เขาคือเซียนพระวัย 11 ขวบ ผู้พลิก “ความชอบ” ให้เป็น “หนทางหากิน” แห่งวงการพระเครื่อง ชำแหละทุกเทคนิคการขาย-เช่าแบบครบวงจร พร้อมผ่าดราม่าที่ถูกตั้งคำถามว่าเป็น “เซียนพระเก๊”
** สวมบทบาทพ่อค้า-การตลาดต้องเข้าให้ถึง **
“ถ้าพระของปลอม ตัวหนังสือมันจะตื้นเบลอ ของแท้จะคมชัดกว่า มันมีวิธีการดูเช่น ดูตำหนิ ความคม ดูหูของเหรียญ ดูขอบเหรียญประมาณนี้ครับ ขอบตัดของพระทุกองค์ ถ้าเป็นพระปั๊ม ต้องมีตัวตัด พระเก๊ต้องดูพิมพ์ว่าถูกต้องไหม”
น้องปิ๊ง-กรวิชญ์ จงใจมั่น วัย 11 ปี เซียนพระเด็กชาวเพชรบูรณ์ อธิบายการดูอย่างกูรูผ่านปลายสาย หลังเป็นข่าวโด่งดังชั่วข้ามคืนจากการให้สัมภาษณ์สื่อว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพระเครื่องที่มีอายุน้อยระดับต้นๆ ของประเทศ เพราะเริ่มเข้าสู่วงการตั้งแต่อายุได้เพียง 10 ขวบ
เมื่อลองขอให้เผยเทคนิคการเฟ้นหาพระองค์คุณภาพ ก่อนเอามาปล่อยให้เช่า น้องปิ๊งจึงช่วยให้คำตอบว่า ไปเลือกพระเครื่องเองที่ตลาดนัดใกล้บ้าน โดยจะดูว่าเป็น “พระแท้” หรือ “พระเก๊” ด้วยการเช็กรอบๆ องค์พระอย่างละเอียด และดูว่าเป็นที่ต้องการในตลาดพระเครื่องไหม เมื่อมั่นใจองค์รวมต่างๆ ว่าสามารถขายได้ ก็จะซื้อและนำไปปล่อยให้เช่าต่อทันที
“ส่วนมากที่ปล่อยเช่าจะเน้นเป็นพระเครื่อง ราคาที่ผมปล่อยเช่าจะอยู่หลักร้อย และพันนิดๆ อย่างที่เคยปล่อยเช่าสูงสุดอยู่ที่ 2,000 บาท ราคาถูกที่สุดที่ปล่อยให้เช่าจะอยู่ที่ 100 บาท ผู้ที่เช่าพระกับผมมีทั้งในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์และต่างจังหวัด ซึ่งคนที่ช่วยในเรื่องนี้ก็จะเป็นคุณแม่และพี่สาวที่คอยพาไปส่งของบ้าง ไปส่งพัสดุบ้าง”
เซียนพระเครื่องคนนี้ยังบอกอีกว่า เช่าพระเครื่องสูงสุดอยู่ที่ 4-5 องค์ต่อวันเท่านั้น ถ้าชื่นชอบองค์ไหนก็จะเก็บไว้ ส่วนองค์อื่นๆ จะทยอยโพสต์ขายตามกลุ่มพระเครื่องและหน้า facebook ของตัวเอง หรือไลฟ์สดขายไปด้วย
“นอกจากการไลฟ์สด โพสต์ขายใน facebook ของตัวเองและในกลุ่มของคนเล่นพระเครื่อง ก็จะมีขายตามตลาดนัดบ้าง อย่างการนัดเอาพระไปให้คนที่เขาเล่นพระดู ถ้าเขาพอใจเขาก็จะซื้อ และในการปล่อยเช่าพระแต่ละองค์ผมจะตีราคาเอง แต่จะอิงราคาตามตลาดที่เขาเล่นกัน
