คนใช้บัตรทอง 8 แสนคนต้องรู้!! เจาะรายละเอียดประกันสุขภาพ สิทธิขั้นพื้นฐานของคนไทยผ่านปากโฆษก สปสช. ชี้เร่งแก้ปัญหา ไม่ต้องกลัว ให้สิทธิแทนได้ทุกที่ น้อมรับจุดอ่อน อยู่ที่การประชาสัมพันธ์
แก้ไขปัญหา ให้สิทธิพิเศษไปรับบริการที่ไหนก็ได้!!
กลายเป็นเป็นประเด็นร้อนระอุ หลังจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ยกเลิกสัญญาการให้บริการสาธารณสุขของคลินิกชุมชนอบอุ่น และโรงพยาบาลที่ผิดสัญญาให้บริการสาธารณสุข ในการเบิกจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จำนวน 64 แห่ง
โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.63 ทำให้ประชาชนกว่า 8 แสนคนนั้นได้รับผลกระทบ รวมทั้งสร้างความสับสนถึงการยกเลิกการถือบัตรในครั้งนี้
“ไม่เคยรู้เรื่องเลยว่าจะยกเลิกบัตรทอง บัง (สามี) กำลังจะถูกหมอนัดตรวจอยู่พอดี วันที่ 2 ตุลาคมนี้ แล้วเพื่อนโทร.มาบอกว่ามึงจะไปโรงพยาบาลนั้นไม่ได้แล้วนะ เพราะเขายกเลิกบัตรทอง เขาก็ถามว่าทำไม มันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เห็นมีคนไปที่เขต และพี่ก็ไปที่เขตมา คนเยอะมาก ทำอะไรก็ไม่ได้เลย เพราะเขตนั้นเขารับเพียง 300 คิวต่อวัน แล้วเราไปไม่ทัน
ไป 2-3 วันแล้วก็ไปไม่ทัน ก็เลยคิดว่าจะไปวันจันทร์ของเดือนตุลาคม ให้เรื่องมันเบาๆ นิดนึง แล้วค่อยไป ลำบากมาก เพราะคนเยอะมาก เจ้าหน้าที่ให้บริการยังน้อยมากและเจ้าหน้าที่บางคน ยังไม่รู้เรื่องด้วย”แม่ค้าร้านสตาร์บัง กล่าว
นี่คือคำพูดของ “อ้อ” ที่ได้บอกเล่ากับ ทีมข่าว MGR Live ถึงความอัดอั้นตันใจ ต่อการยกเลิกใช้สิทธิบัตรทองว่าไม่เคยรับรู้ข่าวสารนี้มาก่อน และได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้โดยตรง
“เขาต้องบอกมาเลย เขาต้องส่งหนังสือมาทางที่บ้านเลยนะว่า คุณต้องไปย้ายสิทธิไปโรงพยาบาลนี้ เพราะเขตที่พี่อยู่ อยู่ในเขตทุ่งครุ แล้วเขามีให้เลือกแค่โรงพยาบาลเดียวเอง
โรงพยาบาลประชาพัฒน์ลำบากมาก เวลาที่ไปก็ไม่มีให้นั่ง คนก็ยืนกันไป ห้องก็แคบนิดนึง นี่ขนาดยังไม่ได้เอาของโรงพยาบาลอื่นเข้ามา ตอนนั้นบัตรทองยังปกติ เดี๋ยวเขาเปิดรับัตรทองของประชาพัฒน์ เอาของสุขสวัสดิ์เข้าไปด้วย โอ้โห คนคงเยอะมาก”
ขณะที่ “อัครภัทร์” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่ง ได้บอกเล่าว่า ไม่ได้รับรู้ว่ามีการยกเลิกบัตรทองบางส่วนในกรุงเทพฯ
“ไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ มีการยกเลิกบัตรทองบางส่วนในกรุงเทพฯ แต่ไม่โดนผลกระทบ เพราะผมอยู่ต่างจังหวัด”
ทั้งนี้ เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้อง ทางทีมข่าวจึงติดต่อไปยัง “ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ” รองเลขาธิการ สปสช. และโฆษก สปสช. ได้คำตอบเพื่อคลายความกังวลใจไว้ว่า ตอนนี้ได้รับรู้ถึงผลกระทบของพี่น้องประชาชน ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ดำเนินแก้ไข ประสานงาน
โดยไม่ต้องเปลี่ยนหน่วยบริการ เพราะตอนนี้ สปสช.ให้สิทธิพิเศษ ให้ไปรับบริการที่ไหนก็ได้ โดยจะใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือน ก็จะประกาศให้มีการลงทะเบียนอีกครั้ง
“ผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างแรก คือ ประชาชนไม่สามารถไปรับบริการอย่างหน่วยบริการเดิมได้ แต่ว่าพอเราเอาข้อมูลมาดู เราพบว่า 1.ประชากรที่ถูกกระทบในล็อตนี้มีอยู่ 8 แสนคน เราเอาข้อมูลย้อนหลังว่ามีการไปรับบริการอย่างไรบ้าง
พบว่า 7 แสนคน มีทั้งไม่เคยไปรับบริการ มีทั้งนานๆ ครั้งไปรับบริการ ดังนั้นเราจึงให้สิทธิพิเศษ ที่เราเรียกว่าสิทธิว่าง หมายความว่าคนไข้จะไปรับบริการที่ไหนก็ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
ปกติสิทธิว่างเราไม่ค่อยได้เปิด เพราะว่ามันจัดการยาก แต่ตอนนี้เราเปิดให้แก่ 7 แสนท่าน จริงๆ เราเปิดให้กับทั้งหมด 8 แสนคน ส่วนคนไข้อีกกลุ่มหนึ่งเป็นคนไข้เร่งด่วน ที่จำเป็นที่จะต้องที่คุณหมอนัดมาผ่าตัด คุณหมอนัดมาเคมีบำบัด มาฟอกไต มารับยาต้านไวรัส คนไข้กลุ่มนี้ สปสช. ได้มีข้อมูลที่เป็นเบอร์โทรศัพท์ ก็ประสานติดต่อคนไข้ให้ไปรับบริการในที่เราจัดให้ไว้เรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้ปัญหาหมดแล้ว แต่เรายังคงพบว่าตอนนี้ยังมีประชาชนที่ สปสช. อาจจะสื่อสารได้ไม่ครบถ้วน พออยู่ๆ มีหน่วยบริการ แล้วอยู่ๆ ก็ไม่มีหน่วยบริการขึ้นมา เขาก็กังวลว่าต่อไปเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยเขาจะไปที่ไหน เขาก็ไปหาหน่วยบริการใหม่ ไปย้ายหน่วยบริการใหม่ โดยที่ไปสำนักงานเขต
ตอนนี้ขอให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบไม่ต้องเปลี่ยนหน่วยบริการ เพราะตอนนี้ สปสช. ให้สิทธิพิเศษอยู่แล้ว ไปรับบริการที่ไหนก็ได้
ส่วนประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งก็จะร้องมาว่า ไหนบอกไปรับบริการที่ไหนก็ได้ แต่โรงพยาบาลบอกว่ารับบริการไม่ได้ ให้ไปหน่วยบริการประจำเดิม ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเราอาจจะอ่อนประชาสัมพันธ์ครับ”
อย่างไรก็ดี เขาในฐานะเลขาธิการ สปสช. ได้ชี้แจงอีกว่า ได้มีการประสานงานโรงพยาบาลทุกแห่งมาพูดคุย รวมทั้งได้ประสานขอความช่วยเหลือไปยัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพฯ เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งประชาชนยังคงสามารถเปลี่ยนสิทธิดำเนินการเองได้
“1.ไปที่โรงพยาบาลก็ได้ 2.จะไปที่สำนักงานเขต 3.จะทำออนไลน์ เรามีออนไลน์เข้าไปที่ Line appication(Line ID @nhso) สามารถที่จะเปลี่ยนหน่วยบริการตรงนั้นก็ได้
สิ่งที่ท่านต้องเตรียมหลักฐานที่ใช้ในการติดต่อ เปลี่ยนสิทธิง่ายมากเลยครับ 1.เราใช้สำเนาทะเบียนบ้าน 2.ใช้บัตรประชาชน หรือการถ่ายรูปตัวเองกับบัตรประชาชนผ่านทาง Line Appication คือ จะเป็นข้อมูลที่เป็นระบบ เวลาเราตรวจสอบความถูกต้อง”
ยอมรับจากใจ...จุดอ่อนคือ ประชาสัมพันธ์
“จริงๆ ต้องบอกว่าการประชาสัมพันธ์ของ สปสช. นี่แหละครับยังไม่แข็งแรงพอ” ถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จนยิ่งปัญหาบานปลาย ประชาชนไม่ได้รับความเข้าใจที่ถูกต้องเป็นเพราะอะไร เขาให้คำตอบและยอมรับผิดว่า เป็นเพราะการประชาสัมพันธ์ที่ยังไม่แข็งแรงของทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
“ผมต้องกราบขออภัยต่อพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่งเลยนะครับ เราก็จะนำบทเรียนนี้ไปปรับปรุง ถ้าเกิดโอกาสหน้ามันเกิดเหตุวิกฤตอย่างนี้อีก เราก็มีบทเรียน แต่ว่าตอนนี้ก็พยายามระดมประชาสัมพันธ์ไปยังทุกช่องทาง
วันนี้เราก็ขอความร่วมมือไปยังทีวีทุกช่อง วิทยุทุกแห่งให้ประชาสัมพันธ์ว่าถ้าท่านใดที่ได้รับสิทธิขอให้เป็นสิทธิพิเศษ ไม่ต้องเปลี่ยนหน่วยบริการ
ตอนนี้ไม่ต้องเปลี่ยนสิทธิ เดี๋ยวรออีกสักหน่อยไม่เกิน 2 เดือนเดี๋ยวเราจะประกาศ มีหน่วยเป็นร้อย และไปเปลี่ยนตอนนั้นทีเดียวง่ายกว่า”
ไม่เพียงแค่นั้น ยังน้อมรับปัญหาทั้งหมด กำลังถูกเร่งแก้ไขยังเร็วที่สุด โดยย้ำปัญหาที่ยังคงกังวล คือ การประชาสัมพันธ์ที่ไม่ทั่วถึง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
“ผมคิดว่าปัญหาใหญ่ๆ ที่ประชาชนห่วงใย และที่ผ่านมาทั้งหมดเราแก้แล้ว เหลือแต่อย่างเดียว คือ เราจะประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึงยังไง”
แน่นอนว่าการใช้บัตรทอง กลายสิ่งที่จำเป็นสำหรับประชาชน เขาในฐานะที่ทำงานตรงนี้ ยังแนะถึงการตรวสอบสิทธิบัตรทอง (หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) ด้วยตนเอง ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้ พร้อมทั้งเพิ่มมาตรการต่างๆ อีกหนึ่งเพื่อความสะดวกสบายของพี่น้องประชาชน
“เราให้ใช้สายด่วน สปสช.1330 แต่ว่าเนื่องจากบริการเข้ามาเยอะมาก ปกติเดือนหนึ่งเราให้บริการ 6 หมื่นสาย ตอนนี้เข้ามาวันละ 2 หมื่น
ดังนั้น ตอนนี้เราขยายจาก 60 คู่สายเป็น 100 พรุ่งนี้หรือไม่เกินมะรืนเราจะขยายเป็น 1,000 คู่สาย แต่ใน 1,000 คู่สาย เราจะทำเป็นระบบตอบรับอัตโนมัติ ซึ่งเราร่วมรวมคำถาม 90% ที่คนถามเข้ามา อยู่ในระบบตอรับอัตโนมัติ นี่เป็นช่องทางที่ 1 ที่เราขยาย
ช่องทางที่ 2 ถ้าอยากจะสอบถามอะไร สามารถเข้ามาที่ Line Appication ได้ พิมพ์คำว่า สปสช. เราจะมีเจาหน้าที่สแตนดฺบายคอยตอบคำถามให้ตลอด 24 ชม.
อันที่ 3 ถ้าไม่ถนัด ถนัดเฟซบุ๊ก ก็อินบ็อกซ์เข้าไปในเฟซบุ๊กของ สปสช. คือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แล้ว inbox เข้ามาเลย ถ้าต้องการให้เราช่วยเหลือ ช่วยใส่หมายเลขโทร.กลับให้เราด้วย เดี๋ยวเราจะมีเจ้าหน้าที่ โทร.กลับ”
ข่าวโดยทีมข่าว MGR Live
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **