xs
xsm
sm
md
lg

ผีสาวท้ายกระโปรง? หลอนคน ซวยเจ้าของ เมื่อดันพบเป็น "รถสวมทะเบียน"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เดอะช็อก! กันไปทั่วประเทศเมื่อปรากฎคลิปผู้หญิงผมยาวในชุดเดรสสั้นขาวดำนั่งอยู่บนกระโปรงท้ายของรถเก๋งสีแดง ขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่บนถนนสายหนึ่ง ซึ่งเป็นคลิปที่ผู้สื่อข่าวสำนักหนึ่งถ่ายเอาไว้ได้ ซึ่งแน่นอนว่า เหตุผลของพฤติกรรมชวนสยองครั้งนี้ คือสิ่งที่สังคมอยากรู้ เช่นเดียวกับตัวหญิงสาวปริศนาว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน แต่ที่แน่ๆ นอกจากหลอนคนแล้ว ยังซวยเจ้าของ เมื่อดันพบเป็น "รถสวมทะเบียน"

"น่าจะเป็นเรื่องแฟนทะเลาะกัน ไล่ผู้หญิงลงจากรถ แต่ผู้หญิงไม่ยอมไปไหน นั่งท้ายกระโปรงรถ ฝ่ายผู้ชายก็ออกรถแบบไม่ยอมกัน แต่ดูแล้วก็ขับระวังไม่ให้หล่นอยู่ แต่อย่างไรก็อันตรายครับ แล่นผ่านเนินอาจตกได้ อีกอย่างรถคันอื่นอาจตกใจ ทำให้รถชนกันได้ด้วย"

"โดยสารอย่างไม่คำนึงถึงความปลอดภัย อาจเป็นอันตรายแก่ตัวเอง อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่รถคันอื่น และทำให้รถคันอื่นต้องระมัดระวังมากเกินปกติ"


"สังคมนี้มีคนไร้สติมากขึ้นทุกที"


เป็นความเห็นบางส่วนของผู้ใช้สื่อสังคมโซเชียลฯ ซึ่งมีทั้งการตั้งข้อสังเกต แสดงความห่วงใย รวมไปถึงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของหญิงสาวปริศนาในคลิป


แม้ตอนนี้ ทางตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และหาพยานเพิ่มเติม แต่ก็ยังมืดแปดด้านเพราะใต้ทางด่วนพระราม 9 ไม่มีกล้องวงจรปิด แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ป้ายทะเบียนหมายเลขดังกล่าวเป็นของยี่ห้อโอเปิล มี จดทะเบียนในชื่อ "นายประเสริฐ เผือกเล็ก" เป็นเจ้าของ ถูกกรมการขนส่งทางบกระงับการใช้ไปแล้ว ซึ่งคาดว่าเป็น "รถสวมทะเบียน" ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ทำการเชิญมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผ่นป้ายทะเบียนดังกล่าว รวมไปถึงเร่งตามหาหญิงสาวปริศนาในคลิป เนื่องจากกระทำผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก ส่วนคนขับจะมีความผิดด้วยหรือไม่นั้นต้องรอสอบปากคำอีกครั้ง




ทั้งนี้ ระหว่างรอความจริงปรากฎ ปัญหาหนึ่งที่หลอนพอๆ กับหญิงสาวปริศนาในคลิปก็คือการ "สวมป้ายทะเบียน" ซึ่งเป็นภัยใกล้ตัว และน่ากลัวกว่าที่คิด เพราะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อปัญหามากมาย ทั้งปัญหาการนำรถไปใช้ในการก่ออาชญากรรม และการที่รัฐจะเสียรายได้จากการต่อทะเบียนเก็บภาษี

"การสวมทะเบียนรถนั้นมักจะมีการทำกันเป็นกระบวนการโดยมักปลอมทะเบียนโดยให้รถมีสภาพคล้ายกัน" ผศ.ดร.ปนัดดา ชำนาญสุข คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ปรึกษาโครงการพัฒนาระบบงานสอบสวนอุบัติเหตุเพื่อการแก้ไขและป้องกันอย่างบูรณาการ เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ ก่อนจะอธิบายถึงความน่ากลัวต่อไปว่า "พอรถคันนั้นทำผิดกฎหมายตำรวจก็ส่งใบสั่งไป แต่ข้อมูลที่ตำรวจมีแค่คันเดียว คันที่มีทะเบียนจริงจะได้รับ แต่คันที่ทำผิดจริงจะไม่ได้ นั่นเท่ากับคนกระทำผิดไม่ได้รับโทษแต่คนที่ไม่ได้ทำกลับโดน"


ขณะที่วิธีการจับกุมผู้สวมทะเบียนรถผิดกฎหมายในไทยนั้นก็เป็นได้ยาก เพราะไม่มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เทคโนโลยีที่ทำระบบไว้ชัดเจน ต่างกับระดับสากลที่มักจะใช้เทคโนโลยีที่สามารถเรียกดูข้อมูลต่างๆ ของรถ ทั้งลักษณะรถ หมายเลขเครื่องยนต์ คนขับและพฤติกรรมการขับขี่ได้ทันที


"ตำรวจไทยแค่มองนิดหน่อยก็มักจะโดนโวยแล้ว ตรงนี้เป็นปัญหาเหมือนกันเพราะประชาชนไม่รู้ว่ามันมีความจำเป็น นอกจากสวมทะเบียนแล้วมันมีรถขโมยมาด้วย ซึ่งมันกลายเป็นดุลยพินิจหมดเลย การจับก็มีปัญหา โอกาสที่จะจับได้มันน้อยมาก..." นักวิชาการคนเดียวกันเผยถึงปัญหาหาในการจับกุม


ปัจจุบัน ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ต้องระวัง เพราะการสวมทะเบียนถือว่ามีมากขึ้น ดังนั้น สิ่งแรกที่ควรทำหลังจากเจอใบสั่งจากรถที่สวมทะเบียน ร.ต.ต.นิคม ทองย้อย รองสารวัตรจราจร สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี เคยให้แนวว่าไว้ว่า ต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่รับผิดชอบตามใบสั่งนั้นๆ ถ้ารถมีสภาพไม่ตรงกัน เจ้าของรถต้องดำเนินการแจ้งความเพื่อป้องกันรถสวมทะเบียนที่อาจจะก่อเหตุอาชญากรรมตามมา โดยหลังนั้นทางเจ้าหน้าที่ประสานงานเพื่อทำการดักตามหารถที่สวมทะเบียนในพื้นที่นั้นทันที


สำหรับโทษตามกฎหมาย หากสวมทะเบียนรถผู้อื่น เบื้องต้นก็จะถูกดำเนินคดี "ปลอม และใช้เอกสารราชการปลอม" ตามกฎหมายอาญามาตรา 266 และ 268 มีโทษจำคุก 1-10 ปี และปรับ 20,000-200,000 บาท หรือหากเช่ารถจากเต็นท์รถแล้วนำมาสวมทะเบียนเพื่อขายต่อก็จะมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนด้วย ดังนั้น ใครที่จะซื้อรถมือสองต้องตรวจสอบให้ดีๆ ว่ามีการดัดแปลงรถสวมทะเบียนมาขายหรือไม่





มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น