ชาวบ้านรู้ Google map รู้ แต่ตำรวจไม่รู้ จับโป๊ะระหว่างสิ่งเห็น vs สิ่งที่ตำรวจแถลง บ่อนระยองไม่มี มีแต่สถานที่ลักลอบเล่นการพนันเท่านั้น คาดยิ่งปิดตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้นอีก กูรูซัดบ่อนไทยเปิดได้ เพราะเบื้องหลังคือตำรวจ!!?
โซเชียลฯ แฉ กล้องวงจรปิดหาย-ไม่มีบ่อน?
กลายเป็นเรื่องที่สังคมกำลังจับตามอง หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดจากบ่อนการพนันใน จ.ระยอง ส่งให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
โดย ชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการ จ.ระยอง แถลงข่าวพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 24-26 ธ.ค.มีผู้ติดเชื้อจำนวน 85 คน มีต้นตอมาจากบ่อนการพนันแห่งหนึ่ง ขณะเดียวกัน ตำรวจระยองได้ออกมายืนยันว่า ในพื้นที่ “บ่อน” ไม่มี มีแต่ “สถานที่ลักลอบเล่นพนัน”
อย่างไรก็ดี ทาง พ.ต.อ.พรัชต์ศรุต วัชรธนโยธิน ผกก.สภ.เมืองระยอง นำกำลังตำรวจเดินทางเข้าไปตรวจสอบสถานที่ที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นบ่อนการพนัน ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยจิตรพันธ์ ข้าง บขส.เก่า ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า อาคารดังกล่าวมีลักษณะคล้ายโกดังขนาดใหญ่ชั้นเดียว ภายในเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ไม่มีสิ่งของ และอุปกรณ์การพนันวางอยู่ มีเพียงแอร์ 2 ตัวติดตั้งไว้
นอกจากนี้ ยังมีการกั้นห้องขนาดกว้าง อีก 2 ห้อง แต่ไม่พบอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการพนันแต่อย่างใด
โดยหลังจากที่ตรวจสอบ ไม่พบว่าเป็นบ่อนพนัน คาดการณ์ว่า น่าจะเป็นโกดังเก็บสินค้ามากกว่า
แน่นอนว่า ทันทีที่มีการเปิดเผยภาพ และแชร์ข้อมูลทางโซเชียลฯ จนเกิด #บ่อนระยอง ในโลกทวิตเตอร์ สังคมต่างออกมาจับพิรุธอาคารดังกล่าว พร้อมเผยภาพใน Google map ว่า ก่อนหน้านี้ มีการติดกล้องวงจรปิดโดยรอบ
“Google map รู้ยันบ้านเจ้าของบ่อน แต่ ตร.บอกไม่มี๊ #บ่อนระยอง”
“ป้อมตำรวจอยู่ห่างแค่นี้”
“ตำรวจระยองทำงานไวเหมือนหอยทาก ต้องให้ติดโควิดอีกกี่คน ถึงจะเจอบ่อน #บ่อนระยอง #โควิดวันนี้ #โควิดระยอง #โควิด19 #Covid19”
ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีสถานที่ปักหมุดชัดเจนบน Google โดยในภาพจะเห็นว่า มีสถานที่ปักหมุดในชื่อ “บ่อนระยอง” และเมื่อ ลองพิมพ์หาดูใน Google Maps ก็เห็นว่ามันมีสถานที่นี้อยู่จริงๆ
ดูเหมือนความขัดแย้งที่ตำรวจชี้แจง และประชาชนจับผิด ออกมาเป็นหนังคนละม้วน ยังไม่มีบทสรุป โดยล่าสุดมีการเรียกร้องให้ตำรวจติดตามเจ้าของอาคารมาสอบสวน และตามหากล้องวงจรปิด ซึ่งจะสามารถยืนยันได้ว่าบริเวณดังกล่าวได้เปิดเป็นโกดังเก็บสินค้าจริงหรือไม่ อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างไร ทั้งๆ ที่สถานที่แหล่งอบายมุขเป็นแหล่งแพร่ระบาด
บ่อนระยอง ตำรวจคุม!!?
