MGR Online - ป.รวบ “สารวัตรกำมะลอ” อ้างสังกัดกองปราบปรามข่มขืนลูกจ้างสาววัย 17 ปี ซ้ำยังบังคับเหยื่อดูคลิปร่วมรักกับเมียปลุกอารมณ์
วันนี้ (2 ก.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 16.30 น. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.อนรรฆ ประสงค์สุข รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.กรกช ยงยืน สว.กก.2 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ป. แถลงข่าวจับกุม นายสุพรรณ พันบุรี หรือสารวัตรโจ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 261 ต.หนองสรวง อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา เลขที่ 294/2559 ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2559 ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยผู้อื่นอยู่ในสภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ ได้ที่พัฒนารีสอร์ท ต.ชากโดน อ.แกลง จ.ระยอง
พ.ต.อ.ชาคริตกล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม น.ส.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าถูกนายสุพรรณ นายจ้างอ้างตัวเป็นตำรวจยศสารวัตรสังกัดกองปราบปราม บังคับข่มขืนกระทำชำเราภายในบ้านเลขที่ 424/98 บ้านสวนทิวารี ซอยทัพพระยา 15 หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังจากเพิ่งเข้ามาทำงานเป็นแม่บ้านให้นายสุพรรณ หรือโจ ได้ไม่นาน ซ้ำยังบังคับให้ผู้เสียหายดูคลิปวิดีโอที่ผู้ต้องหากำลังมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาอีกด้วย
พ.ต.อ.ชาคริตกล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบจนพบว่านายสุพรรณไม่ได้เป็นตำรวจกองปราบปรามแต่อย่างใด พร้อมทั้งลงพื้นที่สืบหาเบาะแสจนทราบว่านายสุพรรณได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.ระยอง จึงนำกำลังเข้าไปจับกุมได้ดังกล่าว ก่อนจะขยายผลนำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยา ที่ ค.153/2559 ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2559 เข้าค้นบ้านพักผู้ต้องหา เลขที่ 424/98 บ้านสวนทิวารี ซอยทัพพระยา 15 หมู่ที่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบเสื้อยืด เสื้อกั๊กสัญลักษณ์ตำรวจ และรองเท้าหนัง ก่อนยึดไว้เป็นของกลาง
สอบสวนนายสุพรรณอ้างว่า ไม่เคยแอบอ้างว่าเป็นตำรวจกองปราบปรามแต่อย่างใด แต่ทุกคนที่รู้จักมักจะเรียกชื่อว่า “สารวัตรโจ” ยอมรับว่าชื่นชอบชื่อนี้มาก เนื่องจากมีความใฝ่ฝันว่าอยากเป็นตำรวจกองปราบปรามมาตั้งนานแล้วแต่สอบไม่ติด อย่างไรก็ตาม ขอปฏิเสธว่าเรื่องที่ถูกแจ้งความว่าข่มขืนขืนลูกจ้างสาวนั้นไม่เป็นความจริง และยืนยันว่าไม่ได้รู้จักส่วนตัวกับผู้เสียหาย และไม่เคยข่มขืนอย่างแน่นอน เรื่องทั้งหมดตนถูกกลั่นแกล้ง คาดว่าสาเหตุน่าจะเป็นเพราะตนเป็นเซียนพระพกเงินสดซื้อพระเครื่องคราวละเป็นแสนบาท นอกจากนี้ยังทำธุรกิจขายกระดาษทิชชูอีกด้วย
นายสุพรรณกล่าวต่อว่า ในวันที่ตนไปพักรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี 4 วัน ซึ่งเป็นรีสอร์ตของป้าผู้เสียหายนั้น ตนพกเงินไปเป็นเป็นแสน เมื่อป้าของผู้เสียหายได้เข้าไปทำความสะอาดน่าจะเห็นเงินจำนวนดังกล่าวและเกิดความโลภอยากได้จึงพยายามนำตัวหลานสาวมาเสนอให้ แต่ตนยืนยันว่าตนไม่ได้สนใจและไม่เคยแตะต้องตัวผู้เสียหายแน่นอน ในส่วนของเสื้อผ้าและรองเท้าที่พบในบ้านพักนั้นเป็นของเพื่อนให้ตนมา เพราะทราบว่าชื่นชอบในอาชีพตำรวจเท่านั้น แต่ยืนยันว่าไม่เคยนำไปสวมใส่ถ่ายรูป หรือแอบอ้างกับบุคคลใดแน่นอน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดนอกจากนี้ขอไม่พูดถึง และจะไปสู้ในชั้นศาลจนถึงที่สุดเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง
รายงานแจ้งว่า นายสุพรรณ หรือสารวัตรโจ อ้างว่าเคยทำงานให้กับอดีตตำรวจกองปราบปราม ตำแหน่งรอง ผกก.ท่านหนึ่ง พร้อมทั้งเดินสายเช่าพระเครื่องโดยมักสวมเครื่องแต่งกายคล้ายตำรวจ ทำทีไปหลอกเช่าพระเครื่องแต่สุดท้ายก็ไม่ได้จ่ายเงิน ที่ผ่านมาผู้เสียหายไม่กล้าเข้าแจ้งความเนื่องจากเกรงกลัว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป