ถล่มยับ หลังเครือข่ายขัดข้อง ทำผู้บริโภคเดือดร้อนหนัก อดใช้สิทธิคนละครึ่ง ทนายชี้ช่องโหว่ ระบบโทรคมนาคมต้องแจ้งล่วงหน้า ปัดไร้ความรับผิดชอบ เผยต้องคืนเป็นเงินสดให้กับผู้บริโภคเท่านั้น!!?
ช่องโหว่ที่ไม่ควรพลาด “OTP” ขัดข้อง?
“ดีแทคเข้าใจถึงสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกค้า และขออภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมแสดงความรับผิดชอบด้วยการชดเชยมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 3,500 บาท ให้แก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว ทั้งในระบบเติมเงิน และระบบรายเดือน เช่น โบนัสเติมเงิน โทร.ฟรี เน็ตฟรี และส่วนลดเมื่อซื้อโทรศัพท์มือถือ โดยดีแทคจะติดต่อไปยังผู้ใช้บริการดีแทคที่ได้รับผลกระทบผ่านทางข้อความ SMS โดยเร็วที่สุด…”
ทำเอาสังคมเดือด หลังประชาชนส่วนใหญ่ที่ลงทะเบียนคนละครึ่ง เฟส 2 ไม่ได้ เนื่องจากระบบเครือข่ายของ Dtac ล่ม โดยต่อมา Dtac ได้ส่งหนังสือชี้แจง โดยระบุว่า ระบบบางส่วนของ Dtac ขัดข้อง ส่งให้การรับข้อความรหัส OTP การชำระเงิน เติมเงิน ไม่สามารถใช้บริการดังกล่าวได้
แน่นอนว่า ทันทีที่เหตุการณ์นี้ถูกแชร์ออกไป นำมาซึ่งคำวิพากษ์วิจารณ์ ถึงการทำงานของค่ายโทรคมนาคมนี้ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่แห่กันย้ายค่าย หาที่พึ่งพาใหม่ เพราะได้รับผลกระทบ เสียสิทธิที่ควรจะรับ
อย่างไรก็ดี ทีมข่าว MGR Live ได้ติดต่อไปยัง ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ช่วยสะท้อนถึงช่องโหว่ที่ไม่ควรพลาด ของทางค่ายโทรคมนาคมแห่งนี้ รวมทั้งมุมมองการเรียกร้องสิทธิทางกฎหมาย สำหรับผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อน
“เมื่อวานผมเป็นหนึ่งในลูกค้า Dtac ผมใช้มา 15 ปี เกิน 15 ปี แล้ว ผมใช้มาตลอด มีเติมเงิน เป็นรายเดือน และมีหลายเบอร์ด้วย มีหลายเบอร์ด้วย (ย้ำ น้ำเสียงเปลี่ยน ) ย้ำว่า มีหลายเบอร์ด้วยของ Dtac และปรากฏเมื่อวาน ผมก็ตื่นมาตั้งแต่ 6 โมงเช้า
ปกติไม่เคยตื่นเช้า ตื่นประมาณ 7-8 โมง ตื่นมาเพื่อลงทะเบียน ลงเสร็จปุ๊บผมต้องรีเฟรชทุกๆ 10 นาที เพื่อรอ OTP ผมทำจน 8 โมง 20 กว่าๆ จนเว็บมันเข้าไม่ได้ แล้วผมก็นั่งดูอยู่อย่างนั้น 2 ชม.กว่า จนกระทั่งผมได้ SMS OTP มาตอน 8 โมง 26 นาที มาพร้อมกัน 3 ตัว แต่มันเต็มแล้ว”
ด้านทนายรณณรงค์ เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ในฐานะลูกค้า กว่า 15 ปี ให้คำตอบกับเรื่องนี้ว่า Dtac ควรจ่ายเงินทดแทนส่วนที่ผู้บริโภคเสียสิทธิไปแทนรัฐ
โดย ทาง Dtac ได้ทำหนังสือชี้แจงอีกครั้งว่า เข้าใจถึงสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกค้า พร้อมแสดงความรับผิดชอบด้วยการชดเชยมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 3,500 บาท ให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเงินตรงนี้สามารถนำไปใช้กับสินค้าทางเครือข่ายเท่านั้น
“มาตรการในการเยียวยา เขาบอกว่าเขาจะเยียวยาไม่เกิน 3,500 บาท ซึ่งผมได้ข้อยุติมาเมื่อช่วงเช้า เขาบอกว่า เขาจะให้เป็นค่าบริการ หรือซื้อสินค้ากับเขา แล้วจะได้ส่วนลด 3,500 บาท ผมมองว่าผมไม่โอเคมาก เพราะว่าผมตั้งใจที่จะใช้คนละครึ่งของรัฐบาลในการซื้อสินค้าบริโภค ผมไม่ได้เอาไปซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือว่าเอาไปจ่ายค่าโทรศัพท์
ผมจะเอาไปซื้อของกิน การที่จะเอามาคืนเป็นส่วนลดในบริการในเครือหรือสินค้า ผมว่ามันไม่ใช่ ผมต้องการเงินสด ถ้าคุณจะเยียวยา จะชดใช้ ก็ผมขาดโอกาสในการลงทะเบียน เพราะผมใช้บริการค่ายคุณ
แฟนผมใช้ AIS ของ True ได้ SMS แล้ว แต่ผมไม่ได้ เพราะฉะนั้นในการที่จะบอกว่าจะเยียวยา 3,500 โดยจะให้เป็นส่วนลด คนที่จะรู้สึกว่ามันโอเค คือ คนที่มันมีเงินเก็บ คนที่มีเงินเก็บหรือมีเงินมากพอจะไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ๆ
แต่คนส่วนใหญ่ของประเทศไทย ไม่ใช่เป็นแบบนั้น เขาอยากจะได้เงินตรงนี้ไปซื้ออาหาร ซึ่งผมก็อยากซื้ออาหาร ถ้าผมบอกว่าผมโอเค มันก็จะกลายเป็นว่าประชาชนอีกหลายคนที่เขาจะเอาไปซื้ออาหาร เขาไม่มีที่พึ่งเลย แล้วเขาจะไม่มีกระบอกเสียงในการแสดงออกเลย
หลายๆ คนที่ inbox มาหาผมบอกว่า ตั้งใจจะเอาเงิน 3,500 บาท ของรัฐบาลไว้เฉลี่ยในการซื้ออาหาร ทุกคนมุ่งไปที่อาหาร ทุกคนไม่มีใครมุ่งว่าจะเอาไปซื้อของที่เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เลย ผมรู้สึกว่าถ้า Dtac จะชดใช้ จะเยียวยา ถ้าใครที่รู้สึกว่าเขาให้เป็นส่วนลด 3,500 ให้เป็นค่าบริการรายเดือน 3,500 แล้วเขาเอาก็เป็นสิทธิของเขา
แต่ใครที่เห็นว่าเงินก้อนนี้ต้องเอามาใช้ซื้ออาหาร ซื้อของกิน Dtac ควรจ่ายเงินแทนรัฐบาล เพราะเขาไม่ได้ OTP เพราะคุณ เขาไปต่อแถวทางบ้าน เพื่อลงทะเบียนในเว็บไซต์ตามขั้นตอนมาตามเวลา แต่เขาพลาด เพราะคุณให้บริการเขาไม่ได้ คุณต้องรับผิดชอบ นี่คือสิ่งที่ผมเรียกร้อง”
น้ำเสียงที่หนักแน่น แสดงถึงความไม่พอใจ จากการรับผลกระทบ เขายังสะท้อนถึงช่องโหว่การทำงานของระบบโทรคมนาคม
“ระบบโทรคมนาคม เป็นระบบปัจจัยพื้นฐาน ที่รัฐมีหน้าที่ต้องให้บริการแก่ประชาชน อย่างทั่วถึงและตลอดเวลา เราไม่เคยเห็นรถไฟหยุดวิ่ง เราไม่เคยเห็นรถเมล์หยุดวิ่ง เพราะฉะนั้นโทรคมนาคมระบบมือถือ ก็เหมือนกัน ไม่ว่าคนจะใช้งานมากน้อยเพียงใด มันต้องใช้ได้
ถ้ามันใช้ไม่ได้ คุณต้องแจ้งล่วงหน้า ประปาจะไม่ไหล เขายังแจ้งล้วงหน้า ถ้ามือถือจะใช้ OTP ไม่ได้ แจ้งล่วงหน้า
วันที่ 14 วันที่ 15 ผมจะได้ย้ายค่าย นี่คุณไม่แจ้งผมล่วงหน้า เพราะคุณจะล่ม เมื่อคุณไม่แจ้งผมขาดสิทธิ ผมเสียหาย คุณต้องชดใช้ให้ผม ระบบสัมปทาน ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของรัฐจะหยุดให้บริการด้วยเหตุผลว่ามันขัดข้องทางเทคนิคไม่ได้
ถ้าจะหยุดต้องแจ้งล่วงหน้า ไม่งั้นกลายเป็นว่าประชาชนไม่มีสิทธิโต้แย้งเลย เวลาที่ระบบสาธารณูปโภคมีปัญหา ผมว่าไม่ถูกต้อง ยิ่งที่ กสทช. ออกมาพูดว่าทำอะไรไม่ได้เลย ผมว่ายิ่งไม่ถูกต้อง คุณเป็นคนที่ดุแล เป็นหน่วยงานที่ทำการกำกับการดูแลการทำงานของผู้ให้บริการ คุณยิ่งต้องรับผิดชอบ”
ลุยฟ้องร้อง ค่ายมือถือดัง!!
