xs
xsm
sm
md
lg

จากเด็กติดเกม สู่แชมป์โลกกีฬา “ยูยิตสู” ปลดหนี้ครอบครัวสำเร็จในวัย 16 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



 
ติดเกมงอมแงม จนแม่ต้องตามกลับบ้าน! ชีวิตพลิกผันสู่เส้นทางสายกีฬา “เทควันโด-คาราเต้-ยูยิตสู” คว้าแชมป์โลกในวัย 16 อย่างภาคภูมิใจ ล่าสุด ได้เงินรางวัลสูงถึง 6 แสน เป็นเงินก้อนแรกในชีวิตมัธยม สามารถ ใช้หนี้ ให้ครอบครัวหลักแสนได้สำเร็จ!

แชมป์โลก คือ รางวัลชีวิต!

“ตอนเด็กผมติดเกมมาก เข้าร้านเกมทุกวัน หนังสือไม่เรียนเลย ออกจากบ้านก็มาเล่นเกมเลย ด้วยความที่พ่อแม่อยากตัดปัญหาเรื่องนี้ก็เลยให้ผมเล่นกีฬา ผมก็เลิกเล่นเกมไปเลย ไม่ได้เข้าร้านเกมอีกเลย อีกอย่างตอนเด็กผมร่างกายอ่อนแอ ผมว่าเล่นกีฬาก็ดีกับสุขภาพตัวเอง”

“ซัน - ภานุวัฒน์ ดียะตาม” นักกีฬายูยิตสูเยาวชนทีมชาติไทย วัย 16 จากโรงเรียนเทศบาลวัดกลาง จ.ขอนแก่น เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live หลังเพิ่งไปคว้าเหรียญทองครองตำแหน่งแชมป์โลก ในรายการ Ju - Jitsu 2019 ที่เมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รุ่น U18 ได้สำเร็จ!

กว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์ในหลายรายการ ย้อนกลับไปวัยเด็กจุดเริ่มต้นเส้นทางสายกีฬาเกิดขึ้นมาจากช่วงที่เขาติดเกม ซึ่งสอดคล้องกับคำพูดของ “นภัสสร ดียะตาม” แม่ของซันได้เล่าให้ฟังว่า ลูกชายติดเกมอย่างหนัก จะต้องไปตามที่ร้านเกมประจำ เพื่อให้กลับบ้าน

“ติดเกมวันเสาร์-อาทิตย์ คือยายต้องไปตามที่ร้านเกมตลอด ช่วงนั้นร้านเกมเปิดแถวบ้านเยอะ เขาจะมีเพื่อนกลุ่มติดเกมด้วยกัน ว่างไม่ได้ต้องเข้าร้านเกมตลอด กลับบ้านค่ำทุกวัน พอแม่แนะว่าเห็นพี่ๆ เล่นเทควันโดตรงทางเข้าบ้านเราไหม น้องซันสนใจไหม

พอได้มาเล่นก็ไม่ค่อยมีเวลาเล่นเกมเหมือนแต่ก่อน มีระเบียบขึ้น รู้จักแบ่งเวลาเป็น มีความรับผิดชอบ รู้ว่าต้องไปซ้อมทุกวันหลังเลิกเรียน พอเขาเรียน ป.5 เขาเริ่มรู้จักรับผิดชอบตัวเอง รีดผ้าไปโรงเรียนเอง หลังจากที่ไปเรียนกีฬากลับมาบ้าน ความคิดเขาก็เปลี่ยนไป 

โค้ชบอกว่านักกีฬาต้องเก่งกว่าเด็กปกตินะแม่ ต้องซ้อมหนัก ต้องรีบทำการบ้านหลังเลิกซ้อม มีเวลาว่างก็ต้องทำที่โรงเรียนด้วย พอกลับมาจะได้ไม่มีการบ้านเยอะ จะได้มีเวลาสำหรับการฝึกซ้อม”




 
ขณะที่กีฬาประเภทแรกที่ซันเล่นไม่ใช่กีฬายูยิตสู แต่เป็นกีฬาเทควันโดและคาราเต้ ซึ่งเป็นพื้นฐานผสมผสานของกีฬายูยิตสูด้วยเช่นกัน ซันเล่าว่าตอนเด็กๆ ชอบไปยืนมองพี่ๆ หรือเด็กคนอื่นๆ เล่นที่ยิม ก่อนตัดสินใจบอกแม่ว่าตนอยากเรียนกีฬาด้วยเหมือนกัน

“ตอนเด็กๆ บ้านผมอยู่ในเมือง พอขับรถออกมาตรงตลาดก็เจอยิมเทควันโดและคาราเต้ ผมไปยืนดูทุกวันเลยว่าเขาทำอะไรกัน เล่นยังไง เตะยังไง
หลังจากไปยืนดูบ่อยๆ ก็ขอแม่ว่าอยากไปเล่น แม่ครับผมอยากเล่น อยากลองดูก็เลยได้มาเล่นครับ ตอนนั้นผมอยู่ ป.2 เริ่มต้นเล่นเทควันโดควบคู่กับคาราเต้ เล่นตั้งแต่นั้น จนถึง ม.1

