xs
xsm
sm
md
lg

"เด็กแฝดช่างผม" รายได้หลักหมื่น!! พ่อแม่เป็นปลื้ม ลูกช่วยแบ่งเบา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นี่สิไอดอล! เปิดใจฝาแฝด “แต้ม-เติ้ล” กับความสามารถเกินตัว จับปัตตาเลี่ยน ควงกรรไกร เปิดร้านตัดผมตั้งแต่อายุ 15 ปี หารายได้หลักหมื่นแบ่งเบาพ่อแม่ “พอทำแล้วมันมีความสุขครับ”

อายุ 15 ได้มาเป็น “ช่างตัดผม”

“ตอนนั้นยังเด็กอยู่ ป.6 ประมาณอายุ 11 ปี แม่พาไปร้านตัดผมร้านหนึ่ง ร้านนั้นลูกค้าเยอะครับ ตัดสวย ตัดเร็วด้วย ทำให้ผมมีความคิดอยากจะตัดผมครับ ผมชอบก่อน อีกคนมาชอบตาม ก็ขอคุณแม่เรียน แต่ครั้งแรกคุณแม่ก็ยังไม่ค่อยเชื่อใจเพราะว่ายังเป็นเด็กอยู่ คิดว่ายังไม่มีความรับผิดชอบ แต่ขอจนแม่ให้เรียน ก็ไปเรียนทั้งคู่เลย”

“แต้ม - กรภัทร์ วัฒนาสถิตยานนท์” หนุ่มน้อยวัย 15 ปี เปิดใจผ่าน MGR Live หลังจากที่เรื่องราวของเขาและ “กรฤต วัฒนาสถิตยานนท์ หรือเติ้ล” ฝาแฝดผู้น้อง ถูกส่งต่อกันไปบนโลกโซเชียลฯ นอกจากหน้าตาที่น่ารักสไตล์เกาหลีแล้ว ฝาแฝดคู่นี้ยังมีความสามารถด้านการตัดผม จนพัฒนาเป็นอาชีพเพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัวได้



“ไปเรียนตัดผมชายบาร์เบอร์อย่างเดียวครับ เรียนมา 3 ปี ตั้งแต่อายุ 11-14 ครับ แต่ตัดผมหญิงกำลังจะเรียนตอนปิดเทอมนี้ พอเรียนจบแล้วก็อยากหารายได้ อยากช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ครับ ก็เลยขอคุณแม่เปิดร้านตัดผม แต่คุณแม่ก็แบบ… ยังคิดอยู่ ก็ต้องสร้างความมั่นใจให้แม่ว่าเราต้องทำได้ จนขอไปเรื่อยๆ แล้วแม่ให้

เปิดร้านมาตั้งแต่ 30 มีนาคม 2562 ตอนแรกลูกค้าเงียบมากเลยครับ นั่งรอลูกค้ากันอยู่ แต่พอหลังๆ ลูกค้ามาจากปากต่อปากบ้างครับ ว่าร้านนี้ตัดโอเค ก็มาเรื่อยๆ มาทางโซเชียลฯ ถ้าช่วงต้นสัปดาห์นี่ลูกค้าจะเยอะมากเลย



ลูกค้าทางร้านมีทุกวัยตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่เลย เคสประทับใจ เป็นเคสที่คุณลุงตั้งใจมาตัดผมจากภูเก็ต พอตัดเสร็จคุณลุงก็ให้ทิปเยอะเลยครับ ทำได้ทุกทรงเลยครับ เฉพาะผมชาย พอทำมันแล้วรู้สึกว่ามันดี มีความสุขครับ”

ปัจจุบัน ทั้งคู่กำลังศึกษาอยู่ ปวช.1 วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ แผนกช่างอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนถึง 21.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ 10.30-21.00 น.ในการดูแลร้านตัดผมชาย “Barber Tist” ที่ตั้งอยู่ในชุมชนคอหงส์ 6 ซอย 7 กาญจนวนิช (ซอยทัฟโคท) ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา



เมื่อถามว่า มีการทำร้านตัดผมร่วมกัน แล้วได้ปรึกษาฝาแฝดอีกคนอย่างไรบ้าง น้องแต้มก็ตอบว่าจะพูดคุยกันเพื่อหาจุดบกพร่องเพื่อนำมาพัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อยๆ พร้อมเปิดเผยรายได้ต่อเดือนที่ทั้งคู่ร่วมกันหามา

บางทีตัดหัวนั้นเสร็จก็มาวิจารณ์ว่ามันดีหรือไม่ดี มีร้านแล้วก็คอยช่วยกัน พอจะพักก็ขอแม่สลับกันไปเที่ยวครับ อีกคนก็อยู่ร้าน ตัดกันได้ทั้งคู่ แล้วก็มีลูกค้าประจำของคนไหนคนนั้นอยู่แล้วครับ



รายได้ก็ได้อยู่ครับ ประมาณ 12,000 บาทครับ ทั้งคู่รวมกันครับ 40 เปอร์เซ็นต์ผ่อนร้าน คุณพ่อออกให้ก่อน แล้วผมก็ผ่อนกับน้อง ตังค์ที่เหลือก็เก็บเข้าบัญชี แล้วอยากได้อะไรก็ซื้อครับ ส่วนค่าเทอม พ่อแม่ support อยู่บ้างครับ

อยากให้ทุกคนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ครับ อยากให้ช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ แล้วก็อยากทำอะไรก็ลองลงมือทำครับ ถ้าไม่ทำก็อาจจะไม่รู้ก็ได้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบครับผม”