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทีมข่าว MGR Live จึงติดต่อไปยัง ผศ.ดร.รัตพงษ์ สอนสุภาพ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ และผู้เป็นเจ้าของงานวิจัยหลายฉบับ เกี่ยวกับศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ให้ช่วยวิเคราะห์ถึงประเด็นบ่อนใน จ.ระยอง ที่หลายคนสงสัย รวมทั้งภาพรวมที่สังคมมองว่า ตำรวจกับบ่อนเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน
โดยในฐานะผู้เชี่ยวชาญ มองเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องที่อยู่คู่กับสังคมไทยมานาน บ่อนมีอยู่ทุกที่ในประเทศ ธุรกิจพนันถ้าไม่มีคนในเครื่องแบบแอบให้การหนุนหลัง ก็ยากจะทำได้
“เนื่องจากว่าบ่อนเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ดังนั้น สิ่งที่มันอยู่ได้ ก็จะต้องลักลอบเปิด หรือไม่อาจจะมีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วน เขาอาจจะเห็นพ้อง หรืออาจจะอนุญาตในสิ่งที่จะไม่ใช่ตามกฎหมาย นั่นคือ สิ่งที่เป็นดำรงอยู่กับคดีของบ่อนในประเทศไทย
![[ผศ.ดร.รัตพงษ์ สอนสุภาพ]](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/563000013688007.JPEG)
แน่นอนว่า บ่อนการพนันแบบที่เป็นข่าว ไม่ว่าจะเป็นที่พระราม 3 ในช่วงก่อนหน้านี้ประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งระยอง มันเป็นคดีของคนเล่นการพนันแบบดั้งเดิม คือ หมายความว่าดูคนที่เล่นส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีอายุ
สืบเนื่องจากว่าบ่อนการพนันประเภทนี้ จะมีคนสูงอายุ หลากหลายวัย แต่จะเป็นผู้สูงอายุ คดีของบ่อนของการพนันที่เป็นแบบนี้ ในประเทศไทย ถ้าเส้นสายดี จะมีลักษณะมีเป็นที่เป็นทาง แต่ถ้าไม่มีเส้นสายมันก็จะไหล จะหมุน บ่อนจะวิ่งไปเรื่อยๆ ซึ่งลักษณะแบบนี้จะเป็นภาพรวมๆ ของประเทศไทยที่มีอยู่
ในแง่ของมูลค่า จะเห็นว่ามันจะมีมูลค่าที่มีการประเมินกัน ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ก็ประมาณแสนกว่าล้าน ซึ่งแน่นอนว่า สิ่งเหล่านี้มันเป็นธุรกิจผิดกฎหมาย มันเป็นธุรกิจสีเทา แต่ปัญหาคือ การตั้งคำถามว่าแล้วทำไมธุรกิจนี้ยังคงดำรงอยู่ในคดีของประเทศไทย หรือหลายๆ ประเทศก็อาจจะมีลักษณะคล้ายกันก็ดำรงอยู่ได้
นั่นหมายว่า 1. มันมีคนเล่น ต้องการเล่น 2. ความต้องการเล่นของคน มันทำให้มีการเล็ดลอด หรือว่าก็หาช่องทางในการเล่น บางครั้งก็ลักลอบเล่นเอง บางครั้งก็อาจจะมีการรู้เห็นเป็นใจในบางส่วน ก็จะเป็นภาพที่ปรากฏขึ้น ซึ่งเรื่องภาพเหล่านี้ ก็เป็นภาพที่สะท้อนการพนันในประเทศไทย คือ บางส่วนรัฐก็จำกัด ไม่ให้เล่น มี demand ที่เกิดขึ้น”
อีกประเด็นที่สังคมกำลังให้ความสนใจ คือ การปิดบังข้อมูลบ่อน จ.ระยอง ของเจ้าหน้าที่ที่อาจจะเป็นช่องโหว่ ทำให้ไม่รู้แหล่งการแพร่ระบาด ไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ ถึงเรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญคนเดิมมองว่า สิ่งที่เป็นธุรกิจสีเทาควบคุมได้ยากในการดูแล ยิ่งมีการปิดบัง ยิ่งมีโอกาสติดเชื้อโควิด-19
“โควิดมันก็เป็นพาหะ เป็นโรคที่ทุกคนจะได้รับผลกระทบกันทั่ว อย่างประเด็นเรื่องบ่อนการพนัน โดยส่วนใหญ่เท่าที่ผมทำวิจัยมาในช่วงหลายปี
