ผ่าใจ! พลเมืองดีฮีโร่เดินดินที่โลกโซเชียลฯ แห่ตามหา หลังช่วยเคลียร์เส้นทางจราจรให้รถพยาบาลช่วยชีวิตผู้ป่วยวิกฤต เผยประโยคสุดกินใจ “ไม่ได้อยากจะเป็นฮีไร่ แต่ถ้าในรถพยาบาลนั้นเป็นคนที่เรารักล่ะ”!?
นาทีเป็น นาทีตาย!
“พี่เขาเป็นใครไม่รู้ แต่มีจิตใจดีจริงๆ” ข้อความของคลิปวิดีโอที่แชร์ในโลกออนไลน์ยอดคนดูเกือบครึ่งล้าน เผยให้เห็นถึงผู้ชายคนหนึ่งกำลังขี่บิ๊กไบค์ขับนำหน้ารถฉุกเฉิน พยายามบอกให้รถข้างหน้าหลบซ้ายหลบขวา ช่วยเปิดทางให้รถพยาบาลที่มีผู้ป่วยลิ่มเลือดอุดตันในสมอง ฝ่าการจราจรรถติดในเมืองกรุง
“พ่อหนูทำ TC Scan สมอง พบมีลิ่มเลือดอุดตันที่สมองต้องส่งตัวไปสถาบันประสาทด่วน รถติดมาก พี่เขาเป็นใครไม่รู้ จิตใจดีมาก ฝากของคุณพี่เขามากๆค่ะ
“ถ้าไม่ได้พี่ ป่านนี้ไม่รู้ว่าพ่อหนูจะถึงโรงพยาบาลมั้ย”
กระทั่งโลกโซเชียลฯ แห่ตามหาฮีโร่ จนเจอ! ติน-สตฤณ พิณพิพัฒน์ หนุ่มใจหล่อวัย 29 ปี ฮีโร่ผู้ช่วยชีวิตผู้ป่วยวิกฤต เปิดใจกับทีม MGR Live ชี้รีบเข้าไปช่วยโดยไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้อยากจะเป็นฮีโร่ แค่อยากช่วยเท่านั้น!
“วันนั้นผมกำลังจะเดินทางมาที่ศูนย์วัฒนธรรม เพื่อแต่งตัวโขนพระราชทาน ผมบ้านอยู่ศาลายา จึงต้องใช้เส้นทางนั้น วิ่งประจำ ก็เห็นรถฉุกเฉินในระหว่างทาง อยู่ช่วงประมาณ น่าจะพุทธมณฑล พอเห็นเขาเปิดไซเรน เลยวิ่งเข้าไปช่วยโดยไม่คิดอะไร จนส่งเขาขึ้นทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี การจราจรช่วงนั้นค่อนข้างหนาแน่น เคลื่อนตัวได้ช้า เป็นช่วงสายๆ เกือบ 11 โมง”
ล่าสุด กฤตาณัฏฐ์ ห้วยพงษ์ทอง สาวผู้โพสต์ตามหาหนุ่มใจหล่อ ฮีโร่ขี่รถเปิดทางให้รถฉุกเฉินพาคุณพ่อป่วยไปโรงพยาบาลได้พูดคุยขอบคุณกันเป็นที่เรียบร้อย
พร้อมเล่าว่า คุณพ่อของตนวัย 77 ปี เป็นโรคความดัน ต้องทานยาละลายลิ่มเลือด ช่วงเช้าคุณพ่อมีอาการแขนขาอ่อนแรง จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลนครปฐม คุณหมอเข้าเครื่อง ทีซี สแกน พบมีลิ่มเลือดออกในสมอง จึงต้องรีบนำตัวคุณพ่อออกจากโรงพยาบาลนครปฐมเข้ามาสู่กรุงเทพมหานคร ไปที่สถาบันประสาทแบบเร่งด่วน
ส่วนตนเองไม่เคยเข้ากรุงเทพฯ มาก่อน ไม่รู้จักเส้นทาง นั่งรถฉุกเฉินตอนนั้นเครียดมาก พอรถฉุกเฉินมาถึงแถวตลิ่งชัน รถติดมาก ตนเองไม่รู้จะทำอย่างไร ในขณะที่รถพยาบาลมีการเปิดไซเรนเพื่อขอสัญญาณแล้ว รถก็ยังคงแน่นอยู่ ก็พยายามยามแล้ว ห่วงพ่อ รถก็มาติดอีก
ทว่า จู่ๆ มีมอเตอร์ไซค์มาขับนำหน้า และพยายามบีบแตร ส่งสัญญาณรถคันข้างหน้าให้ชิดซ้าย ชิดขวา เพื่อเปิดทางให้รถพยาบาล ส่วนพี่มอเตอร์ไซค์คนนี้ไม่รู้จักกันมาก่อน จากนั้นก็ขับหายไปตอนไหนก็ไม่รู้
"คุณพ่อน่าจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้พี่คนนี้คอยเคลียร์เส้นทางให้"
ไม่อยากเป็นฮีโร่ แค่ชอบช่วยเหลือคน
“คือผมเป็นคนที่ถ้าพอมีอะไรที่เราจะช่วยได้เราก็ช่วย เคยมีระหว่างทาง ถ้าเจอพวกรถพยาบาล รถฉุกเฉิน เพราะในกรุงเทพฯ การจราจรก็ค่อนข้างหนาแน่น เราก็ช่วยได้เท่าที่เราช่วย ก็จะมีสถานการณ์แบบนี้ประจำ
เพราะบางทีเราก็ไม่รู้หรอกว่าในรถพยาบาลเขาเป็นไง แต่ว่า ผมคิดอย่างหนึ่งว่า ถ้าเกิดเป็นเรา หรือคนที่เรารักอยู่ในรถ แค่เสี้ยววินาที เขาอาจจะเกิดวิกฤตที่ค่อนข้างหนักก็ได้
ปกติ ถ้าผมเจอเหตุการณ์แบบนี้ แล้วถ้าการจราจรหนาแน่นมากๆก็จะช่วยเขา แต่ถ้าการจราจรคล่องตัว สามารถทำความเร็วได้ ผมก็ช่วยในบางครั้ง บางทีถ้าเราเข้าไปเกิดอันตราย อาจจะเป็นไปได้เหมือนกัน ก็เลยต้องดูๆหน่อย”
ยอมรับตกใจโลกโซเชียลฯ แห่ขนานนาม “ฮีโร่” ย้ำแค่ชอบช่วยเหลือคน
“ก็งงๆครับ งงกับตัวเองอยู่เหมือนกัน ผมก็ไม่ได้หวังจะเป็นฮีโร่ หรือคนดีของสังคมอะไรหรอก แต่ผมชอบช่วยเหลือคนแค่นั้นเอง
ถ้าเราช่วยได้ มันก็น่าช่วย ถ้าช่วยได้เราก็ทำ แต่ถ้าอันไหนเกินความสามารถเราจริงๆ หรือว่าเกินที่เราจะทำได้ บางทีก็ต้องช่วยด้วยวิธีอื่น เท่าที่ตัวเองช่วยได้
หรือบางทีเราเจอรถที่ไม่หลบรถฉุกเฉิน เราก็จะไปบังคับให้รถเขาหลบก็ไม่ได้ มันต้องอยู่ที่ตัวเขาแล้ว ต้องให้เขาย้อนกลับไปมองว่า ถ้าเกิดเป็นตัวเขา หรือพ่อแม่เขา หรือเป็นคนที่เขารัก เขาจะรู้สึกยังไง เวลาที่ผ่านตรงนั้น หรือมีรถฉุกเฉิน
ที่เห็นผมดูคล่องแคล่วเพราะผมใช้รถคันนี้ทุกวัน ผมไม่เคยไปเป็นอาสาสมัครที่ไหน แต่เห็นอะไรที่พอจะช่วยได้เราก็ช่วย แค่นั้นเอง”
แม้อาการอัปเดตของผู้ป่วยในรถพยาบาลคันที่ฮีโร่ช่วยชีวิตจะยังอยู่ในขั้นวิกฤต เนื่องจากแพทย์สามารถระบายลิ่มเลือดในสมองได้บางส่วน แต่สมองก็ยังบวมอยู่ ล่าสุด กำลังเข้ารับการผ่าตัดสมองรอบสอง
ทว่า การช่วยชีวิตในครั้งนี้ก็ได้ต่อลมหายใจคุณพ่อท่านนี้ให้ได้อยู่กับครอบครัวพร้อมรอยยิ้มอีกครั้ง
โดยทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก สตฤณ พิณพิพัฒน์ และ Kitthanat Huayhongtong
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **