xs
xsm
sm
md
lg

ฝ่าดงคำครหา! ม้ามืดปล้นมงฯ “บิ๊นท์-สิรีธร” นางสาวไทย 2562

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เผ็ดเดือดเวทีนางสาวไทยสะเทือน! เข้ารอบมาได้ยังไง ไม่สวย ไม่สมมงฯ ม้ามืด กังขารองอันดับ 1 สละตำแหน่งเพื่อศักดิ์ศรี?! เพราะโดนปล้นมงฯ เคลียร์หมดเปลือกทุกประเด็นร้อน! บิ๊นท์- สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ นางสาวไทย 2562 สาวสวยวัย 25 ปี ดีกรีเภสัชกร สมาร์ท โปรไฟล์เริ่ด นิ่งสยบ ไม่หวั่น! ลอยตัวเหนือดรามา

Q : เขย่าดรามา! ทำไมรองอันดับ 1 ตัวเก็งนางสาวไทยสละตำแหน่ง

A: พี่ริสา กับบิ๊นท์เรามาจากภาคกลางด้วยกัน พี่เขาเป็นตัวแทนจาก จ.สุพรรณฯ ส่วนบิ๊นท์กรุงเทพฯ เราอยู่ด้วยกันบ่อยมาก สนิทกัน ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน


ส่วนที่บอกเขาเป็นตัวเก็ง หนูก็เชื่อว่าเขาเป็นตัวเก็ง เพราะเขาสวย และไนซ์มาก ก็ไม่แปลก แต่อาจจะเป็นจังหวะที่เราได้พอดี

ส่วนที่เขาสละมงกุฎไป เรื่องนี้บิ๊นท์ไม่ได้ถามเขาเลย เพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เขาต้องมีเหตุผลที่เขารู้สึกว่า มันเป็น Best Choice ที่ดีที่สุดของเขาแล้ว เขาถึงทำ

ก็จะพิมพ์ไลน์หากันคุยสัพเพเหระ เขาก็จะรู้ว่าบิ๊นท์โดนข่าวกระแสแรง ส่วนเราก็จะรู้ว่าเขามีข่าวเรื่องสละมงฯ ต่างคนก็บอก สู้ๆนะ ยืนยันไม่ได้ทะเลาะกัน

Q : อยู่บนเวที ทำไมดูไม่สวย หน้าบาน คนแต่งหน้าวางยาเหรอ

A: คนแต่งหน้าหนูก็รู้จักดี แต่คิดว่าเป็นสไตล์ คือการแต่งหน้าก็เป็นศิลปะ เขาก็พยายามจะออกแบบให้ตรงกับบริบทเวที อยากให้ดูไทย แต่อาจจะเป็นที่หน้าหนูเองที่มีแก้มอยู่แล้ว เลยดูบาน ไม่มีมิติ

แต่หนูไม่ซีเรียสเลยนะ กับการที่คนจะมองว่าไม่สวยเลยในวันนั้นที่ประกวด คือ ความสวยมันเป็นแฟชั่น มันยืดหยุ่น แล้วแต่ความคิดเห็นแต่ละคนมากกว่า เราน้อมรับทุกคำติแล้วนำไปพัฒนาดีกว่า

Q : เคยประกวดเวทีไหนมาก่อนไหม

A: ในชีวิตไม่เคยประกวดเลย แต่จะอยู่กับครอบครัวที่ชอบดูการประกวด แบบอาม่าตำน้ำพริกไป ก็ดูนางสาวไทย หรือจะชอบพูดว่า ชอบนางสาวไทยคนนี้จังเลย เพราะอาม่าทันทุกยุคของนาสาวไทยเลย เราจึงซึมซับมา

ตอนนี้อาม่าท่านเสียไปแล้ว ถ้าอยู่ก็คงงงว่าหลานไปประกวดได้ยังไง เพราะเห็นมาตั้งแต่เด็ก ว่าไม่ได้มาสายนี้เลย

Q : ตอนไปสมัครนางสาวไทย มีความฉายแสง เป็นที่จับตาไหม

A : คือหนูเข้าไปในฐานะเด็กสาวเฉยๆเลย แต่พอเข้าสู่เวทีภาคกลาง ก็จะมีแบบ ขอเรียกกรุงเทพฯ มาสัมภาษณ์หน่อย ก็มีบ้าง แต่วันแรกยังไม่ได้ฉายแสง สื่อยังไม่ได้สนใจ

ช่วงแรกก็ยังเดินไม่ได้ แต่งหน้าก็ไม่ได้เก่ง คือตอนแรกที่คิดมาสมัคร ไม่ได้คิดว่าจะต้องได้ตำแหน่ง แต่คิดว่า “เราต้องได้อะไร” เราต้องมีเซนส์ของนางงามมากขึ้น

Q : พอไปเจอเพื่อนนางงามสวยเป๊ะ หวั่นใจบ้างไหม

A : ไม่เลยค่ะ คือหนูเชื่ออย่างหนึ่งว่า เราทำดีที่สุดของเราแล้ว ไม่ต้องสนใจคนอื่นเลย คนอื่นคือเพื่อน คิดอย่างเดียวว่า เราไปไม่ใช่การแข่งขัน ไม่ต้องแข่งกับใคร แต่ต้องแข่งกับตัวเอง ที่เหลือเราต้องได้อะไรที่บวก คือ มิตรภาพ

Q : ถามจริงมีดรามาในกองประกวดบ้างไหม

A: ไม่มีจริงๆ ค่ะ คือคนข้างนอกก็ไม่รู้ว่าเขามองอย่างไรนะ แต่อย่างตัวบิ๊นท์เอง รู้สึกว่าเพื่อนทุกคนดีหมดเลย กินด้วยกัน นอนด้วยกัน ไปเที่ยว สนุก

Q: มีปัญหากับชุดว่ายน้ำบ้างไหม

A: ถ้าเป็นบริบทนางสาวไทย ชุดว่ายน้ำที่หนูใส่ มันโอเค มันน่ารัก แต่ถ้าไปอยู่บนเวทีอินเตอร์บริบทเปลี่ยน เพราะเป็นเวทีอีกระดับหนึ่ง ดังนั้นเราต้องเหมือนนักแสดง

ไม่ติดว่าจะต้องใส่ทูพีช อาจจะเป็นวันพีช แต่เรามีศิลปะอาจจะเว้าหน่อยก็ได้ ใส่ได้ ไม่ติดค่ะ เพราะการเดินชุดว่ายน้ำเป็นศิลปะ ถ้าจะเป็นชุดว่ายน้ำเส้นเล็กๆอาจจะไม่สวย ไม่เป็นศิลปะเอาง่ายๆ ถ้าใส่ออกมาดูมีศิลปะ ดูสวย ก็โอเค

Q : ภาพลักษณ์ดูเหมือนสาวห้าว

A : ตอนเด็กชอบเล่นกีฬา ชอบทำกิจกรรมหนักมาก ถ้าต้องขึ้น Stand จะชอบมาก ตากแดดได้ แต่พอโตมา เข้ามหาวิทยาลัยก็จะเปลี่ยนไปนิดหนึ่ง รักสวยรักงามมากขึ้น เริ่มใกล้กับเวทีนางงามมากขึ้น เพราะเริ่มดูแลตัวเอง

สูง 175 เซนติเมตร อาจเป็นเพราะดื่มนมเยอะมาก คุณพ่อคุณแม่ไม่ใช่คนสูงมาก แต่จะให้เราดื่มนมทุกวัน

Q : เป็นคนเรียนเก่งไหม เพราะพูดจาฉะฉานมาก

A: ไม่ถึงกับที่ 1 แต่อยู่ในเกณฑ์เรียนดี เพราะชอบเรียนมาก แต่กระทั่งชีวิตนางงามก็รู้สึกสนุกเวลาได้เรียนอะไรใหม่ๆ

เป็นเด็กสายวิทย์ - คณิต จบเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แต่เด็กเรียนสมัยนี้ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้โทรมขนาดนั้น แต่ก็มีบางวันสอบหนักๆเราอาจจะเพิ้งบ้าง เป็นผู้หญิงก็จะดูแลตัวเองกันนิดหนึ่ง

Q : ทำไมเดี๋ยวนี้เรามักจะเห็นบุคลากรการแพทย์ลงประกวดนางงามกันเยอะ

A: ตอนบิ๊นท์เรียนเภสัชฯ ก็จะเป็นคนค่อนข้างกล้าแสดงออก ไม่ได้ชอบเรียนอย่างเดียว แต่ชอบกิจกรรมด้วย เพราะชอบกิจกรรมมาก ดังนั้นการที่จะมาประกวดนางงามจึงไม่ได้ห่างไกลตัวบิ๊นท์มากนัก

ตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็มีโอกาสได้ประกวดดาว-เดือน เราก็รู้สึกว่าเราเอ็นจอย สนุกกับมัน ตอนนั้นเราก็ได้เป็นดาวคณะ ไม่ถึงกับประกวด แค่โหวตกัน ว่าจะโหวตใครเป็นดาวคณะกัน

ส่วนสาเหตุที่ได้เป็นดาวคณะอาจจะเป็นเพราะเราคุยเก่ง มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เขาก็คงรู้จัก และมองว่าเราใช้ได้ ก็โหวตให้ ตอนนั้นก็ดีใจนะ ก็คิดว่า แสดงว่าเราก็สวยนะเนี้ย แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเรารู้สึกมีความสุขเวลาได้ทำกิจกรรม อยู่หน้ากล้อง แล้วพูด ดังนั้นจึงชอบทุกอย่างที่เป็นกิจกรรมได้เจอผู้คน จะไม่ตื่นเต้นเลย ชอบ

ส่วนเรื่องการแบ่งเวลาเรียนอย่างไร จะมีตารางชัดเจน สมมติเดือนหนึ่งเราจะกางปฏิทินเลยว่า วันนี้เราจะทำอะไร คิดว่าที่เรียนเก่งเพราะจัดการเวลาได้ดี

Q : ตอนนี้เป็นเภสัชกรแล้วหรือยัง

A: ตอนนี้ทำงานเป็นเภสัชกรด้านการตลาด บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ชีวิตทำงานจริงๆก็จะใส่แว่น เป็นเด็กเนิร์ดนิดหน่อย ไม่ได้แต่งหน้าเต็มขนาดนี้

พอได้ทำงานด้านเภสัชจริงๆแล้ว รู้สึกว่าสนุก ด้วยความที่ชอบกิจกรรม จึงเลือกด้านการตลาด ทำให้มีเรื่องการขายมาเกี่ยวด้วย ซึ่งรู้สึกสนุกมาก ต้องใช้หัวคิดด้านที่ไม่ใช่แค่องค์ประกอบสายวิทย์เพียวๆ

แต่จริงๆหนึ่งในความฝันคือ อยากจะกลับไปเป็นเภสัชกรโรงพยาบาลเหมือนกัน เพราะจริงๆจบมาจากการเป็นเภสัชกรโรงพยาบาล ได้ฝึกงานในโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์เลย แล้วเรารู้สึกได้ความภูมิใจ ได้รักษาคนจริงๆ ได้ดูแลคนไข้คนนี้จริงๆ คิดว่าวันหนึ่งก็อยากทำเหมือนกัน

Q : มองปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ไม่พอใน รพ.รัฐอย่างไรบ้าง

A : อาจจะต้องมีการประชาสัมพันธ์ที่ดีขึ้น หรือองค์กรเภสัชกรรม หรือบุคลากรทางการแพทย์จะต้องแข็งแรงขึ้น จริงๆไม่อยากลงลึก เพราะมีหลายไดเมนชั่นของปัญหา แต่สิ่งที่บิ๊นท์เห็นปัญหามากกว่า คือ คนไข้ไทยไม่ค่อยมีความรู้

คือเขาจะฟัง และผ่านไป ซึ่งบางครั้งมันไม่เซฟต่อชีวิตตัวเอง หรือครอบครัวเลย ถ้าตั้งใจฟังคุณหมอ หรือเภสัชกร สักหน่อย หรือหาข้อมูลก่อนจะไปพบหมอ อย่างต่างประเทศทำ จะช่วยเซฟชีวิตเรา การใช้ยาถูกต้อง การดูแลตัวเองถูกต้องขึ้นเยอะเลย ซึ่งคนไทยยังมีความรู้พื้นฐานน้อยอยู่มาก

Q : เหตุที่มาประกวดนางงาม เพราะเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า

A: หนูอยากให้วิชาชีพเภสัชฯ เสียงดังขึ้น คิดมาตลอดว่า ถ้าช่วยได้ มันดีมากเลย มีประโยชน์ต่อทุกคนอยู่แล้ว คือเรา
อาจจะไม่ได้ไปช่วยว่าต้องเผยแพร่ข้อมูลเรื่องนี้ แต่แค่อยากบอกให้ทุกคนตระหนักว่า มันเป็นเรื่องของทุกคนมากกว่าจะเป็นแค่เรื่องของบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ใช่แค่ว่า เรื่องยาปุ้บ ต้องเชื่อหมอ เชื่อเภสัชฯ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ต้อง เชื่อตัวเองด้วย เราหาข้อมูลตัวเองมาซัปพอร์ต Discuss กับหมอ พยาบาล เภสัช ก็ได้ แบบนี้ดีกว่า

ส่วนเหตุที่มาประกวดนอกจากจะอยากตามสานฝันในวัยเด็ก และอีกอย่างคือหวังว่า การที่หนูมาเป็นนางสาวไทยได้ วิชาชีพจะแข็งแรงขึ้น มีเสียงมากขึ้นให้กับประชาชนได้รู้มากขึ้น ซึ่งการวางแผนจะศึกษาก่อนเลยว่า เวทีนี้ต้องการคนแบบไหน ทำการบ้านว่า คนที่ได้ก่อนหน้านี้เขาเป็นอย่างไร

และที่มาเวทีนางสาวไทยเพราะคิดว่าคุณสมบัติเราเหมาะสมกับเวทีนางสาวไทยด้วย และด้วยความที่ผูกพันมาตั้งแต่เด็กกับอาม่า จึงต้องเป็นเวทีนางสาวไทย

Q : ทำไมเลือกสิ่งที่ “ต้องทำ” มากกว่าสิ่งที่ “อยากทำ”

A : อาจจะเป็นเพราะถูกฝึกมาด้วยวิชาชีพ บุคลากรสาธารณสุขทุกคนจะเป็นอย่างนี้หมด คือ เราต้องมองชีวิตคนไข้ก่อน ดังนั้นเราจะเลือกสิ่งที่ “ต้องทำ” ด่วน ทำก่อน “ควรทำ” ทำก่อน ส่วนความรู้สึก “อยากทำ” เอาไว้ก่อน เมื่อไหร่ก็ได้


สัมภาษณ์โดย : รายการพระอาทิตย์ Live
เรียบเรียง : สวิชญา ชมพูพัชร
ขอบคุณภาพจาก แฟนเพจ นางสาวไทย 2562



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **

กำลังโหลดความคิดเห็น