คือ จริงๆ แล้ว โดยเฉพาะหน่วยงานในด้านการปกครองท้องถิ่น ไม่ว่าตำรวจหรือฝ่ายปกครอง คิดว่าเขาจะรู้ว่าบ่อนมีที่ไหนบ้าง
เพราะว่าอย่างตัวเลขที่ผมทำมา ผมก็ได้รับข้อมูลมาจากหลายๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของบ่อนเอง หรือว่าทางเจ้าหน้าที่รัฐเอง จะรู้ว่าจะมีที่ไหนบ้าง เป็นสิ่งที่ผมคิดว่า การที่ท่านรัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขพูด ผมก็เห็นชัดเจน รวมทั้งคดีของท่าน ผบ.ตร. มีคำสั่งย้าย นี่ก็เป็นตัวชี้อย่างหนึ่งว่า อย่างน้อยที่สุด ถ้าเป็นคนในพื้นที่ หมายถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ข้อมูลก็รู้อยู่แล้วว่า ใคร ที่ไหน
อะไรก็แล้วแต่ที่เป็นสีเทา สิ่งเหล่านั้นมันควบคุมได้ยาก ซึ่งแน่นอนว่าพอควบคุมได้ยาก คนก็จะลักลอบเล่น และผนวกกับการมีโควิด-19 มา มันเป็นส่วนหนึ่งที่จะกระทำให้การที่อยากดูแล ปกป้อง คุ้มครองผู้บริโภค ถ้ามองเชิงในหลักของมัน มันก็ไม่มี
ในเมื่อโอกาสในการติดเชื้อโควิด-19 มันมีโอกาสเป็นไปได้มาก ดังนั้น การพนันไม่ว่าสถานการณ์ใดก็แล้วแต่ ธุรกิจเทาๆ ไม่ว่าโลกจะมีสถานการณ์ใดก็แล้วแต่ ผู้เล่นหรือผู้บริโภคก็ยังเล่นอยู่ดี เหมือนเราเห็นภาพการแข่งขันฟุตบอล คนก็เล่นอยู่ดี ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปยังไง สถานการณ์เป็นแบบไหน นี่คือตัวอย่างของมัน”
แน่นอนว่า โควิดระบาดระลอกใหม่ กลับมาก่อความหวาดผวาและทำลายบรรยากาศในช่วงส่งท้ายปีอีกครั้ง
ด้าน ผศ.ดร.รัตพงษ์ ได้คาดการณ์ไว้ถึงเรื่องการพนันในประเทศ ยังต้องมีการถกเถียง หากยังไม่ถูกกฎหมาย และมีการลักลอบเล่น
“ผมคิดว่าแนวโน้มในอนาคตข้างหน้า ปัญหาการพนันกับสังคมไทย มันยังต้องถกเถียงกันอีกเยอะว่า สุดท้ายแล้วแนวทางที่มันจะเป็น ควรจะเป็นแบบไหน เพราะว่าถ้ายังเป็นลักษณะแบบนี้ มันก็ยังลักลอบเล่น เพราะว่าจะเห็น demand side หรือ supply side มันก็ยังอยู่ตลอด ว่ามันจะมีทั้งคนต้องการเล่น และยังมีบ่อนการพนันทุกจังหวัดอยู่เลย
ในความเห็นของผม ถ้าเป็นไปได้ คือ ไม่ควรจะเล่น และไม่ว่าจะเป็นช่วงที่มีโควิด-19 หรือไม่มีโควิด-19 ผมคิดว่าถ้าไม่จำเป็น หรือว่าพยายามที่จะเลี่ยงได้ ก็ไม่ควรจะเล่น
เพราะว่าการพนัน คือ มันเป็นความเสี่ยง และมีโอกาสที่จะเสียเงินเสียทองมีมากกว่าจะได้ ดังนั้น ยิ่งในช่วงโควิด-19 ผมคิดว่านักเล่นต้องระมัดระวัง คือ ผมคิดว่าโลกใบนี้ มันก็ยังมีอะไรอีกเยอะที่มนุษย์ต้องเผชิญ
ดังนั้น ในช่วงของโควิด-19 ผมคิดว่าเราจะต้องใช้คำว่าระยะห่าง มันจะเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว และการป้องกันตัวเอง ซึ่งการพนันผมคิดว่าถ้าเรายังรอดปลอดภัยจากโควิด เรายังมีเวลาที่จะสันทนาการกับมันในรูปแบบต่างๆ ได้อีกเยอะ ดังนั้น ผมคิดว่าต้องระมัดระวัง และผมคิดว่าถ้าเป็นไปได้ คือ เราไม่ควรจะเล่นมัน”
อย่างไรก็ดี ล่าสุด พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.ปภัชเดช เกตุพันธ์ ผบก.ภ.จ.ระยอง มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยให้ขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิม
ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **
