายังไม่เคยมีตอนนั้น ตอนนี้เราพอจะมีกำลังทรัพย์แล้ว อยากเก็บสะสม อยากรื้อฟื้นความทรงจำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราย้อนอดีตไม่ได้ เราไม่มีไทม์แมชชีน เราก็ต้องใช้ของพวกนี้เป็นตัวย้อนอดีต ให้เรากลับไปสู่ช่วงที่เรามีความสุขที่สุด ก็เลยตามหาใหญ่เลยทีนี้”
“ปอ-วุฒิชัย อนุชิตนานนท์”ชายวัย 40 ปี ผู้มีเบื้องหน้าคือธุรกิจส่วนตัว เปิดสนามฟุตบอล ขณะที่เบื้องหลังนั้น เขาเป็นที่รู้จักในแวดวงนักสะสมของเล่นเก่าชาวไทย ในชื่อ “ปอ ยูโร่” แห่งแฟนเพจ “ปอ ยูโร่ ของเล่นในความทรงจำ”
เพราะชายผู้นี้ เป็นเจ้าของ “ของเล่นของแถม” นับหมื่นชิ้น จากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เป็นที่นิยมเมื่อหลายสิบปีก่อน ไม่ว่าจะเป็น ขนม น้ำอัดลม รองเท้านักเรียน ถุงเท้านักเรียน ผงซักฟอก สบู่ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยแต่ละชิ้นมีอายุไม่ต่ำกว่า 30 ปี ซึ่งก็แน่นอนว่าเป็นสิ่งหายากอย่างมากในยุคสมัยนี้
ปอ กล่าวกับทีมข่าว MGR Live ถึงจุดเริ่มต้น ก่อนที่จะมาเป็นนักสะสมของเล่นแถมอย่างทุกวันนี้ว่า เดิมทีเป็นของคนชอบในของเล่น ตัวการ์ตูน มาตั้งแต่สมัยเด็ก แต่ไม่มีโอกาสได้เก็บไว้ เนื่องด้วยฐานะทางบ้านในขณะนั้นที่ไม่อำนวย
เวลาผ่านไปจนเขาอายุได้ 34 ปี หรือราว 6 ปีก่อน ระหว่างเดินตลาดนัด ก็ได้บังเอิญเจอเข้ากับของเล่นอย่างที่คุ้นเคยเมื่อครั้งเป็นเด็กน้อยคือ ตุ๊กตุ่นจากเรื่องดราก้อนบอล อย่างที่เคยเล่นเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ด้วยความหลงใหลในเสน่ห์ของเล่นเก่างานไทย ปอจึงตัดสินใจเริ่มตามเก็บ โดยเฉพาะ “ของเล่นจากของแถม”
“ของเล่นที่เอามา แถมจากของที่เราซื้อ เป็นวิธีการตลาดช่วงยุค 80 ต้นๆ ช่วงนั้นพวกบริษัทรองเท้านักเรียน พวกแฟ้บ สบู่ ยาสีฟัน หรือแม้แต่ขนม เริ่มมีเอาตุ๊กตุ่น เอาสติ๊กเกอร์ เอานู่นนี่มาแถมกับผลิตภัณฑ์ของเขาแล้ว มันเริ่มมาจริงๆ ตั้งแต่ยุค 70 แต่มาฮิตที่สุด ผมว่าเป็นช่วงยุค 80 กลางๆ ไปถึง 90 กลางๆ ช่วงนี้เรียกว่าห้ำหั่นกันด้วยของแถมจริงๆ
แต่ก่อนของแทบทุกอย่างมันต้องมีแถมพวกของเล่น ไม่งั้นขายไม่ออก อันนี้เรื่องจริงเลย ทั้งขนม รองเท้า ถุงเท้านักเรียน แฟ้บ สบู่ ยาสีฟัน หรือแม้แต่ปั๊มน้ำมัน พวกนี้ต้องมีทำการตลาดโดยการเอาของเล่นมาแถม อย่างพวกรองเท้านักเรียน เด็กๆ ก็จะดูกันแล้ว อันนี้ของแถมเจ๋ง ซื้ออันนี้ดีกว่า ก็จะเป็นอย่างนั้นไป
บ้านผมตอนเด็กๆ ฐานะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พ่อผมทำพวกประมง เป็นลูกจ้างทำอยู่กับอาม่า เป็นกงสี พ่อทำงานกินเงินรายวันอยู่คนเดียว ผมแทบจะไม่เคยได้ของเล่นจากพ่อแม่เลย
ต้องบอกก่อนว่าเด็กยุคผมโตมากับของเล่น กับการ์ตูน ตัวผมเองก็อาศัยเล่นของเล่นแถมขนม ได้ของแถมด้วย ได้กินขนมด้วย มันก็คุ้ม กล้าที่จะซื้อมาเล่นเพราะราคามันเอื้อมถึง หลัก 10 บาท”
และอีกเหตุผล ก็เพื่อต้องการที่จะ “ลบปมในใจ” ในวัยเด็กที่ไม่มีของเล่นอีกด้วย
“ถ้าพวกของที่เป็น Made in Japan สมัยก่อน ที่ขายกันบนห้าง เป็นตู้กระจก กล่องนึงหลายๆ ร้อย บางตัวก็เป็นพัน ของพวกนี้ได้แค่มองจริงๆ ยอมรับเลย ไปกับพ่อแม่ไม่เคยดิ้น ไม่เคยร้อง เพราะรู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ไม่ได้ เอาจริงๆ ก็มีน้อยใจนะครับ แต่เราก็ไม่รู้จะทำยังไง เราก็เข้าใจในมุมพ่อแม่ เพราะเงินจะกินข้าวแต่ละวันยังไม่ค่อยจะมี
มันเลยกลายเป็นว่าฝังใจมาตลอดว่า แต่ก่อนเราก็อยากจะมีนะ ของเล่นที่ต้องไปซื้อบนห้าง แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ ก็ได้แต่ไปอาศัยเพื่อนที่เป็นลูกคนรวย แต่ก็โชคดีที่เขาไม่หวง เขาก็ให้เล่นได้ แต่หลักๆ ก็อาศัยเล่นของแถมขนมนี่แหละครับ
เข้าใจความรู้สึกนะครับ สำหรับคนที่พ่อแม่ไม่ค่อยมีเงินซัพพอร์ตเรื่องของเล่น มันก็เป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างแย่ ผ่านวัยเด็กมาโดยที่ไม่ได้เล่นอะไร ผมยอมรับว่าโชคดีนะที่ได้เจอเพื่อนที่เขามีเงินแล้วเขาไม่หวง ถ้าค่ายขนมเขาไม่ทำของแถมเหล่านี้ขึ้นมา ก็คงไม่ค่อยได้เล่นอะไร ไม่มีเงินไปซื้อ ก็คงเล่นแต่ปาดินน้ำมัน ปาลูกข่างเหมือนเดิม”
บทเรียน "ประมูลพลาด" เพราะคำว่า "ของมันต้องมี"
“เอาจริงๆ คนรุ่นผม ทัศนคติมันไม่เปลี่ยนกันไปเท่าไหร่นะ โตมากับของเล่น ชีวิตมันก็วนเวียนอยู่กับการ์ตูน กับของเล่น ไม่ว่าอายุ 30-40-50 ไปแล้ว ก็ยังมีภาพจำว่าของเล่นพวกนี้อยู่ให้คิดถึงตอนเด็กๆ ก็เลยบ้าของเล่นกันอยู่ (หัวเราะ)
ของเล่นมันมีอดีตของมัน มันมีความทรงจำ มันมีเรื่องราวที่ผ่านๆ มา อย่างเช่นว่า ผมเคยเล่นกับพี่น้องที่เป็นญาติกัน อันนี้ลุงซื้อให้ อันนี้เคยเอาไปเล่นที่โรงเรียน อันนี้เคยโดนครูยึด อันนี้เคยแย่งเพื่อน อันนี้เคยยืมเพื่อน เวลาหยิบขึ้นมาดูก็ทำให้นึกถึง มันมีเรื่องราวให้เล่าเยอะครับ”
หลังจากที่ตัดสินใจก้าวเข้าสู่วงการวงการนักสะสมอย่างเต็มตัว แม้ปัจจุบันเขาจะมีหน้าที่การงานที่มั่นคงและไม่ขัดสนเรื่องเงินทอง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตามหาของเล่นของแถมมาในครอบครอง
เพราะทุกวันนี้ ของเล่นของแถม ที่เรียกได้ว่าเป็น “ของฟรี”ในยุคนั้น กลับกลายเป็นของหายากและมีมูลค่าพุ่งสูงขึ้นไปหลายเท่าตัว โดยตลอด 6 ปีที่ผ่านมา เขาตามเก็บความสุขในวัยเด็กกลับมาได้นับหมื่นชิ้น หมดเงินไปถึง “หลักล้าน”จนพื้นที่บ้านชั้นล่าง ไม่ต่างอะไรกับพิพิธภัณฑ์ของเล่นเก่าย่อส่วน
“สมัยก่อนจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ มันก็ต้องรอโต รอทำงานได้ แต่บางคนเขาก็มีพูดติดตลกว่า ‘แต่ก่อนก็ซื้อไม่ได้ ตอนนี้ก็ยังซื้อไม่ได้’ก็จริง เพราะเวลาพอผ่านไปราคามันก็แพงขึ้นไปอีก มีเงินก็ซื้อไม่ได้เพราะมันหายาก
ตอนนี้ทั้งบ้านนับยิบย่อย ชิ้นเล็กชิ้นน้อย ผมว่าน่าจะเป็นหมื่น แต่ผมก็ไม่เคยนับเหมือนกัน หมดไปเท่าไหร่ (นิ่งคิด) ไม่ถึง 10 ล้านหรอกครับแต่ก็หลายอยู่ (หัวเราะ)
ไม่เคยตั้ง(งบ)เลย เคยลองดูแล้วมันตั้งไม่ได้เพราะไม่รู้อะไรจะมาเมื่อไหร่ อย่างบางเดือนแทบจะไม่ซื้อเลยก็มี ส่วนบางเดือนก็โดนหนัก ประดังเข้ามา หลายหมื่น เป็นแสนก็มีบางเดือน F ของหนักมาก พัสดุมาส่งทุกวัน ซื้อจนทุกวันนี้ตัน ไม่รู้จะซื้ออะไร บางทีเห็นคนเขาประมูลกัน เราก็คิด ตอนนั้นเรารีบทำไม จนไม่รู้จะไปประมูลอะไรกับเขาแล้ว มันมีเกือบหมดแล้ว
สมัยก่อนไม่มีใครคิดหรอก ไม่มีใครเก็บ ซื้อมาเล่นประเดี๋ยวประด๋าวก็ทิ้ง ถ้าผมรู้อนาคตนะ ผมคงไปขอแม่ผมซื้อเป็นลังๆ (หัวเราะ)ถ้าเก็บไว้ตอนนี้รวยเละบอกเลย ถ้าใครคิดแบบนี้ ณ ตอนนั้น แต่คงไม่มีหรอกครับ พวกกล่องทิ้งไปหมด มันเลยกลายเป็นของแพง ของหายาก ตามสภาพ ตามยี่ห้อ ตามของแถม ยูโร่จะแพงสุด แล้วก็พวกการ์ดโอเดงย่า”
คำว่า “ของมันต้องมี” เป็นคำที่นักสะสมไม่ว่าวงการไหนจะต้องเคยสัมผัสมาแล้ว ชิ้นไหนที่ว่าแรร์ หายาก สภาพสวย เป็นต้องได้สู้เพื่อให้ได้มาครอบครองโดยไว
แต่ในขณะเดียวกัน ด้วยความรีบร้อนอยากได้นี้ ก็กลายเป็น “พลาด”จนต้องมานั่งเสียดายทีหลังอยู่บ่อยครั้ง
“แต่ก่อนที่ผมหมดเยอะๆ ผมจะชอบคิดว่าซื้อมาเก็บไว้ก่อน เพราะเงินเราหาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่บางทีต่อให้มีเงินแล้วไม่มีของก็เท่านั้น ก็เลยกลายเป็นว่า อะไรที่เรายังไม่มีต้องรีบเอาไว้ก่อน ไม่ว่าราคามันจะเท่าไหร่ก็ต้องเอา
นักสะสมทุกวงการมักจะต้องเคยพลาด เป็นความรีบร้อน ที่พลาดที่สุดจะเป็น ยูโร่เซ็ทแถมตัวตุ๊กตุ่นดราก้อนบอล ตอนนั้นคิดว่าแพงแล้วนะ ผมซื้อมาเป็นหมื่น ซื้อมาได้ยังไง แต่พอ เห็นกล่องนี้ปุ๊บรีบซื้อเลย หมื่นนึงก็เอา
แต่พอผ่านไปไม่นาน มีคนเอามาลงให้ประมูลในกลุ่มของเล่นเก่า เขาไปเจอมาเป็นลัง เขาเรียกกรุแตก พอของมันเยอะราคาก็ตก จากอันละเป็นหมื่นเหลืออันละไม่ถึงพันก็ยังมี (หัวเราะ) แต่ก็ต้องยอมรับสภาพไป ตอนนั้นเราก็อยากจะได้ อยากมีไว้ก่อน มันเป็นเรื่องปกติของนักสะสมที่จะมีพลาดในเรื่องแบบนี้ มันเป็นความเสี่ยง
แต่ของบางอย่างที่ทุ่มไปมันก็คุ้มนะ สมมติเคยซื้อมา 10,000 เวลาผ่านไป 3 ปี ขึ้นไปเป็น 20,000 กว่า คนที่ไม่ซื้อตอนนั้นก็มานั่งเสียดาย ที่เขาชอบพูดกัน ‘รู้งี้ๆ’ จะมาซื้อทีหลังราคามันก็ยิ่งแพงขึ้นไปอีก บางทีก็ตัดสินใจถูกต้อง บางทีก็ตัดสินใจผิด เป็นเรื่องปกติ ถ้าตัดสินใจถูกต้องก็โชคดีไป ที่พลาดก็พลาดไปไม่เป็นไร เป็นประสบการณ์”
และด้วยความชื่นชอบ “ของแถมจากขนมยูโร่”เป็นพิเศษ จึงเป็นที่มาของฉายา “ปอ ยูโร่” ไปโดยปริยาย
“ฉายา “ปอ ยูโร่”ได้มาตอนที่ผมเพิ่งจะเข้ามาในวงการสะสม ตอนนั้นมีพี่ท่านนึงในวงการเขาชวนไปเป็นแอดมินกลุ่ม แล้วจะให้มีฉายาแต่ละคน ผมคิดไม่ออก พี่เขาก็บอก ‘ชอบยูโร่ ก็ปอ ยูโร่ไปเลยสิ’
ผมชอบที่สุดตั้งแต่เด็ก ยูโร่นี่บอกเลยว่าเป็นยี่ห้อขนมแถมของเล่น ที่ผมใช้คำว่าเป็นยักษ์ใหญ่เลยดีกว่า ใหญ่ที่สุดในประเทศแล้ว ที่ดังๆ ของเขาจะเป็นพวกสมุดสะสมสติ๊กเกอร์ สะสมครบก็ไปแลกรางวัล แล้วก็ ยูโร่เซ็ท ยูโร่จอย แถมพวกตุ๊กตุ่น แล้วก็จะมีของเหรียญชัย โอเดงย่า แต่จริงๆ ยังมีอีกหลายยี่ห้อที่แถมขนม แต่ที่ผมชอบที่สุดก็คงจะเป็นยูโร่
ขนมของยูโร่อร่อยทุกอย่างนะ ยิ่ง กาก้า คัมคัม แล้วก็พวกช็อกโกแลต แต่ทีนี้ด้วยความที่ว่าเด็กๆ สมัยก่อนอยากได้ของเล่นกันมาก กินขนมก็ไม่ไหว อาจจะมีทิ้งบ้าง ให้ปลาบ้าง แต่อร่อยครับ ตอนนี้ยังอยากให้เขากลับมาทำเลย
และเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว งานครบรอบ 35 ปียูโร่ ทางเจ้าของบริษัทเขารู้ว่าผมเก็บของพวกนี้เยอะ เขารู้สึกรู้สึกดีใจเลยเชิญผมไปเป็นแขกพิเศษในงานครบรอบของบริษัทเขา แล้วก็ได้เอาของไปโชว์ในบริษัทด้วย
หลายคนชอบบอกว่าผมมีครบทุกอย่างแล้ว แต่จริงๆ ยังขาดอีกเยอะมากครับ ถ้าจะเก็บแบบละเอียดๆ อย่างของยูโร่ ยังขาดพวกกล่องของเล่นอีกหลายแบบเลย ถ้าใครเจอกล่องขนมหรือของเล่นที่แถมของเล่นสมัยก่อน ก็ทักส่วนตัวมาหาผมได้ ก็ลองส่งรูปมาให้ดูได้ อันไหนที่ยังไม่มีจะซื้อต่อ ให้ราคาดีครับ”
Top 5 ของสะสมชิ้นโปรด 1.ขนมปังเคลือบโกโก้ ตรา ยูโร่จอย “ขนมปังเคลือบโกโก้ ตรา ยูโร่จอย ของแถมเขาจะอลังการ ด้วยขนาดกล่องที่ใหญ่ ราคา 28 บาท ของแถมในเรื่อง เซนต์เซย่า เป็นตัว ซิกนัส เฮียวกะ เป็นตัวละครตัวโปรด เท่ดี ปล่อยพลังน้ำแข็ง หลังกล่องก็จะบอกว่าได้ตัวอะไร ยูโร่ทำมาแค่ 2 คาแรคเตอร์ คือเฮียวกะกับชิริว (ราคาที่ได้มา)ก็เป็นหลักหมื่นเหมือนกัน” 2.โอเดงย่า “เมื่อก่อนโอเดงย่าทำมาทั้งหมดทั้งใบธรรมดา ทั้งใบเลเซอร์ รวมกันทั้งหมด 1,638 แบบ เป็นเรื่องราวของแต่ละช่วงในการ์ตูนดราก้อนบอล ตอนนั้นบางคนก็เอามาเขี่ย เอามาตบแปะ มาหงายพลังโชว์กัน ผมน่าจะมีเลยครึ่งมาหน่อย ประมาณ 900 ใบ เพราะผมเก็บแค่พาร์ท 1-16 จากทั้งหมด 27 พาร์ท แล้วก็มีเลเซอร์อยู่พอสมควร แต่ก็มีคนที่เก็บครบ สุดยอดเลย โอเดงย่าก็เจ๋งตรงนี้ ของแถมดี ราคาไม่แพง ตอนนี้ทางโอเดงย่าเขาก็กำลังจะกลับมาขายอีก รอบนี้ยิ่งใหญ่เลย ก็จะขายในวันที่ 21 ตุลาคม ที่เซเว่น ขนมจะเป็นตัวเดิม แล้วก็มีการ์ดทั้งหมด 147 แบบ มีทั้งใบธรรมดา ทั้งใบพิเศษ ให้สำหรับเด็กยุคนั้นได้กลับมาสะสมกันใหม่ แล้วเด็กรุ่นใหม่ก็สะสมได้ 30 ปีเลยนะครับที่เขากลับมาทำ เมื่อก่อนจะมีแค่ 27 พาร์ท ก็จะรันเป็นพาร์ทที่ 28 เลย” 3.หุ่นยนต์ Vifam “ของแถมขนมยุค 80 ประมาณปี 2528 เป็นหุ่นยนต์ Vifam สีน้ำเงินกับสีชมพู ขนมจะเป็นสับปะรดกวน สมัยนั้น 20 บาทถือว่าเอาเรื่องเหมือนกัน เป็นตัวโปรดของผมสมัยเด็ก ถ้าไม่อ้อนวอนขอร้องญาติผู้ใหญ่ก็คงยาก จริงๆ แล้วตัวนี้ไม่ได้มาจากตอนเด็กๆ ได้ไปเจอมันอีกครั้งแล้วเราก็เอามันมาสะสมอีกรอบนึง คนที่ตามเก็บของเล่นศรีไทยก็ตามหากัน เป็นของเล่นชิ้นเอกของศรีไทยอีกชิ้นที่ผมชอบมากๆ เจอประมาณ 5 ปีที่แล้วตั้งแต่เก็บสะสมของเล่นทั้งหมดมา หายากมาก ยังไม่เคยเห็นใครมีสภาพกล่องแบบนี้ อันนี้ผมไปตามจีบคนที่ประมูลชนะ ให้ราคาเพิ่ม เขาประมูลมา 200 ผมก็ไปขอซื้อเขา 2,000 แต่ก็คุ้มเพราะไม่เคยเห็นใครมี” 4.แผ่นยางใต้ฝาน้ำอัดลม เกมตามล่ามหาสนุก “ผมชอบที่สุดในของแถมจากน้ำอัดลมในสมัยเด็ก เกมตามล่ามหาสนุก ตามล่ารูปภาพที่เป็นแผ่นยางอยู่ใต้ฝาน้ำอัดลม แล้วก็เอาแผ่นยางไปติดที่ว่างให้เป็นรูป มีทั้งหมด 8 รูปภาพ ตั้งแต่ปี 2529 จำได้ว่าได้เล่นอยู่ ไปตามร้านไปแงะกัน” 5.ร็อคกี้เหมียว กับ ร็อคกี้โจ้ หุ่นชักมือจากบาจา “อันนี้เป็นชิ้นโปรดที่สุดของผมอีกชิ้นนึงเลย เนื่องจากว่ามันเป็นของแถมรองเท้านักเรียนที่หายากที่สุด เวทีมันเป็นอะไรที่ไม่น่ามีใครมีแล้วในประเทศ จริงๆ แล้วเวทีนี้ไม่ใช่ของแถมหรอก มันเป็นของที่ไว้ตั้งโชว์ของแถม ร็อคกี้เหมียว กับ ร็อคกี้โจ้ หุ่นชักมือต่อยมวยในตำนานของบาจา เวทีนี้มันจะพิเศษตรงที่ว่ามันมีแค่ร้านค้าเท่านั้นที่จะมีเวทีตั้งโชว์ ต้องเป็นร้านบาจาที่ใหญ่ด้วย ตอนนั้นที่บ้านผมอยู่ในตลาดปากน้ำ หลังบ้านผมจะเป็นร้านบาจา 4 คูหา ใหญ่มาก ก็จะมีเวทีนี้ไว้วางโชว์เจ้า 2 ตัวนี้ เพื่อนรุ่นๆ เดียวกันก็ไปยืนเล่นกัน ผมก็เพิ่งจะ 5-6 ขวบ จำได้ตอนนั้นเล่นกันสนุกมาก ชอบมากๆ มันเจ๋งดีครับ” |
เบอร์ 1 วงการของเล่นของแถมไทยยุค 80-90s
“ผมคิดว่าผมเป็นคนที่มีของเล่นแถมขนม ไม่น่ามีใครเยอะเท่าผมนะถ้าเป็นของที่ทำออกมาในยุค 80-90 ผมค่อนข้างจะมีครบมาก มีแทบทุกอย่างเลย ผมจะเก็บตามความที่ผมอิน ผมอินกับตอนเด็กๆ ส่วนมากจะเก็บที่ผมเคยมี เคยเล่น เคยเห็น ของใหม่ไม่มีเลยครับ”
อย่างที่เล่าไปแล้วข้างต้น ด้วยปริมาณของสะสมที่มีมากมายถึงหลักหมื่นชิ้น อาจกล่าวได้ว่า “ปอ ยูโร่”คือเบอร์ 1 ในวงการของเล่นของแถมยุครุ่งเรือง
ผู้สัมภาษณ์จึงให้เขาช่วยสะท้อนภาพ ของเล่นยุคก่อนกับของเล่นยุคนี้ ถึงความแตกต่างตามยุคสมัยที่เปลี่ยนผ่าน
“ช่วงสมัยนี้กับสมัยนั้นมันต่างกันลิบลับ มันก็มีเสน่ห์ มีข้อดี-ข้อเสีย แตกต่างกัน สมัยนั้นทุกคนต้องออกมาจากบ้าน ต้องเล่นอะไรที่มันจับต้องได้ มีตัวตน ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ว่าเล่นอะไรก็ได้ในโลกโซเชียลฯ ไม่จำเป็นต้องเจอใคร
รุ่นผมมันอาจจะไม่ดีกว่ารุ่นนี้หรอก มันล้าหลัง แต่สิ่งที่มันมีคือความคลาสสิก มันมีเสน่ห์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สมัยนี้มันไม่มี สมัยนี้มันเป็นอะไรที่รวดเร็ว ทันใจ ของทุกอย่างมันล้ำยุค แต่มันก็เป็นของที่อยู่ในโลกออนไลน์ ไม่ได้เอาออกมาทำกิจกรรมร่วมกัน มันก็ขาดเสน่ห์ตรงนี้ไปครับ
(หลาน)ก็ปลูกฝังนะครับ ให้เขาเล่นของเล่นด้วย แล้วก็เล่นโซเชียลฯด้วย ต้องทางสายกลาง ให้ผูกพันกับทั้ง 2 อย่าง ถ้าจะทิ้งเรื่องโซเชียลฯเลย มันก็ไม่ดีกับเด็กสมัยใหม่ แต่ส่วนมากถ้าผมไม่อยู่ผมจะไม่ค่อยให้เข้ามา(ส่วนจัดแสดงของเล่น)เท่าไหร่ เดี๋ยวถ้าอะไรพังแล้วโกรธไม่ลง (หัวเราะ)”
เมื่อถามถึงความนิยมในการตามสะสมของเล่นเก่าในบ้านเรา เขายอมรับว่า ช่วงไม่กี่ปีมานี้ ความนิยมในตลาดเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็แน่นอนว่า มูลค่าของสินค้าก็พุ่งสูงขึ้นตามกัน
“ถ้าจะเป็นสายของเล่นไทย ผมก็แนะนำไปกลุ่มในเฟซบุ๊ก “ขายของเล่นแถมขนม&ของสะสมในความทรงจำ oldschool retro& vintage collections” แล้วก็จะมี “ของเล่นในความทรงจำ☆คืนวันเก่าเล่าความหลัง☆กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว☆” 2 กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มใหญ่ มีคนอยู่ประมาณ 30,000 กว่าคน ในนั้นก็จะมีให้คนเอาของลงประมูล ลงขายได้
ตอนนี้เริ่มเยอะแล้วเหมือนกันนะ แต่ก่อนยังไม่เยอะเท่าไหร่ บอกตรงๆ ตั้งแต่ผมเริ่มเข้าวงการ แล้วผมได้ออกรายการที่มาถ่ายที่บ้าน จากที่ผมได้ทำเพจ “ปอ ยูโร่ ของเล่นในความทรงจำ” ขึ้นมาด้วย ตอนนี้คนกลับมาสะสมกันเยอะขึ้นมากเลย พอเขาเห็นเขาก็เหมือนผมในตอนนั้น ยังมีอยู่อีกเหรอ หาซื้อที่ไหน มันเป็นความอยากได้
มันก็ทำให้แต่ละคนที่ตอนนี้ 30 กว่า 40 กว่า ที่มีเงินกันแล้ว ไม่ได้มีภาระอะไรมากมาย สามารถซื้อได้ ก็มาประมูลแข่งกัน ช่วงนี้ก็เรียกว่าประมูลกันแรงเลยเหมือนกันของแต่ละอย่าง เมื่อ 6 ปีที่แล้วผมเข้ามาใหม่ๆ ผมคิดว่าตอนนั้นมันก็แพงแล้วนะ แต่ตอนนี้ผมว่าเหมือนแพงกว่าตอนนั้นเยอะเลย”
โดยเฉพาะช่วงการระบาดของโควิด-19 นั้น เป็นที่น่าสังเกตว่า ตลาดของเล่นของแถมคึกคักมากขึ้น และตัวเขาเองก็เพิ่งจะมาได้ของที่หามานานหลายชิ้นในช่วงนี้เช่นกัน
“มันแปลกอย่างนึงตั้งแต่ช่วงมีโควิด ผมได้ของดีๆ ของหลายอย่างที่คิดไม่ถึงว่าจะหาได้ ตั้งแต่ช่วงต้นปีมา มีของที่เข้ามา น่าจะ 5-6 อย่างได้ หาตั้งนาน 5-6 ปี ทำไมไม่เจอเลย อยู่ดีๆ ประดังเข้ามา ก็เลยคิดว่ามันคงเป็นเรื่องดวง
บางคนเขาบอกว่าของมันเลือกเจ้าของ แต่ก่อนผมก็ไม่เชื่อนะ แต่พอซักพักนึงก็เชื่อเหมือนกันคงเลือกจริงๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องเงินสำคัญที่สุด บางครั้งก็ต้องยอมทุ่มเพื่อที่จะให้ได้ เพราะถ้าไม่ทุ่มมันก็ไม่ได้
เรื่องเศรษฐกิจก็มีผลนะ ของบางอย่างที่ผมคิดว่าไม่ได้น่าก็มาได้ บางอย่างก็เป็นของจากคนที่ผมเคยจีบไว้นานแล้ว ผมรู้ว่าคนนี้มีอันนี้อยู่ก็จีบไว้เลย พี่จะขายเมื่อไหร่บอกเลยนะ เขาก็ทักมา แล้วเราก็คุยตกลงราคากัน โอเคกัน อาจจะเป็นส่วนนึงเพราะโควิดนี่แหละ ถ้าไม่เดือดร้อนเขาคงไม่ขาย”
และเนื่องจากของแต่ละชิ้นที่สะสม ส่วนใหญ่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ย่อมมีสภาพสึกหรอไปตามกาลเวลา จึงต้องมีวิธีการเก็บรักษาที่เหมาะสม เพื่อยืดอายุให้อยู่ได้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“ผมไม่มีอะไรเลยตั้งแต่เด็ก แม่เอาไปบริจาคหมด ส่วนใหญ่ก็จะหายไปตามกาลเวลา เหมือนกับบางคน หายไปตอนย้ายบ้าน บางคนแม่เอาไปชั่งกิโล บางคนน้ำท่วม ปัจจัยพวกนี้จะทำให้ของพวกนี้หายไป
ขั้นแรกเลยก็อาจจะต้องยุ่งยาก มีค่าใช้จ่ายเยอะขึ้นนิดนึง ถ้าจะเอาแบบรักษาให้ดีเลย ต้องทำตู้กระจกปิดกันฝุ่น กันอากาศได้ ควรเป็นห้องแอร์ เปิดแอร์ซักวันละ 2 ชั่วโมงช่วงกลางวัน วางผงกันชื้นที่เป็นห่อเล็กๆ ไว้ในตู้ พยายามอย่าให้โดยแสงแดด หลักๆ ก็ประมาณนี้ครับ พยายามอย่าให้อากาศร้อนดีที่สุด ไม่งั้นพวกที่มันเป็นยางจะละลาย
(ขนม) มันเสียไปนานแล้ว บางอันมันก็สลายเป็นผงเลยนะ จากที่เคยเป็นก้อนๆ แต่บางอันก็ยังอยู่นะ แปลกเหมือนกัน บางอันก็ยังอยู่เป็นก้อนเหมือนเดิมเลย แค่กินไม่ได้แล้วแค่นั้นเอง”
“เราไม่ได้บ้า เราแค่ชอบไม่เหมือนกับคนอื่น”
“เมื่อก่อนตอนเก็บสะสมใหม่ๆ เจอคำพูดแบบนี้บ่อยมาก เพื่อนบางคนก็บอกว่า ‘อะไรเนี่ยว่างมากเหรอ’ แล้วแต่เขาจะพูด เราไม่ได้สนใจตรงนั้น เราชอบ พวกนักสะสมเขาพูดคำเดียวกันเลย คนส่วนใหญ่จะคิดว่าเราบ้า แต่จริงๆ แล้วเราไม่ได้บ้า เราแค่ชอบสิ่งที่ไม่เหมือนกับคนอื่นแค่นั้นเอง”
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้บรรดานักสะสมของเล่นบางคนต้องเสียอารมณ์ เนื่องด้วยเจอคำพูดจากคนนอกที่ว่า “ไร้สาระ” “ไม่รู้จักโต” “เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า” และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งปอเองก็เป็นอีก 1 คนที่เจอคำพูดเหล่านั้นเข้าหู แต่เขาเลือกที่จะไม่ใส่ใจ เพราะมองว่าเป็นความชอบส่วนตัว
อีกทั้งยุคสมัยนี้ ของเหล่านี้มีมูลค่าสูงมาก จากที่เห็นกันตามสื่อหลายต่อหลายครั้ง ที่บางชิ้นทำเงินให้เจ้าของถึงหลายล้านก็มีมาแล้ว!!
“คำที่ว่าโตแล้วยังทำอะไรไร้สาระ ยังเก็บของเล่น ยังบ้าการ์ตูนอยู่ ผมว่าคำนี้มันใช้ไม่ได้แล้วนะ รู้มั้ยครับว่าพวกการ์ดการ์ตูน ของเล่นเก่าๆ ราคามันขนาดไหน ผมคิดว่าคนที่ดูถูกอยู่เขาคงตามโลกไม่ทัน ไปโทษเขาไม่ได้หรอก เขาคงไม่รู้จริงๆ ว่ามันมีราคา มันทำเงินได้
ทุกวันนี้มันกลายเป็นการลงทุนไปแล้ว อย่างที่เราจะเห็นข่าวว่าการ์ดราคาเป็นสิบล้าน ของพวกนี้มันก็เหมือนกับพระเครื่อง เหมือนกับที่ดินเหมือนกันนะถ้าเปรียบเทียบ สมมติวันนี้เราขายไปหมื่นนึง วันนึงเราอยากได้คืนขึ้นมา เราก็จะไม่ได้ซื้อในราคาหมื่นนึงนะ เราอาจจะได้ซื้อหลายๆ หมื่นหรืออาจจะเป็นแสนเลย
ช่วงนี้กระแส retro มา พวกของเล่นเก่าทั้งหลาย อะไรเก่าทั้งหลายมันไม่ใช่ของสำหรับคนเนิร์ด มันเป็นของของคนที่ชอบอดีต ชอบตอนเด็กๆ ตอนที่เขาโตมา เขาประสบความสำเร็จในชีวิต มีเงินมีทอง เขาก็อยากจะกลับมาเก็บมากกว่า มันไม่ใช่ของไร้สาระ ของน่าดูถูกอีกต่อไปแล้วครับ”
นอกจากนี้ เมื่อถามถึงเรื่องที่หลายบ้านมักจะเจอ ก็คือการที่แฟนไม่เข้าใจ หรือบางครั้งก็ต้องมีการปิดบังราคาที่แท้จริงไม่ให้รู้ ซึ่งปอก็ได้ผ่านจุดนั้นมาแล้วเช่นกัน แต่เขาเลือกที่จะทำความเข้าใจ ซึ่งก็โชคดีที่ครอบครัวไม่มีปัญหาในจุดนี้
“เอาจริงๆ ตอนใหม่ๆ เคยโกหก แต่หลังๆ โกหกไม่ได้ พูดกันตรงๆ ซักวันผมก็ต้องทำราคาติดไว้ที่ของแต่ละอย่าง เราก็ไม่รู้เกิดเราเป็นอะไรไปขึ้นมา คนที่อยู่ข้างหลังเอาไปขายไม่ถูกอีก คนที่มีของเยอะ ผมคิดว่าควรจะต้องทำนะ
(แฟนบ่นไหม?) ก็มีนะ เป็นเรื่องปกติ แต่ผมก็ไม่ได้อะไรก็ปล่อยเขาบ่น (หัวเราะ) จนเขาเลิกบ่นไปเอง เขาก็คงคิดว่าอย่างน้อยเราก็ไม่ได้เอาเงินไปเที่ยวไปอะไร พูดกันตรงๆ เราต้องประเมินตัวเองก่อนว่าเรามีงบกับการซื้อของเล่นพวกนี้ขนาดไหน ถ้าเรางบน้อยแต่เราไปโหมซื้อเยอะๆ มันก็ไม่แปลกที่แฟนจะโกรธ
แม้แต่ตัวผมเอง เอาจริงผมก็ไม่ได้มีงบเยอะอะไรขนาดนั้น แต่เราก็ไม่ได้ไปเดือดร้อนใคร เราก็พยายามพูดให้แฟนเข้าใจว่า มันเป็นของที่มีมูลค่านะ อีกหน่อยมันก็จะมีราคาขึ้นไปๆ มันเป็นของที่หาไม่ได้อีกแล้ว เราไม่ได้เอาเงินไปนอกใจเขา ไม่ได้ไปเที่ยวเตร่ มันก็เหมือนเอาเงินไปฝากธนาคารนั่นแหละ วันไหนเดือดร้อนจริงๆ อยากจะขายก็ขายเอาเงินมาใช้ได้”
และแม้จะเป็นของที่ทั้งรักทั้งหวงขนาดไหน แต่ในการสะสมของเล่นของแถม ก็มีทั้ง ข้อดีและข้อเสีย
“ทุกอย่างมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย การสะสมของเล่น มันก็มีข้อดีเหมือนกันนะ อย่างของผมที่ได้แน่ๆ คือความสุขในอดีต มันทำให้เรามีความสุข ทุกครั้งที่ของมาส่งที่บ้าน ยิ่งชิ้นที่อยากได้มากๆ เปิดมาดูปุ๊บ ฟินเลย (หัวเราะ) ภาพในอดีตกลับมา กลับมาบ้านได้มาดูก็หายเหนื่อย ได้มีเพื่อนเพิ่ม ได้มีกิจกรรมร่วมกับเพื่อนในวงการ มันก็ทำให้ผมได้เป็นที่รู้จักของคนเยอะขึ้น
ซื้อของพวกนี้เอาจริงๆ ถ้าเราจะขายมันก็ขายได้ ก็ไม่น่าจะขาดทุน แต่ก็คงไม่ขาย เก็บไว้ดูนี่แหละ ผมจะซื้อเก็บอย่างเดียว ผมแทบจะไม่มีขายเลย ที่ขายก็อาจจะแบ่งให้เพื่อนๆ ตัวที่มีซ้ำ แต่ผมไม่ค่อยมีอะไรซ้ำเท่าไหร่ก็เลยไม่ค่อยได้ขาย บางทีมีเงินก็ไม่รู้จะไปซื้อที่ไหนด้วย หาซื้อก็ไม่ได้ คนที่เขามี บางทีก็ไม่ยอมขายให้ ก็เลยกลายเป็นความรู้สึกที่ไม่ขายดีกว่า แล้วผมก็ชอบกลับมาดู กลับมาบ้านแล้วก็มาดู ยืนเปิดไฟดูของเล่น มันก็ช่วยทำให้ทีความสุข คลายเครียดได้ด้วย
ข้อเสียผมคิดว่า เรื่องเงิน บางทีเราแทนที่จะเอาเงินไปทำอย่างอื่นก็มาลงกับของเล่นหมด แต่ก็อย่างว่า พวกนักสะสมหลายๆ คนเขาคงคิดเหมือนผม เขาอยากมีของเล่นมากกว่า (หัวเราะ) มันก็เลยเป็นข้อเสีย อย่างที่บอกบางคนควบคุมไม่ได้ กลายเป็นหนี้เป็นสินก็มี ต้องไปยืมเงินใครเขามาเก็บมาสะสม อันนี้ก็ไม่ดี เอาให้มันพอที่เราไหวดีกว่าครับ”
เมื่อเต็มอิ่มไปด้วยบรรยากาศของความหลังกันไปแล้ว สุดท้าย ในฐานะรุ่นพี่ในวงการ ก็ได้ฝากถึงเหล่านักสะสมหน้าใหม่ไว้ว่า อยากให้เก็บด้วยความสนุก ไม่ใช่เก็บแล้วเครียดกว่าเดิม ควรค่อยๆ เก็บอย่างใจเย็น เพื่อที่จะไม่ต้องมานั่งเสียดายทีหลังกับราคาที่จ่ายไป
“สำหรับคนที่สะสมใหม่นะครับ ถ้าจะแนะนำก็ต้องหาตัวตนให้พบก่อนว่าเราชอบแบบไหน แล้วเราก็ค่อยไปโฟกัสในไลน์นั้นๆ ที่เราชอบ ของเล่นเก่า-ใหม่ แนวไทย แนวญี่ปุ่น ยุคไหน บางคนอาจจะเน้นไปตรงที่ว่าของที่เราเกิดทัน เคยมี เคยเล่น บางคนเก็บในยุคที่เกิดไม่ทันด้วย อย่างของผมก็หาตัวเองไม่เจอเหมือนกัน สะสมไปสะสมมาซักพัก ผมก็มาที่สายของแถมขนมไปเลย อะไรแบบนี้
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ให้ดูงบประมาณ ดูเงินเก็บที่เรามี ค่อยๆ เก็บ เพราะของพวกนี้จริงๆ แล้วไม่ต้องไปรีบมาก อย่างผมประสบการณ์ตรง รีบมาก รีบซื้อจนบางทีมานั่งเสียดายทีหลัง ทำไมต้องไปซื้อแพงขนาดนั้น อย่างผมบอกตรงๆ ผมพลาดหลายอย่าง ของบางอย่างไม่ควรถึงพัน ผมก็ไปซื้อในราคาที่มันถึงพัน พอมาเห็นเขาซื้อราคาไม่กี่ร้อยตอนหลังก็มานั่งเสียดาย
ของพวกนี้ผมว่ามันมีมาเรื่อยๆ บางทีเราไม่ต้องไปรีบมาก โดยเฉพาะพวกของแถมรองเท้านักเรียน ผมว่ามันหาง่ายที่สุดแล้ว เห็นมีมาบ่อย ราคาไม่แพง แต่ถ้าเป็นพวกของแถมขนมพวกยูโร่หรือของโอเดงย่า กูลิโกะ แบรนด์ดังๆ มันก็อาจจะแพงหน่อยเพราะหายาก โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นพวกกล่องหรือพวกการ์ด อะไรพวกนี้มันก็แพงอยู่ครับ ค่อยๆ เก็บไปครับ เดี๋ยวมันก็ครบเอง อย่าไปหักโหม เป็นหนี้เป็นสินมันก็ไม่ดี อย่าไปเครียดกับมันมากครับ”
View this post on Instagram
...ขอพื้นที่เล็กๆ ให้ยัง “เป็นเด็ก” อยู่ได้ไหม?...
>>> https://t.co/hRhnDmdwfy
.
“รู้ไหมว่าพวกการ์ดการ์ตูน-ของเล่นเก่าๆ ราคาขนาดไหน ทุกวันนี้มันกลายเป็นการลงทุนไปแล้ว ราคาเป็น 10 ล้าน มันไม่ใช่ของน่าดูถูกอีกต่อไปแล้วครับ”
.#ขายของเล่นแถมขนม #ของสะสมในความทรงจำ #ปอยูโร่ #ของเล่น pic.twitter.com/p8LyWmPwEU— livestyle.official (@livestyletweet) October 17, 2021
สัมภาษณ์: ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง: กีรติ เอี่ยมโสภณ
คลิป: อิสสริยา อาชวานันทกุล
ภาพเคลื่อนไหว: อิสสริยา อาชวานันทกุล, กีรติ เอี่ยมโสภณ
ภาพ: ปัญญพัฒน์ เข็มราช
ขอบคุณภาพเพิ่มเติม: แฟนเพจ “ปอ ยูโร่ ของเล่นในความทรงจำ”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **