“บอย พีชเมกเกอร์” สกรีนเสื้อฟรี “ฉันเกิดในรัชกาลที่ ๙” ยึด “ในหลวง” ต้นแบบ ตามรอยในหลวง บีบหลอดยาสีฟันจนหยดสุดท้าย ยึดหลักพอเพียง กตัญญู ย้ำต่างชาติยังรักและเทิดทูนพระองค์ แล้วทำไมคนไทยจะไม่รัก เตือนสติคนไทยอย่ารู้แค่พระองค์ทรงทำอะไรเพื่อประเทศไทย แต่ต้องน้อมนำพระราชดำรัสมาปรับใช้ด้วย
นักร้องดัง “บอย พีชเมกเกอร์” หรือ “อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี” ร่วมกับผองเพื่อนร่วมกิจกรรมสกรีนเสื้อฟรี # ฉันเกิดในรัชกาลที่ ๙ ที่ร้านคาซ่า ลาแปง สตูดิโอด้านหลังของแกรมมี่ งานนี้เจ้าตัวเปิดใจเป็นเกียรติที่ได้แสดงออกในเรื่องความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
“เกิดจาก ป๊อบ ปองกูล กับกลุ่มรุ่นน้องเพาะช่าง ในกลุ่มเพจปรัชญากราฟิก ทำลายสกรีนนี้ออกมาที่สนามหลวง แล้วก็เริ่มกระจายมากขึ้น เขาก็มีงานกันด้วยเลยไม่สามารถทำงานได้ตลอดเวลา ผลัดที่ 2 มาที่ นิว - เป๊ก เขาก็รับช่วงต่อกันไป เขาก็ไปรับสกรีนลายเสื้อที่เซ็นทรัลเวิลด์ พอดีว่ามือคีย์บอร์ดวงผมเขาชำนาญในเรื่องการสกรีนเสื้อ เลยจะทำบล็อกแล้วสกรีนให้ ผมได้ข่าวก็เลยช่วยกระจายข่าว คนก็สนใจกันเยอะ เลยรวมตัวกันมาช่วยกันทำตรงนี้ ผมเองเหมือนเป็นคนรับช่วง แค่นี้ก็ถือว่าเป็นเกียรติมากแล้ว ผมเชื่อว่า ทุกคนต้องการที่จะแสดงออกในเรื่องของความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน แต่ก็ยังมีอีกวิธีมากมายที่จะสานต่อดำเนินรอยตามพระราชดำรัสที่พระองค์ทรงเคยได้บอกเอาไว้ มีมากมาย”
“ส่วนจะขยายโปรเจกต์นี้มั้ย ยังเป็นเรื่องที่คุยกันอยู่ เพราะคนก็ถามกันมาเยอะ คนต่างจังหวัดเองก็เยอะที่ถาม เขาอยากจะได้เสื้อต้องทำยังไง การทำตรงนี้ต้องใช้สถานที่จำนวนมาก และอุปกรณ์ต่างๆ อีก ก็คุยๆ กันอยู่ว่าจะทำยังไงกันได้บ้าง”
เสียใจจนอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ น้อมนำพระราชดำรัสในหลวงมาปรับใช้กับชีวิตให้มากที่สุด
“มันยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูด จะให้มาบอกว่าเราจะทำอย่างนั้นอย่างนี้มันก็เป็นแค่คำพูด สิ่งที่ผมตั้งใจจะทำ คือ เอาพระราชดำรัสของพระองค์ท่านมาปรับใช้กับชีวิตตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แล้วก็จะบอกลูกหลาน และคนรุ่นหลังพูดถึงสิ่งที่พระองค์ทำให้กับคนไทย จะบอกเขาด้วยว่าไม่ใช่แค่รู้อย่างเดียวว่าพระองค์ทำอะไรมาบ้าง แต่ไม่ได้เอามาปรับใช้กับตัวเอง บอกอย่างเดียวไม่ได้ต้องสอนให้เขารู้ว่าเราควรจะต้องทำยังไงด้วย เพื่อที่จะสนองพระราชดำรัสจริงๆ ของพระองค์ได้ด้วย”
จะควบคุมอารมณ์ให้ได้เหมือนพระองค์ที่แม้จะมีคนไม่ชอบแต่พระองค์ไม่เคยโกรธเลย
“สิ่งแรกเลยคือ ในหลวงทรงทราบว่ามีคนไม่ชอบพระองค์ท่าน แต่ผมไม่เคยได้ยิน หรือได้เห็นว่าพระองค์ท่านจะโกรธ ไม่พอใจเลย แต่กับตัวเราแค่มีคนมาตะโกนว่าเรานิดเดียว เรายังขึ้นเลย ตรงนี้เป็นสิ่งแรกที่เราเริ่มนำเอามาปรับใช้ว่าทำไมพระองค์ท่านไม่โกรธ ท่านเป็นถึงระดับพระมหากษัตริย์ เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน มีคนว่าท่าน ท่านยังเฉย เราเป็นใคร ใครว่านิดว่าหน่อยไม่ได้เลย ไม่ยอมทันที”
“ก็เป็นเรื่องของการควบคุมอารมณ์ สองคือ เรื่องของความกตัญญูที่พระองค์ท่านมีต่อพระมารดา พระองค์เป็นถึงพระเจ้าอยู่หัว ท่านเองก็อายุมากแล้ว แต่ท่านก็ยังทรงกราบตักพระมารดา คอยประคอง นี่คือ สิ่งที่ผมเห็นแล้วรู้สึกว่าน่ารักมากๆ ลูกทุกคนควรจะปฏิบัติแบบนี้ ต่อมาเรื่องของความพอเพียง เราพูดกันไปว่าต้องรู้จักพอเพียง ต้องเศรษฐกิจพอเพียง แต่เราได้ทำรึเปล่า”
ติดตาภาพบีบหลอดยาสีฟัน ลองปฏิบัติตามบีบจนหยดสุดท้าย
“ภาพที่ผมจำติดตาเลย คือ รูปหลอดยาสีฟันของพระองค์ท่าน ที่ม้วนจนเล็กทุกวันนี้ผมก็เอามาลองทำบ้าง ใช้จนหยดสุดท้ายเอามาตัดจนหมด นี่คือ สิ่งที่ใช้ได้จริง ดูฉลองพระบาทของพระองค์ท่านใช้จนเก่าซ่อมแล้วซ่อมอีก บางคนเราๆ เป็นรอยนิดหนึ่งก็ซื้อใหม่แล้ว ตรงนี้คือต้นแบบของความพอเพียงจริงๆ”
“อีกเรื่องคือ เรื่องของการครองคู่ พระองค์ทรงเป็นต้นแบบที่ดีมากๆ ในการครองคู่ ตั้งแต่วันแรกที่เจอจนวันที่ลมหายใจสุดท้ายก็มีแต่พระราชินีเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น พูดภาษาชาวบ้านท่านเป็นต้นแบบในทุกเรื่องๆ ให้กับประชาชนชาวไทย และไม่ใช่แค่ชาวไทยตอนนี้มีหลายประเทศทั่วโลกเอาปรัชญาของพระองค์ท่านไปใช้ อันนี้คนไทยถ้าไม่ทำตามท่านนี่น่าเสียดายมากๆ ขนาดคนต่างชาติที่ไม่ได้ผูกพันกับพระองค์ท่านเรายังเห็นคุณค่าเลย แต่เราอยู่กับพระองค์ท่านมากี่สิบปี เราเคยเอามาปรับใช้กันบ้างรึเปล่า แทบจะไม่ต้องถามด้วยซ้ำว่าทำไมเราต้องรักพระองค์ท่าน พูดภาษาชาวบ้านใครไม่รักพระองค์ท่านก็บ้าแล้ว”