“ระหว่างตัวผู้บริโภคกับตัวผู้ให้บริการ มันสามารถฟ้องเรื่องของการผิดสัญญา ผิดเงื่อนไข ละเมิดสิทธิผู้บริโภคได้ กับ กสทช. ที่ปล่อยปละละเลย ไม่กำกับดูแล ไม่มีบทลงโทษ เราก็สามารถทำเรื่องฟ้องไปทางคดีปกครอง เพื่อให้ลงโทษเอาผิด กสทช. เพื่อสั่งให้ กสทช. เอาปิด Dtac ได้ คดีจะแบ่งเป็น 2 ส่วนครับ”
เมื่อถามถึงประเด็นหลายคนสงสัยว่า การลงทะเบียนคนละครึ่งไม่สำเร็จ ในแง่ทางกฎหมายสามารถเอาผิดได้อย่างไรบ้างนั้น ทางทนายคนเดิม และเป็นหนึ่งคนที่ออกมาทวงคืนความยุติธรรมกับเรื่องนี้ ให้คำตอบว่า สามารถฟ้องร้องเรื่องการผิดสัญญา ละเมิดสิทธิผู้บริโภค ซึ่ง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ต้องเป็นหน่วยงานรับผิดชอบดูแลเรื่องนี้
“เมื่อวานที่ผมไปแจ้งความ ที่ สภ.ปากเกร็ด ส่วนหนึ่งเป็นการลงบันทึกประจำวัน เกี่ยวกับรายละเอียดที่มันเกิดขึ้น อย่างเช่นว่า ผมลงทะเบียน แล้วผมได้ OTP เมื่อไหร่ ผมใช้เวลาไปกี่ ชม. ในการลงทะเบียน และผมต้องการให้ดำเนินคดีกับทาง Dtac ผมก็แนบ พ.ร.บ.โทรคมนาคมไปด้วย และตำรวจจะดูว่าอันไหนที่ทาง Dtac ทำผิดกฎหมายไหม
ในกรณีที่ไม่สามารถให้การบริการได้ ถ้ามีเขาจะดำเนินคดีต่อ แต่หลังจากนี้ ผมก็จะเอาข้อมูลตรงนี้ กับบันทึกประจำวันไปยื่นต่อที่ผู้จัดการการแผ่นดิน เพื่อให้ผู้จัดการแผ่นดินมีการตรวจสอบไปยัง กสทช. กับกรณีดังกล่าวที่มันเกิดขึ้น และหามาตรการในการเยียวยา
ส่วนการที่ตัวทาง กสทช. ออกมาบอกว่าผู้บริโภค มีสิทธิในการฟ้องคดีของผู้บริโภคเอง ผมอยากจะบอกกับไปอย่างหนึ่งว่า ถ้าผมต้องทำอะไรเองทุกอย่าง กสทช.ก็ยุบไปเลยก็ได้ ไม่มีประโยชน์เลย”
นอกจากนี้ ทางทนายได้เตรียมยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวผ่านไปยัง กสทช.ให้ทางค่ายมือถือรับผิดชอบความเสียหายต่อผู้บริโภค
“ผมอยากให้มีการลงโทษ operator ที่ให้บริการอย่างจริงจัง ผมไม่คิดว่ามันป็นเรื่องที่ผมต้องไปฟ้องเอง ผมคิดว่าเป็นหน้าที่ของ กสทช. ที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแล ผู้ให้บริการสัมปทานของรัฐบาล ต้องเป็นการดำเนินการลงโทษ เพื่อให้เห็นมาตรการอย่างชัดเจนว่า ผู้ให้บริการจะไม่มีความผิดพลาดแบบนี้เกิดขึ้นอีก”
ข่าวโดยทีมข่าว MGR Live
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **