สร้างความเสื่อมเสียให้แก่วงการสีกากีอีกแล้ว เมื่อสุภาพบุรุษในเครื่องแบบรายหนึ่ง ถูกแจ้งความเป็น "ไอ้หื่น" ออกอุบายชวนเด็กหญิงวัย 13 ปีไปนอนที่ห้อง ก่อนขืนใจล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งๆ ที่ตัวเด็กหวังเป็นที่พึ่งหลังหนีรอดจากยามหื่นมาได้ แต่กลับต้องมา "หนีเสือปะจระเข้" จนกลายเป็นประเด็นที่สร้างความผิดหวัง และชวนอนาถใจกับคนที่เรียกตัวเองว่า "ที่พึ่งของประชาชน"
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความเสื่อมของตำรวจไทย (บางคน) ถูกแฉให้เห็นบ่อยขึ้น ล่าสุดกับข่าวฉาวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี ที่ถูกแจ้งความข่มขืนเด็กสาววัย 13 ปีด้วยการใช้เกียรติในเครื่องแบบสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ก่อนจะพาไปพักที่แฟลต โดยอ้างว่าสถานีตำรวจไม่อนุญาตให้ประชาชนมานอนพักได้ หลังอีกฝ่ายวิ่งโร่แจ้งความเพราะถูกยามของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในปราจีนบุรีพยายามข่มขืนมาหมาดๆ แต่กลับต้องบอบช้ำอีกครั้งจากตำรวจที่ได้ชื่อว่าเป็นที่พึ่งของประชาชน
ด้านเด็กหญิง ยอมรับว่า เห็นเป็นตำรวจจึงยอมไปด้วย ก่อนจะเปิดปากเล่าพฤติกรรมของอีกฝ่ายโดยพยายามลวนลามทางเพศ ด้วยความกลัวจึงร้องให้คนช่วย แต่ถูกอีกฝ่ายใช้ปากจูบเพื่อให้เงียบ และในจังหวะนั้นจึงตัดสินใจกัดที่ริมฝีปากก่อนวิ่งหนีออกนอกห้อง และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจห้องข้างเคียงช่วยเหลือ พร้อมแจ้งญาติให้ดำเนินคดี
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปจับกุมตัวยามที่โรงพยาบาลแล้ว ส่วนสิบตำรวจโทที่ถูกแจ้งความในข้อหาข่มขืนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวเพื่อรอฟังความจากอีกฝ่ายแล้ว แต่ยังไม่พบ ส่วนเด็กหญิงผู้ตกเป็นเหยื่อได้ถูกส่งตัวไปให้แพทย์ทำการพิสูจน์ร่องรอยของการล่วงละเมิดทางเพศ รวมทั้งยาเม็ดสีเหลืองที่ได้รับมาจาก "ผู้ต้องหา" ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลภายใน 5 วัน
สุดท้ายแล้วคดีจะเป็นอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ เรื่องนี้ดังสนั่นสั่นสะเทือนวงการสีกากีแน่นอน
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้เคยมีคดีในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นมาแล้ว หากใครยังจำกันได้กับข่าวตำรวจ สน.ทองหล่อถูกลูกจ้างสาวลาวแจ้งความในข้อหาข่มขืน ในขณะที่อีกฝ่ายยอมรับว่ามีเพศสัมพันธ์จริง แต่ไม่ได้เป็นการบังคับขืนใจ หรือในปี 2555 กับข่าวอันน่าสลดใจ เมื่อนักเรียนสาวชั้นม.3 ถูกตำรวจจราจรเรียงคิวขืนใจ ซึ่งเป็น 3 ตำรวจในโครงการจิตอาสาจราจรของ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ในเขตพื้นที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ที่เด็กสาวคนนี้เข้าร่วม
แม้ความเลว ความหื่นจะขึ้นอยู่กับตัวบุคคล และมีอยู่ไม่กี่คน แต่ก็จุดประเด็นทวงถามคุณธรรมของตำรวจไทยขึ้นอีกครั้ง เพราะหากยังปล่อยให้เกิดเรื่องเสื่อมๆ ซ้ำซากแบบนี้ขึ้นอีก สโลแกน "ตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน" อาจจะต้องเลิกใช้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
ส่วนเด็ก และเยาวชน หรือแม้แต่สาวๆ เองก็ควรดูไว้เป็นอุทาหรณ์ การออกไปไหนมาไหนคนเดียวในเวลาค่ำคืน หรือเชื่อใจใครง่ายๆ เป็นอะไรที่เสี่ยงมากๆ กรณีตัวอย่างก็มีให้เห็นตามข่าวอยู่บ่อยๆ ซึ่งบางคนอาจไม่ได้โชคดีเหมือนเด็กหญิงวัย 13 ปีรายนี้
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
