xs
xsm
sm
md
lg

เฉี่ยวชนแล้วไม่หนี!! ทิ้งโน้ต “กราบขออภัย” รับผิดจนคนชื่นชม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สุดประทับใจ โลกโซเชียลฯ แห่ชื่นชมคุณหมอสาวจิตสำนึกดี ขับรถชนแล้วไม่หนี ยืดอกแสดงความรับผิดชอบซ่อมให้ ไม่หนี ไม่หาย พยายามตามหาเจ้าของรถถูกชนไม่พบ จึงเขียนโน้ต ชื่อ เบอร์โทร.ทิ้งไว้ ได้ใจสังคม คนแบบนี้ต้องยกย่อง

จิตสำนึกเยี่ยม ชนแล้วรับผิดชอบ

"รถดิฉันเฉี่ยวชนรถคุณ พอดีมีรถมาบังทางด้านขวา เลยต้องหักหลบ พยายามให้ Operator โทร.ตามแต่คุณคงทำงานอยู่ ไม่ได้ยินประกาศ รบกวนติดต่อกลับดิฉัน (แจ้งชื่อ และเบอร์โทร.)

*ดิฉันได้ติดต่อประกันรถยนต์ไว้แล้ว คุณสามารถรับใบเคลมที่ป้อมยาม* ต้องกราบขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะ"

โลกออนไลน์ได้พากันส่งต่อเรื่องราวสุดประทับใจ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Preecha Wanichsetakul
ได้มีการเผยแพร่ข้อความจดหมายที่ถูกติดไว้หน้ารถ หลังจากรถของลูกชายถูกเฉี่ยวชนจนเสียหายเล็กน้อย แต่คู่กรณีกลับแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอซ่อมส่วนที่เสียหายให้

“อุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนในสถานการณ์แบบนี้ เรามักจะพบเจอกันบ่อย โดยมีคนบอกบ้าง ไม่มีคนบอกบ้าง ฉะนั้นก็อยากจะให้เห็นเป็นตัวอย่างที่ดีแก่สังคม โดยเฉพาะกลุ่มของผม ที่จะเป็นแพทย์ เป็นนักเรียนแพทย์ จะได้เห็นเป็นแบบอย่างที่ดี ดีกว่าไปลงเรื่องที่คนทำไม่ดี ผมก็คิดแบบนี้”

นายแพทย์ปรีชา วาณิชยเศรษฐกุล อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เล่าถึงที่มาที่ไปถึงโพสต์ดังกล่าวให้ทีม MGR Live ผ่านปลายสาย

นอกจากนี้ คุณหมอยังเล่าต่อว่า ที่จอดรถบริเวณนั้นจะเป็นลานกว้างๆ ในโรงพยาบาล แถมไม่มีกล้องวงจรปิด อีกด้วย ซึ่งหากชนแล้วหนี ก็ไม่สามารถตามจับได้ แต่ผู้ขับรถเฉี่ยวชนแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มใจ

สำหรับข้อความที่คุณหมอปรีชาได้โพสต์จนทำให้โลกออนไลน์แชร์และชื่นชมนั้นทำให้สังคมนั้นระบุว่า

“รถลูกชายจอดในมหาวิทยาลัย ขากลับมีจดหมายน้อยติดหน้ารถ แจ้งว่า เขาถอยรถออกแล้วชนรถลูกชาย (มีรอยถลอกไม่มาก) ยินดีรับผิดชอบ

พร้อมติดต่อประกันเขียนใบเคลมให้เรียบร้อย ให้ไปรับได้ที่ยาม…ชื่นชมครับ ขอบคุณในความรับผิดชอบ ถึงแม้จะไม่ทราบว่ารถใคร และ ไม่มีใครเห็น …ผู้ขับรถชนเป็นอาจารย์ปรีคลินิก คณะแพทย์ มธ. ท่านหนึ่ง (ที่ได้มีโอกาสเรียนแพทย์) ..คนดีๆ ทำดีต้องช่วยกันยกย่องครับ..

ทั้งนี้ หลังจากเรื่องราวดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ทำให้มีคนเข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต่างชื่นชมในความรับผิดชอบของผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ แม้ว่าเป็นเรื่องน้อยนิด แต่กลับไม่มองข้าม พร้อมยกให้เป็นคนต้นแบบที่คนในสังคมควรเอามาเป็นแบบอย่าง

"1 ใน 100 จะเจอแบบนี้"

“กลายเป็นเรื่องราวดีๆ ในสังคม แม้จะเผชิญกับอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วแสดงความรับผิดชอบ แม้ว่าตามคู่กรณีไม่พบ ชื่นชมในความรับผิดชอบ อยากให้สังคมมีคนแบบนี้มากๆ รับผิดชอบต่อการกระทำ ทั่งต่อหน้าและลับหลัง”

สำหรับบุคคลผู้เป็นต้นแบบของสังคมนี้ คือ คุณหมอ ในคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นอาจารย์สอนด้านเภสัชฯ นั่นเอง โดย นายแพทย์ปรีชา ให้ข้อมูลว่า แพทย์หญิงท่านนี้อายุประมาณ 30-40 ปี 

“สำหรับลานจอดรถที่เกิดเหตุเป็นของโรงพยาบาล มีเจ้าหน้าที่ มีคนไข้จอดกันมากมาย ไม่รู้หรอกว่ารถใคร ยิ่งรถลูกชายผมก็เป็นรถธรรมดา

ผมเป็นอดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เลยโทร.ไปหา เขาก็ตกใจ ไม่คิดว่าจะเป็นรถลูกผม เขาก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่ได้ว่าอะไรเรื่องนั้นหรอก ก็จะโทร.ไปขอบคุณเขาเท่านั้นเอง”

อย่างไรก็ดี คุณหมอชี้ว่า เหตุที่ต้องโพสต์ชื่นชม เพราะอยากบอกเล่าเรื่องราวดีๆ เพื่อให้สังคมนำมาเป็นแบบอย่างที่ดีและแชร์เรื่องราวดีๆกัน

“ใจเค้าใจเรา”…รับผิด แบบอย่างสังคม


ทว่า เหตุการณ์ “ชนแล้วหนี” ดูจะเป็นเรื่องปกติไปแล้วในสังคมไทย แต่กรณีชนแล้วรับผิดชอบ บุคคลผู้เป็นแบบอย่างที่ดีก็มีให้เห็นกันไม่น้อย

“หนูถอยรถชนด้านข้างค่ะ ชื่อหญิงค่ะ โทรหาหนูนะคะ หนูขอโทษค่ะ พอดีหนูรีบไปทำงานค่ะ” พร้อมทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อด้วย

ข้อความบนโน้ตที่เหน็บไว้ด้วยที่ปัดน้ำฝนบนกระจกหน้ารถของคู่กรณี ทำให้ผู้ถูกชนหายโกรธเป็นปลิดทิ้ง แถมโพสต์ชื่นชมชี้เป็นตัวอย่างที่ดีให้สังคม

“เหตุเกิดในปั็ม ปตท.กลางเมืองโคราช น้องเขานิสัยดีมาก น้องเขาถอยรถมาชน เมื่อผมเอารถไปให้ช่างที่อู่ทำสีช่างคิดราคาค่าทำสีราคา 3,500 บาท แต่ผมกับเมียพากันมองว่ามันนิดหน่อย จึงโทร.ไปแจ้งน้องเขาว่าช่างตีราคา1,500 บาท

ที่เอาแค่นี้ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เห็นว่ามีความรับผิดชอบดีก็เลยเอาแค่นี้ครับ แล้วน้องเขาก็โอนเงินมาให้แล้ว ที่มาเล่าให้ฟังในครั้งนี้ก็ไม่มีอะไรมากแค่อยากบอกว่าเมืองโคราชไม่สิ้นคนดีครับ”

หลังจากนั้นได้รับคำชื่นชมจากชาวโซเชียลฯ ล้นหลาม จึงทราบว่าเธอ คือ สมพร จินากูล เป็นพนักงานแผนกบริการสินเชื่อ ของธนาคารกรุงไทย สาขาเดอะมอลล์ โคราช

เธอย้ำเหตุการณ์ในวันนั้นรู้สึกผิด ย้อนคิดถ้าเป็นรถของตนโดนบ้าง ก็ไม่อยากเห็นคนผิดขาดความรับผิดชอบ เนื่องจากสังคมไทยปัจจุบันนี้ ต้องการคนที่มีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบอยู่มาก ดังนั้นถ้าตนจะเป็นส่วนหนึ่งในการจุดประกายให้ใครหลายคนได้มีกำลังใจที่จะทำความดี ก็ยินดีที่จะน้อมรับคำชื่นชม

จากโคราชลงใต้ไปสุราษฎร์ธานี คนดีชนไม่หนี มีทั่วไทย เช่นเดียวกับหนุ่มคนนี้ ที่ยืดอกแสดงความรับผิดชอบ


“ขอโทษครับ ผมขับรถเบียดรถพี่ ผมยืนรอพี่อยู่นานมาก พอดีผมต้องไปขายของ ผมเลยทิ้งจดหมายไว้หน้ารถให้พี่โทร.กลับ ผมไม่ได้ตั้งใจและไม่คิดจะหนีครับ”

ตั้ว-ปิยะฉัตร วารีวนิช เจ้าของข้อความบนจดหมายที่ถูกแชร์ไปทั่วสังคมออนไลน์ เคยเปิดใจกับทีม MGR LIVE ย้ำเหตุผลที่ไม่หนีว่าจะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย-ไม่อยากมีบาปติดตัว!

“วันนั้นผมไปขายของปกติครับที่งานเรือพระ จ.สุราษฎร์ฯ ซึ่งมันจะเป็นทางปิด มีรถสวนออกมา รถผมมันใหญ่กว่าชาวบ้านเขาครับ รถฟอร์ดเรนเจอร์ ผมก็จะหลบให้รถข้างๆ ไป แต่บังเอิญว่าผมประมาทไปหน่อย ด้านซ้ายของรถเลยไปเบียดกับรถอีกคันที่จอดอยู่

ตอนลงไปดูก็ตกใจครับ คิดว่างานเข้าแล้ว เป็นใครก็รู้สึกแบบผม เหมือนไปชนรถเพื่อนแล้วงานเข้า แย่แล้ว เราไม่ได้นึกถึงประกันอยู่แล้ว นึกถึงว่าเจ้าของรถอยู่ไหน ผมจะต้องหาเจ้าของรถก่อน เพื่อเคลียร์ตรงนั้นให้จบก่อน ผมค่อยไปทำงานของผม ผมรออยู่พักหนึ่งไม่มีใครมาก็เลยเขียนจดหมายทิ้งไว้

ถึงจอดทิ้งไว้ตรงนั้นก็ไม่รู้หรอกว่าผมชน แต่มันทำไม่ได้ ถ้าผมทิ้งไว้แบบนั้นแล้วหนีไป โดยที่ไม่รับผิดชอบอะไรเลย มันทำให้ผมเป็นตราบาปไปตลอด”

ย้ำไม่รู้จะหนีทำไม ยันถ้าทำผิด จะรู้สึกไม่สบายใจ

“มันติดอยู่ในใจผม อย่างถ้าเจอรถของผู้หญิงหรือผู้ชายคนหนึ่งน้ำมันหมด แล้วผมไม่ได้ช่วย ผมขับเลยมา ผมจะรู้สึกกับตัวเองว่าทำไมไม่ช่วย ทั้งๆ ที่เราช่วยได้

ต่อให้รถผมไม่มีประกันในวันนั้น ผมก็ไม่หนีนะ เพราะมันเป็นจิตสำนึกของผม เป็นความรู้สึกส่วนตัวของผม ถึงเจ้าของรถไม่มีประกัน ผมก็ยินดีจะชดใช้ ผมสบายใจนะไม่ต้องพะวงว่าเขาจะเจอรถเราไหม เราหนีเขามา ยังไงฟ้าก็มีตา ทำผิดอย่าคิดว่าไม่มีใครเห็น ถึงเขาไม่เห็นแต่ใจเรารู้ดี”




** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **

กำลังโหลดความคิดเห็น