xs
xsm
sm
md
lg

เหตุเกิดเพราะเซลฟี่?! สะเทือนสถาบันข้าราชการ ลดจำนวนเข้าเฝ้าฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เซลฟี่ผิดคิดจนตัวตาย! สำนักนายกฯ สั่งเอง ลดจำนวนข้าราชการเฝ้าฯลงครึ่งหนึ่ง แก้ปัญหาข้าราชการแซงคิวประชาชน บวกประเด็นเซลฟี่ไม่ดูกาลเทศะ โซเชียลฯ จวกยับ ทำเสียชื่อข้าราชการจริงๆ!!

ชิคชิคผิดที่ผิดเวลา

กลายเป็นประเด็นดรามาขึ้นมาทันที่ หลังจากที่โลกโซเชียลฯ ได้มีการแชร์ภาพบุคคลแต่งกายด้วยชุดข้าราชการสีขาว โพสต์ภาพที่ตนเองเซลฟี่ อย่างร่าเริง ในบริเวณพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท จนมีคนตาดีได้แคปเจอร์ภาพดังกล่าวไว้ และนำมาเผยแพร่ ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนั่นโลกโซเชียลฯว่า “ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง” และในขณะนี้บุคคลในภาพก็ได้ถูกต้นสังกัดคาดโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ภาพที่เป็นประเด็นดรามามีอยู่ 2 ภาพ ภาพแรกเป็นภาพข้าราชการหญิง 3 คน สวมเครื่องแบบข้าราชการสีขาว พร้อมแคปชัน “ใส่ชุดขาวก็ถ่ายรูปชิคชิคได้” ส่วนภาพที่สอง เป็นภาพข้าราชการทั้งหญิงและชาย ถ่ายภาพเซลฟี่ร่วมกัน ในบริเวณพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พร้อมแคปชัน #น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย #ฉันเกิดในรัชกาลที่ ๙ #เรารักในหลวง ซึ่งข้าราชการที่ปรากฏใน 2 ภาพนี้ มีอากัปกิริยาแบบเดียวกัน คือเซลฟี่กันด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม อย่างสนุกสนาน




จากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของข้าราชการบางคน ที่เผยแพร่ลงไปบนสังคมออนไลน์ ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นภาพดังกล่าวนั้น ออกอาการไม่พอใจเป็นอย่างมาก และบรรทัดต่อจากนี้คือความคิดเห็นของโลกโซเชียลฯ ที่มีต่อเหตุการณ์นี้

“อยากให้เข้าแถวเข้าคิวกราบพระบรมศพทุกคน ไม่เลือกแบ่งว่าคุณจะมาจากไหน ทำให้เสมอภาคเท่าเทียมทุกคนค่ะ”
“ทำเสียชื่อข้าราชการจริงๆ แต่อย่าไปเหมารวมเลยครับ ข้าราชการดีๆ เขาก็หมดกำลังใจ ไม่มีข้าราชการ กิจการบ้านเมืองก็คงไปลำบาก ก็อย่าไปจงเกลียดจงชังกันขนาดนั้น คนไทยด้วยกันครับ ด่าคนผิดก็พอ”
“จะเป็นประชาชน ข้าราชการที่ทำกิริยาไม่เหมาะสม ก็เป็นที่เสื่อมเสียกับตัวเององค์กรที่ปฏิบัติงานอยู่ คุณมันไร้จิตสำนึกยิ่งเป็นข้าราชการสมองส่วนไหนคุณหายไปกิริยาที่คุณทำมันสุดๆ ที่จะบรรยาย ในฐานะที่รับราชการเช่นกันมันเป็นตราบาปทั้งชีวิตคุณแน่นอน”
“ข้าราชการเพียงไม่กี่คนทำให้เสียชื่อไม่รู้จักกาลเทศะ คนอื่นพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ผิดตั้งแต่ตอนแรกแล้วเข้าแถวแบบเดียวกับประชาชนทั่วไปไม่จำเป็นต้องแบ่งแยกทำให้เท่าเทียมกันดีที่สุด”
“ตรงที่เขาถ่ายรูปแค่ผมเดินเข้าในเขตพระราชวังยังไม่กล้าถ่ายเลยต้องสำรวม”
“เป็นข้า ของแผ่นดิน แต่ไม่รู้อะไรควร ควรหรือมิควร มีความรู้ซะเปล่า”

จากเหตุการณ์ดังกล่าว นำไปสู่การออกประกาศคำสั่ง จัดระเบียบข้าราชการ จากทางสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้แต่ละหน่วยงานจัดข้าราชการเข้าเฝ้าฯ ปรับลดจำนวนลงจากเดิม 100 คน ให้เหลือเพียง 50 คน จากให้เข้า 6 รอบ ให้เหลือเพียง 4 รอบ รวมทั้งออกบัตรเพื่อให้ข้าราชการติดไว้สำหรับแสดงตนอีกด้วย



อีกทั้งในประกาศนี้ยังมีข้อสังเกตอีกด้วยว่า มีบางหน่วยงานที่ไม่ได้มีเวรผลัดเฝ้าฯ นำบุคคลอื่นเป็นจำนวนมากเข้าไปร่วมในพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพและขึ้นถวายบังคมพระบรมศพ ทำให้ประชาชนที่เดินทางมากราบพระบรมศพต้องใช้เวลารอนาน

จิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ภายหลังจากที่มีการจัดระเบียบแล้ว ผลปรากฏว่ามีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น ไม่มีการเซลฟี่ให้เห็นแล้ว รวมถึงไม่มีข้าราชการแทรกคิวประชาชนด้วย
ภายหลังจากที่ประกาศคำสั่งฉบับนี้ของสำนักนายกรัฐมนตรีเผยแพร่ออกไป ผู้คนส่วนใหญ่ต่างเห็นด้วยที่มีการจัดระเบียบข้าราชการในการเข้าเฝ้าฯครั้งนี้ และบางส่วนได้เข้ามาติติงการกระทำของข้าราชการเซลฟี่ นอกจากจะไม่รู้กาลเทศะแล้ว ยังทำให้ข้าราชการคนอื่นๆ ถูกมองไม่ดีไปด้วย


[ ข้าราชการที่ประพฤติตัวดีก็มีมากมาย ]

ในช่วงเวลาแห่งความเศร้าเสียใจนี้ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงให้มากคือความเหมาะสมและกาลเทศะ ซึ่งนอกจากข้าราชการแล้ว ประชาชนเอง ก็ต้องให้ระมัดระวังในการถ่ายภาพเช่นกัน ทั้งการถ่ายภาพหมู่ ถ่ายภาพเซลฟี่ รวมถึงการขอถ่ายภาพกับนักร้อง นักแสดงที่มาเป็นจิตอาสาอย่างสนุกสนาน เพราะนอกจากจะเป็นการไม่เหมาะสมแล้ว ยังถือเป็นการไม่ให้เกียรติสถานที่ ซึ่งก็คือบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง

แนะวางแผนค้างคืน ถ้าไม่อยากรอนาน

นอกจากกรณีดรามาข้าราชการเซลฟี่แล้ว อีกประเด็นที่ดรามาไม่แพ้กัน คือการที่มีข่าวลือว่าข้าราชการบางกลุ่ม มีพฤติกรรมแซงคิวประชาชน ทำให้ประชาชนที่รอเข้ากราบสักการะพระบรมศพต้องใช้เวลาในการรอยาวนานมากขึ้น

ในโอกาสนี้ ทีมข่าวผู้จัดการ Live จึงขอหยิบยกประสบการณ์การเข้ากราบสักการะพระบรมศพ ด้วยวิธีนอนค้างที่สนามหลวง จากสมาชิกเว็บไซต์พันทิปคนหนึ่ง รวมถึงการปฏิบัติตนเมื่อเข้าไปในพระบรมมหาราชวังอย่างละเอียด เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเบื้องต้นให้แก่ผู้ที่ต้องการจะเดินทางไป ผ่านกระทู้“แบ่งปันเรื่องราว "กราบสักการะพระบรมศพ" กลุ่มแรกของวันที่ 14 พ.ย. 59 [ฉบับค้างคืนที่สนามหลวง]” เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่อยากเข้าคิวนาน


[ ที่มา : http://pantip.com/topic/35809408 ]

เจ้าของกระทู้นี้คือ สมาชิกเว็บไซต์พันทิป “รินทร์ มหาชัย” ได้ออกเดินทางสู่สนามหลวงในช่วงเวลากลางคืนของวันที่ 13 พฤศจิกายน และเลือกที่จะนอนค้างคืนภายในสนามหลวง ซึ่งเขาทราบมาจากเจ้าหน้าที่ว่า คนที่นอนค้างที่สนามหลวงจะได้สิทธิ์เข้าสักการะเป็นกลุ่มแรก แต่ผู้ที่ประสงค์จะค้างคืนต้องจับจองที่พักเองโดยจะไม่มีการแบ่งแยกโซนชาย - หญิง


[ ที่มา : http://pantip.com/topic/35809408 ]

เวลา 03.00 น. เจ้าของกระทู้ตื่นขึ้น และทำธุระของตัวเอง(ล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บของ) บนรถสุขาเคลื่อนที่ที่จอดให้บริการมากมาย เมื่อเสร็จเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็เริ่มมีการเรียกให้คนที่พักในสนามหลวงออกไปตั้งแถว และเดินแถวตามไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าประตูวิเศษไชยศรี ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่จะใช้โทรศัพท์ได้ และหลังจาก 8.00น. ประตูนี้จะปิด ผู้ที่มาถึงจุดนี้หลัง 8.00 น. จะต้องไปเข้าทางประตูมณีนพรัตน์


[ ที่มา : http://pantip.com/topic/35809408 ]

เมื่อถึงเวลาต้องเดินแถวเข้าสู่พระบรมมหาราชวังในเวลา 5.00 น. จนมาถึงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เจ้าหน้าที่จะแจกถุงหูหิ้วสีดำให้ใส่รองเท้าและถุงเท้า และเรียงแถวขึ้นสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ถึงตรงนี้ เจ้าของกระทู้ได้บรรยายความรู้สึกของเขาไว้ว่า เป็นวินาทีที่รอคอยมานานแสนนาน จากความเหนื่อยล้าที่รอมาทั้งหมด แปรเปลี่ยนเป็นความตื้นตันในทันที

“ตอนนี้ได้นั่งอยู่เบื้องหน้าพระบรมโกศเรียบร้อยแล้ว ความเหนื่อย ความง่วง หยุดลงที่จุดๆ นี้ เปลี่ยนเป็นความตื้นตันที่ได้มากราบพ่อหลวงแล้ว หลายคนน้ำตาไหลเมื่อนั่งอยู่ตรงนี้ เป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกจริงๆ อยากให้ได้มาอยู่ ณ จุดๆ นี้ จุดที่เราจะได้ใกล้พ่อหลวงมากที่สุด
เจ้าหน้าที่ให้นั่งพับเพียบ พนมมือ สักพักแจ้งให้ก้มลงกราบ และเงยขึ้นตามลำดับ ทุกท่านจะได้อยู่ในท่านี้ประมาณสัก 20-30 วินาทีได้ ทุกสายตามองไป ณ จุดเดียวกันคือ "พระบรมโกศ"เจ้าหน้าที่ให้ทุกท่านลุกยืน แล้วเดินออกจากพระที่นั่งดุสิต ในช่วงเวลาเดินออกนี้หลายคนยังหันมองไม่คลาดสายตา หากสังเกตด้านหลังพระบรมโกศนั่งจะมี "หีบพระศพ" สีทอง คลุมด้วยผ้าอยู่”

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีกราบสักการะพระบรมศพและลงมาจากพระที่นั่งแล้ว จึงสวมรองเท้า เดินออกตามทางที่เจ้าหน้าที่บอกเป็นระยะ เพื่อรับภาพและข้าวพอเพียง จากนั้นออกจากพระบรมมหาราชวังทางประตูประตูเทวาภิรมย์ รวมระยะเวลาตั้งแต่เข้าพระบรมมหาราชวังจนออกนั้น ประมาณ 30 นาที



นอกจากนี้เจ้าของกระทู้ยังให้คำแนะนำเพิ่มเติม สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้ากราบพระบรมศพด้วยวิธีเดินทางมาค้างคืนภายในสนามหลวง ว่าควรแต่งกายให้ถูกต้องและเรียบร้อย เนื่องจากจุดที่มีบริการเสื้อผ้าให้เปลี่ยนนั้นยังไม่เปิด นอกเหนือจากเวลาเช้าสุดและเวลาดึกสุด จะใช้ต่อแถวหลายชั่วโมง จึงต้องเตรียมความพร้อมร่างกายให้ดี และที่สำคัญที่สุดต้องเชื่อฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด



การค้างคืนในสนามหลวงเพื่อรอเข้ากราบพระบรมศพ ถือได้ว่าวิธีนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมากราบพระบรมศพ ณ พระบรมมหาราชวัง ซึ่งในขณะนี้ยังเปิดให้เข้าได้อย่างไม่มีกำหนด สำหรับการลงทะเบียนออนไลน์ อยู่ในขั้นจัดทำโปรแกรมให้ประชาชนลงทะเบียนออนไลน์ ซึ่งต้องทำให้ระบบต้องมีความเสถียร มั่นคง และต้องผ่านการทดลองใช้ก่อนในต้นเดือนธันวาคม ในตอนนี้ก็ยังใช้ระบบจัดคิวกลุ่มดังเดิม

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ : สมาชิกเว็บไซต์พันทิป “รินทร์ มหาชัย”




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น