เปิดเบื้องหลัง เลี้ยงลูกอย่างไรให้กล้าลงมือทำ

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับคุณแม่สุดา ของช่างตัดผมฝาแฝด “แต้ม-เติ้ล” ที่นับได้ว่าเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันให้ลูกชายทั้งสองได้ทำในสิ่งที่ชอบ แม้ในช่วงแรกจะยังไม่แน่ใจในความตั้งใจของสองแฝดก็ตาม

"รู้สึกไม่มั่นใจค่ะ เพราะว่าน้องยังเด็ก ไม่แน่ใจว่าน้องได้เรียนแล้วจะเรียนครึ่งๆ กลางๆ รึเปล่า ก็เลยยังเป็นกังวล แต่พอน้องมีความมุ่งมั่น ตั้งใจเรียนจริงๆ แม่ก็เลยให้น้องได้เรียนค่ะ ถามว่าเห็นแววมั้ย ก็ยังไม่มั่นใจนะคะ แต่พอน้องตัดไปเรื่อยๆ ตอนนี้ก็เลยมีความรู้สึกว่า น้องน่าจะไปได้ไกลกว่านี้เยอะเลยค่ะ



ตอนที่น้องมาขอเปิดร้าน ก็ 50/50 “50” แรกไม่แน่ใจว่าลูกค้าจะมามั้ย แต่อีก “50” ไม่เป็นไร ถ้าเราไม่มีลูกค้า ยังไงก็ยังเป็นบ้าน เราก็ทำบ้านให้มันน่าอยู่ขึ้น เรารีโนเวตให้มันเป็นร้านให้น้องไว้ตัดผมได้ ถ้าเราไปเช่าข้างนอก เราไม่มั่นใจว่ารายรับจะเป็นยังไง อย่างน้อยถ้าเปิดที่บ้าน หลังเลิกเรียนน้องก็ได้ใช้พักผ่อน พอมีลูกค้ามาก็ตัดผม ถ้ามองในมุมความเป็นแม่ มองว่าลูกทำอะไรอยู่ ลูกอยู่ในสายตาค่ะ"

เรื่องราวของครอบครัวนี้ นอกจากจะได้เห็นความสามารถเกินอายุของฝาแฝดคู่นี้แล้ว ยังสะท้อนให้เห็นว่า คุณแม่กับลูกชายวัยรุ่น มีความสนิทสนมและสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง



"เมื่อก่อนจะติดแม่มาก แต่พอตอนนี้น้องโตขึ้นเป็นวัยรุ่น เขาจะมีความเป็นตัวของตัวเองที่สูงขึ้น ลูกพูดอะไรเราก็มาแชร์ เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น บางครั้งพอเราพูดไปน้องไม่ได้เชื่อทั้งหมดนะคะ แต่เราก็ต้องฟังลูกพูดด้วยว่าลูกคิดยังไง แล้วเราก็คนละครึ่งทาง น้องก็โอเคค่ะ เราจะไปคุม ไปใช้ความคิดเราทั้งหมดไม่ได้แล้ว เราก็ต้องรับฟังเขาด้วย ซึ่งเด็กยุคใหม่เราก็ต้องเลี้ยงลูกตามยุคเขาด้วยค่ะ

ตอนนี้รู้สึกภูมิใจมากนะคะ รู้สึกว่าน้องจะไปได้ไกลอีกเยอะ มีสื่อต่างๆ เข้ามา ในความที่คนรู้จักเยอะขึ้น มันก็มีโอกาสอะไรใหม่ๆ แต่เราก็ต้องคุมน้องเพราะว่ามันเป็นดาบสองคม แล้วเด็กช่วงนี้วัยหัวเลี้ยวหัวต่อ เราก็ต้องคอยดูเพราะบางครั้งลูกไม่ทันคิดอะไร เขาอาจจะสนุกสนานไปตามประสาเด็ก ก็เลยย้ำน้องตลอดว่า เราต้องควบคุมตัวเองให้มันดี"



สุดท้าย คุณแม่ของฝาแฝดช่างตัดผมวัย 15 ปี ได้ฝากไปยังผู้ปกครองที่มีลูกวัยรุ่นด้วยว่า “เราเป็นผู้ปกครอง เราก็ต้องเปิดใจฟังลูกมากขึ้น ยิ่งลูกอยู่ในช่วงวัยนี้ด้วย แล้วเด็กยุคนี้สื่อโซเชียลฯ มีบทบาทมากขึ้น ผู้ปกครองจะเลี้ยงลูกแบบสมัยก่อนไม่ได้ เราจะต้องคอยฟังลูกว่าเป็นยังไง โซเชียลฯ พ่อกับแม่ก็ตามไม่ทัน แต่พอลูกมาคุย เท่ากับว่าเราต้องเปิดมุมมองรับเขา ในด้านดีก็เยอะ แต่เราก็มองในมุมที่มันไม่ดีด้วย เราก็คอยสอน

ดังนั้น ผู้ปกครองยุคใหม่ต้องฟังลูกด้วยเหตุผล แล้วขณะเดียวกัน เราก็ต้องคอยสอนในเรื่องของจริยธรรม วัฒนธรรม คำพูดคำจาทุกอย่างแทรกไปด้วย เพราะสื่อมันมีอะไรมาใหม่ๆ เยอะ เราเป็นผู้ปกครองยุคใหม่ก็จะต้องคนละครึ่งทางกับลูกค่ะ คอยสอดส่องแล้วก็มีวิธีการเลี้ยงลูกที่รับฟังมากยิ่งขึ้น ต้องมีความใจเย็นมากขึ้นเยอะเลยค่ะในยุคนี้”

ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : เพจเฟซบุ๊ก “Barber Tist”




** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **



กำลังโหลดความคิดเห็น