สมมติว่าผมซื้อพระสมเด็จมาองค์หนึ่ง เขาเล่นกันแค่ 200-300 บาท ผมก็ขาย 200-300 ประมาณนี้แหละครับ ไม่สูงเกินกว่านี้ ถ้าถามผมว่าจะเลือกซื้อพระยังไง ผมแนะนำให้เป็นงานประกันแท้ ไม่ต้องมาซื้อกับผมก็ได้ ให้ซื้อที่เขาขายรับประกันว่าเป็นของแท้ให้ เพราะถ้าเจอของเก๊ก็จะได้ตังค์คืน”
** ไลฟ์สดจนคอแห้ง กว่าจะมีคนเชื่อถือ **
ในช่วงแรก ที่ปิ๊งก้าวเข้ามาในวงการนี้ น้องยอมรับว่ายังไม่มีความรู้เรื่องพระเครื่องดีเท่าที่ควร และยังแยก “พระแท้” กับ “พระเก๊” ไม่ออก จนทำให้ถูกหลอกหลายต่อหลายครั้ง จนเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้หันมาสนใจศึกษาและเรียนรู้อย่างจริงจัง
พร้อมทั้งได้รับความช่วยเหลือจากคุณลุงที่สอนและคอยแนะนำ ทำให้น้องปิ๊งมีกำลังใจที่จะผลักตัวเองเป็น “เซียนพระ” ที่มีฝีมือคนหนึ่งในระดับประเทศอย่างทุกวันนี้
“ผมศรัทธาหลวงพ่อทบ ที่วังชมภู จ.เพชรบูรณ์ เลยเริ่มเรียนรู้จากลุงข้างบ้านที่อยู่ติดกัน เพราะลุงมีความศรัทธาและเป็นเซียนพระสายหลวงพ่อทบเหมือนกัน ก็เลยสอนผม ส่วนมากจะเป็นลุงที่สอนวิธีแยกพระแท้พระปลอม และศึกษาเองจาก youtube
ช่วงแรกๆ ดูยาก เพราะยังจับทางไม่ถูกไม่รู้ว่าดูยังไง พอศึกษาจริงจังก็ดูง่ายขึ้น แต่ผมยังดูไม่เป็นอยู่หลายรุ่น ส่วนมากที่ดูออกว่าของแท้หรือของปลอม จะเป็นสายหลวงพ่อทบ แต่บางองค์ที่เป็นพระเก๊ทำเหมือนของแท้มากก็ต้องดูดีๆ เพราะผมก็ยังโดนของปลอมอยู่เหมือนกัน ยังต้องใช้เวลาเรียนรู้ต่อไปอีกเยอะ”
นอกจากนี้ เซียนพระเด็กรายนี้ยังเล่าว่า ช่วงแรกที่เริ่มเข้าวงการคิดว่าจะง่าย แต่พอมาไลฟ์สดขายจริงกลับยากมาก ช่วงที่ยังไม่มีคนรู้จักได้ไลฟ์สดขายอยู่ 1 ชั่วโมงเต็ม มีคนดู 10-15 คน พูดจนเจ็บคอก็ไม่มีใครเช่าพระสักคน แต่เมื่อเทียบกับตอนนี้ที่เป็นที่รู้จักแล้ว มียอดคนดูเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และมีคนสนใจเช่าพระมากขึ้น
ครั้งแรกที่ไลฟ์สดและปล่อยเช่าได้สำเร็จคือ “ลูกอมชานหมากหลวงปู่ขุ้ย” ในราคา 220 บาท แต่หลังจากนั้นขายไม่ได้อีกเลย จนมีคนเข้าไปโพสต์รูปในกลุ่มพระเครื่องให้ช่วยดูว่า เป็นของแท้หรือปลอม เซียนพระคนนี้จึงเข้าไปตอบ คนเลยรู้ว่าอายุยังน้อยแต่มีความรู้เรื่องพระ จนเริ่มมีการบอกและแชร์ต่อๆ กัน
“มีแอดมินกลุ่มพระเครื่องติดต่อมาชมว่าเก่งมาก และเขาแนะนำวิธีดูพระด้วยว่าองค์นี้เก๊นะ ไม่ควรเล่นนะ แล้วดันผมให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มมากขึ้น ดีใจมากที่เขาเรียกผมว่าอาจารย์
เพราะผมอายุแค่ 11 ปีเอง แต่เขาเป็นระดับรุ่นเซียนที่มาชม อันไหนที่ผมไม่รู้ ไม่มั่นใจว่าของจริงหรือของปลอม ผมก็จะถามแอดมินคนนี้แหละครับ เขาให้คำแนะนำดีมากและคอยผลักดันผมอยู่”
** ไม่สนคำคนด่า ขอเสิร์ฟความต้องการให้ตัวเอง **
นอกจากนี้ กูรูพระเครื่องยังได้เล่าถึงความประทับใจว่า ดีใจมากที่ได้ “งาแกะหลวงพ่อเดิม” มา เพราะเป็นงาน handmade ที่หายากมาก ถือว่าเป็นของดีที่คุณยายเก็บสระสมไว้ และได้ยกให้น้องปิ๊งในเวลาต่อมา
แต่ด้วยความที่ไม่ได้ศึกษาว่า ในตลาดพระเครื่องตอนนั้นให้เช่ากันในราคาเท่าไหร่ จึงปล่อยเช่าบูชาไปในราคา 2,000 บาท แต่เมื่อมารู้ที่หลังว่าเขาเล่นราคาถึงหลักหมื่น ทำให้เซียนพระเด็กเอ่ยปากว่า จะจำเป็นบทเรียนอย่างไม่มีวันลืมเลย
เมื่อถามถึงกระแสฮือฮาที่ทำให้คนรู้จักเขาเพิ่มขึ้น และการแสดงความคิดเห็นทั้งหมดเป็นไปในทิศทางที่ดี เซียนพระเด็กขอบคุณทุกคนที่ชื่นชมในตัวเขา
ถึงแม้จะมีคนโจมตีว่าเป็น “เซียนพระเก๊” ก็ไม่เป็นไร เพราะจะเก็บคำดูถูกไว้เป็นแรงผลักดันตัวเอง โดยได้มองภาพในอนาคตว่าอยากให้คนรู้จักในนามของเซียนพระเครื่องอันดับต้นๆ ของเมืองไทย พร้อมชื่อในวงการคือ “ปิ๊ง เพชรบูรณ์”
“มีคนไม่ยอมรับไม่เป็นไร ตอนแรกก็มีคนด่าผมด้วยว่า เซียนพระเก๊หรือเปล่า ผมเสียใจ แต่ก็ไม่เป็นไร เหมือนเป็นแรงผลักดันให้ผมทำต่อไป เพราะยังมีคนที่ให้กำลังใจอีกเยอะอยู่เหมือนกัน”
แม้จะเป็นที่ชื่นชมของคนส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่วายมีกระแสดราม่าย่อมๆ เพราะมีบางคนออกมาตั้งคำถามกับวงการพระเครื่องว่า “เป็นอาชีพที่หากินกับศรัทธาของคนหรือเปล่า” ซึ่งหนูน้อยคนนี้ได้ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่ามีส่วนที่ใช่ แต่หลักๆ เกิดจากความชอบล้วนๆ
“ก็ใช่ครับ แต่ที่เล่นเพราะศรัทธาด้วย ไม่ได้หวังซื้อขายกันมากมาย ถ้ามาพูดกับผม ผมก็ไม่สนใจ เพราะเรื่องแบบนี้มันแล้วแต่ความชอบคนด้วย และไม่ใช่ว่าใครที่จะเล่นได้หรือดูเป็นจริงๆ มันเล่นยาก”
สัมภาษณ์: ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง: จิราพร ภาระพงษ์
ขอบคุณภาพ: เฟซบุ๊ก “ปิ๊ง เพชรบูรณ์”, sanook.com และรายการ “ปากท้องต้องรู้”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **