"ไม่ได้ปรับค่าบริการมาเป็นเวลา 13 ปี" เป็นเหตุผลที่ "ไปรษณีย์ไทย" จะขอปรับขึ้นราคาค่าบริการหลังขาดทุนหนัก จุดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง พร้อมกับตั้งคำถาม "ถ้าขึ้นราคา คุณภาพการบริการจะดีขึ้นตามไปด้วยหรือไม่"
ทันทีที่มีกระแสข่าวขอปรับขึ้นราคาของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อปรับปรุงอัตราค่าบริการไปรษณีย์พื้นฐานในประเทศเป็นอัตราเพดานขั้นสูง ได้แก่ จดหมาย ไปรษณียบัตร ของตีพิมพ์ พัสดุไปรษณีย์ธนาณัติในประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับภาระต้นทุนที่แท้จริง เพราะไปรษณีย์ไทยไม่ได้ปรับค่าบริการมาเป็นเวลา 13 ปี อีกทั้งยังมีภาระต้นทุนเพิ่มขึ้นตามอัตาราเงินเฟ้อและต้องรับภาระเชิงสังคมถึงปีละ 1,300 ล้านบาท หากรัฐตีกลับคงต้องขอรับเงินอุดหนุนทดแทน
อย่างไรก็ดี การที่ไปรษณีย์ไทยได้เสนอขอปรับอัตราค่าบริการไปรษณีย์ขั้นพื้นฐานในประเทศใหม่ไปยังกระทรวงไอซีทีนั้น ทางผู้ใหญ่ระดับสูงออกมาชี้แจง ไม่ได้หมายความว่าจะปรับขึ้นเท่ากับเพดาน แต่จะเป็นลักษณะการทยอยปรับตามต้นทุนที่แท้จริง
ส่วนทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) ออกมาระบุว่า ต้องพิจารณารายละเอียด และเหตุผลของการขอปรับขึ้นราคาค่าบริการก่อน อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีด้วย
สำหรับรายละเอียดการขอปรับขึ้นค่าบริการไปรษณีย์มีดังนี้
จดหมาย
- น้ำหนักไม่เกิน 20 กรัม จาก 3 บาท ขึ้นเป็น 8 บาท
- น้ำหนักเกิน 20 กรัม แต่ไม่เกิน 100 กรัม จาก 5 บาท ขึ้นเป็น 10 บาท
- น้ำหนักเกิน 100 กรัม แต่ไม่เกิน 250 กรัม จาก 9 บาท ขึ้นเป็น 15 บาท
- น้ำหนักเกิน 250 กรัม แต่ไม่เกิน 500 กรัม จาก 15 บาท ขึ้นเป็น 20 บาท
- น้ำหนักเกิน 500 กรัม แต่ไม่เกิน 1,000 กรัม จาก 25 บาท ขึ้นเป็น 40 บาท
- น้ำหนักเกิน 1,000 กรัม แต่ไม่เกิน 2,000 กรัม จาก 45 บาท ขึ้นเป็น 60 บาท
ไปรษณียบัตร
- ราคา 2 บาท ขึ้นเป็น 5 บาท
พัสดุไปรษณีย์
- น้ำหนักไม่เกิน 1,000 กรัม จาก 20 บาท ขึ้นเป็น 30 บาท
- ส่วนที่เกิน 1,000 กรัม จากที่คิด 1,000 กรัมละ 15 บาท เป็นคิด 1,000 กรัมละ 20 บาท
ธนานัติในประเทศ
- 1,000 บาท จาก 10 บาทขึ้นเป็น 15 บาท
- ส่วนที่เกิน 1,000 บาท จากคิด 1,000 บาทละ 2 บาท เป็น 1,000 บาทละ 5 บาท
ของตีพิมพ์
- น้ำหนักไม่เกิน 50 กรัม จาก 3 บาท ขึ้นเป็น 8 บาท
เมื่อมาดูปฎิกิริยาของผู้ใช้บริการ "ไปรษณีย์ไทย" แม้ส่วนหนึ่งจะบอกว่า "แพง" แต่บางส่วนรับได้ถ้าขึ้นราคาแล้วมีการปรับปรุงคุณภาพการบริการให้ดีตามไปด้วย เนื่องจากที่ผ่านมา มีผลงานให้กุมขมับหลายต่อหลายข่าว ทั้ง "ข้าวของแตก" "จดหมายยับ" "สินค้าพัง" ซึ่งความ "พลาด" ทั้งที่ตั้งใจ และไม่ได้ตั้งใจเหล่านี้ คือความน่าโมโหที่ทางไปรษณีย์ไทยมักหยิบยื่นให้แก่ลูกค้าอยู่บ่อยๆ
"ขึ้นไม่มีปัญหา ขอบริการดี อย่าโยนของ อย่าขโมยของ รับผิดชอบเวลาของเสียหายให้มันเท่ากับมูลค่าของก็พอเหอะ"
"ปรับค่าบริการแล้ว อย่าลืมปรับคุณภาพการบริการด้วยนะ"
"ขึ้นไปเถอะ ไม่ว่าแต่ของมาถึงมือให้มันอยู่ในสภาพดีๆ เหมือนก่อนส่งได้มั้ย บางทีส่งของมาพังหมด กล่องก็สุดแสนจะเยิน ของข้างในก็เสียหาย พูดมาแล้วโมโห"
"ถ้าขึ้นแล้วของที่ส่งมันมาถึงหน้าบ้านก็ขึ้นเลยครับ แต่สภาพสถานที่ การบริการ การส่งยังถือว่าไม่ดีพอ ถ้าขึ้นแล้วทำให้ดีได้ คนจะเลิกด่าแน่นอน"
เป็นเสียงส่วนหนึ่งจากผู้ใช้บริการที่คงพอจะบอกเป็นเสียงดังๆ ไปถึงไปรษณีย์ไทยให้กลับไปทบทวนระบบงานให้มีคุณภาพ และรัดกุมยิ่งขึ้น เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะหมดศรัทธาจากผู้ใช้บริการไม่วันใดก็วันหนึ่ง หรืออาจจะเร็วๆ นี้ ก็เป็นได้
ขอบคุณภาพประกอบจากเพจ "ไปรษณีย์ไทย อหังการข้ามโลก"
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754