หลังจากนั้นผมเลิกเล่นคาราเต้ไป เพราะรู้ว่าเราไม่เก่งทางนั้น ผมเล่นแต่เทควันโดมาตลอด จนอาจารย์ของผมให้มาลองเล่นยูยิตสู ให้มาลองดูก่อน ถ้าไปได้ก็เล่นต่อ ผมทำได้ ผมไปแข่งเยาวชนแห่งชาติก็ได้เหรียญเงินเลย ตอนนั้นอายุ 14 ปีครับ ที่ผมชอบกีฬานี้คือมีท่าทุ่มที่เท่ห์ก็เลยอยากลองทำได้บ้าง

แต่ละวันที่ฝึกซ้อม ผมต้องวิ่ง 3 กิโลฯ วิ่งเสร็จเข้ามายิม เริ่มซ้อมเตะ ต่อย ชก เป็นเบสิก หลังจากนั้นก็ฝึกทุ่ม สุดท้ายก็นำทั้งหมดมารวมกัน กีฬานี้ต้องมีทักษะด้านทุ่มเป็นพิเศษนะครับ ต้องแข็งแรงครับ”

แน่นอนว่าความสามารถของหนุ่มน้อยวัย 16 ปี ถูกพิสูจน์ผ่านรางวัลเหรียญทองกว่า 16 เหรียญที่ได้คว้ามา กระทั่งแมตช์ล่าสุดระดับโลก ซึ่งจัดขึ้นที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เขาก็ได้ชัยชนะกลับมาให้ประเทศไทยได้ภูมิใจ

“แชมป์โลกปีนี้ได้เหรียญทอง ของผมลงแข่งแบบดูโอ้ คือ ลงเล่นคู่กับเพื่อนเพื่อโชว์ทักษะการต่อสู้ เช่น เรานำท่าของเรามาจำลองการต่อสู้ให้กรรมการดู ส่วนรอบชิงผมแข่งกับประเทศโรมาเนีย และเบลเยี่ยม

หลังจากที่แข่งแล้วได้เหรียญทอง ผมดีใจนะครับ ไม่คิดว่าจะได้มาถึงจุดนี้ คู่แข่งก็สูสีเหมือนกัน กรรมการก็ดูว่าเราแข็งแรงกว่า จะมีท่ายาก มีความแข็งแกร่ง อย่างถ้าหักแขนก็ต้องตรงจุดว่าตรงนี้หักจริงๆ หรือแสดงท่าเตะหลังก็ต้องเตะให้โดน ถ้าไม่โดนก็จะเสียคะแนน เพราะดูไม่สมจริง

แต่จริงๆ ผมเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองเลย อย่างตอนนี้อายุ 16 ปี แต่ผมเล่นในแมตช์ที่อายุไม่เกิน 18 ปี เท่ากับว่าจะมีคนที่โตกว่า สูงกว่าผมอีก รู้สึกประหม่าเหมือนกันนะครับ
เพราะเขาน่าจะแข็งแรงกว่าผมมาก ไม่มั่นใจเลย แต่โค้ชทั้ง 2 คนอยู่ข้างผมตลอด คอยบอกว่าฮึดหน่อยนะ กัดฟันสู้หน่อย ผมก็เลยทำต่อไปจนสำเร็จ”

ภาพ FB : Try Studio
 
ปิดบัญชี ล้างหนี้ให้ครอบครัว!

“ที่บ้านผม คนที่ลำบากที่สุด คือพ่อนะครับ พ่อเป็นช่างซ่อมรถ งานดึกก็ทำ งานไกลๆ ก็ทำ พ่อผมเขาเหนื่อยมากเลย ต้องดูแลครอบครัว หรือการเดินทางของผมในการไปแข่งแต่ละแมตช์ ต้องใช้เงินมากกว่า 5 หมื่นบาท ค่าสมัครก็ 2 หมื่นบาทแล้ว ยังไม่รวมค่าเครื่องบินที่ผมไป พ่อต้องไปหายืมคนอื่นมา”

นักกีฬายูยิตสูวัย 16 ปี เปิดใจเล่าถึงความตั้งใจของครอบครัวที่อยากให้ตนเอาดีทางด้านกีฬาอย่างจริงจัง แม้ฐานะครอบครัวไม่ได้มีมากมาย แต่เพื่อลูกชาย พ่อแม่ก็ได้สนับสนุนสิ่งที่ลูกชอบจนประสบความสำเร็จ

ขณะที่ไม่นานนี้ เขาได้คว้าเหรียญทองชนะเลิศ จากการแข่งขันรายการชิงแชมป์เอเชีย 2019 ซึ่งมีเงินรางวัลสูงถึง 6 แสนบาท! ทำให้สามารถนำเงินมาปลดหนี้ให้ครอบครัวได้อย่างน่าภูมิใจ

“เรื่องหนี้ของที่บ้านมีทั้งที่พ่อแม่ต้องไปยืมคนอื่น เรื่องส่งผมไปแข่ง เพราะต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงมากๆ แต่ละแมตช์ นอกจากนี้ก็ยังมีรถตู้ที่พ่อต้องผ่อนส่ง เพื่อใช้ในการทำงาน ตอนนี้ผมปลดหนี้ให้พ่อ ให้แม่ได้หมดแล้ว

พ่อกับแม่ก็ภูมิใจมากๆ นะครับ ไม่คิดว่าผมจะหาเงินมาได้มากขนาดนี้ เป็นเงินก้อนแรกที่ผมทำได้ จำนวน 6 แสนบาท จากรายการชิงแชมป์เอเชียที่ผ่านมา ผมก็แบ่งให้พ่อแม่ใช้หนี้ 320,000 บาท”

เช่นเดียวกับแม่ของซันก็ได้ชื่นชมลูกชายคนนี้ด้วยว่าเป็นเด็กเชื่อฟังผู้ใหญ่ สอนง่าย และภูมิใจที่ซันสามารถแบ่งเบาภาระครอบครัวได้ ขณะที่มีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้นเอง

“ที่ผ่านมาต้องใช้เงินมากค่ะ ก็ไม่ถึงกับลำบากค่ะ แต่ไม่มีเงินเก็บเลยตั้งแต่ที่น้องเริ่มเรียนกีฬา เพราะใช้เงินเยอะมา ทั้งการเดินทางไปแข่งด้วย มีค่าใช้จ่ายสูงแต่ละครั้ง
จริงๆ ที่ให้เขาเริ่มเล่นกีฬา เรื่องความฝันที่จะติดทีมชาติคือ แม่และเขาก็ไม่ได้คาดหวังมาก คือไม่ได้กดดันเขาค่ะ แต่เขาก็มีความตั้งใจทำให้เต็มที่เวลาแข่ง

แม่ภูมิใจที่สุดแล้ว กว่าจะมีวันนี้ได้เราก็ต้องผ่านมาเยอะเหมือนกัน น้องซันเขาเป็นคนพูดง่าย ได้เงินรางวัลมาเขาก็ให้แม่หมดเลย นำมาใช้หนี้ส่วนที่ยืมมาในการเดินทางไปแข่งค่ะ อีกส่วนก็คือไปปิดงวดรถตู้ให้พ่อ”



ซัน และครอบครัว
 
แม้ภาพแห่งความสำเร็จจะถูกฉายขึ้นมาให้เห็นในเวลานี้ แต่ระหว่างทางกว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ เขาก็เคยท้อใจจนเกือบเลิกเล่นไปเลยเช่นกัน หากไม่ได้กำลังใจจากครอบครัว ซึ่งเวลาที่รู้สึกเหนื่อยขณะซ้อม ซันจะนึกถึงหน้าพ่อและแม่ก่อนเสมอ

“ผมก็ยังไม่หยุดซ้อม ยังซ้อมตลอดทุกวัน เวลาผมเหนื่อย เวลาท้อจะคิดว่าครอบครัวสบายหรือยัง ครอบครัวมีเงินเยอะแล้วเหรอ ตรงนี้ก็เลยมีแรงผลักดันให้ผมทำต่อไป ผมจะไม่นึกถึงใครเลย ผมนึกถึงแค่ 2 คนนี้ เราต้องสู้นะ อย่าเพิ่งถอย อย่าเพิ่งเจ็บ ผ่านตรงนี้ให้ได้ก่อน ผมก็ผ่านมาได้

ก่อนหน้านี้มีที่ท้อเหมือนกันนะว่าไม่เอาแล้ว ไม่อยากซ้อมแล้ว แต่โค้ชพูดว่าให้พยายาม อย่าท้อ อย่าถอย ยังไปไม่สุดเลย พยายามอีกนิดเดียวเพื่อพ่อแม่เท่านั้น โค้ชก็บอกแบบนี้ผมก็เลยมีแรงกลับมาซ้อม

ผมอยากชวนน้องๆ ให้ลองเล่นนะครับ เพราะมีศิลปะการป้องกันตัวที่นอกเหนือไปจากเทควันโด มีวิชาป้องกันตัวที่นำไปใช้ในชีวิตจริงได้ เผื่อว่าเกิดเหตุการณ์กับเราจะได้เชื่อเหลือตัวเองได้ ที่บอกกันว่าเป็นกีฬาที่อันตราย ผมว่าไม่อันตรายหรอกครับถ้าเรารู้เทคนิค อย่างเทคนิคในการล้ม ในการแก้ทาง เพื่อเซฟตัวเอง

ผมก็อยากให้ลองมาเล่นดูครับ มาเล่นเทควันโด หรือรู้จักกีฬายูยิตสูดีกว่านั่งอยู่เฉยๆ อย่างถ้ามีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น เราจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ด้วยครับ”

ข่าวโดย MGR Live
ขอบคุณภาพ Try Studio




** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **



กำลังโหลดความคิดเห็น