ปฏิบัติการณ์รื้อถอน รีสอร์ตรุกภูทับเบิก ต้องยุติชั่วคราว เมื่อชาวม้งลุกฮือปิดถนน แถมยื่นข้อเสนออีก กลายเป็นข่าวฮอตกระตุ้นต่อมไม่พอใจของชาวเน็ต แห่แสดงความคิดเห็นอย่างเป็นไปในทางเดียวกันคือ สนับสนุนเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างแข็งขัน อย่าปล่อยให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย และขอธรรมชาติกลับคืน
ปะทะ ปะทุ ปิดถนน
ตามคำพิพากษาศาล และคำสั่ง คสช.ที่ 35/2559 เรื่องมาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครอง และใช้ประโยชน์ที่ดินป่าภูทับเบิกในท้องที่ ต.วังบาล และ ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ โดยมีการฝ่าฝืนไม่รื้อถอนจำนวน 16 ราย จาก 19 ราย กระทั่งเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา
บัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ระดมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ปกครอง และทหารจาก ช.พัน 8 จำนวน 650 นาย เปิดปฏิบัติการรื้อถอน ได้แก่ 1. โรงเตี๊ยม 2. สานฝัน 3. คานาอัน-ร้านค้า 4. คานาอัน-บ้านพัก 5. ทับเบิกภูฏาน 6. ไร่ตายาย 7. บ้านสายหมอก 8. ภูทองคำ 9. อิงฟ้าภูทับเบิก 10. ทับเบิกวิลเลจ 11. เคียงดาว 12. มอนเตรีโอ 13. บ้านชมวิว 14.ประชารีสอร์ต 15. ทับเบิกอินดี้ (รื้อ 1 หลัง) 16. ทับเบิกอีโคแคมป์
โดยเริ่มดำเนินการรื้อถอน "โรงเตี๊ยมรีสอร์ต” 2 หลัง ตามด้วย “สานฝันรีสอร์ต” 1 หลัง ซึ่งเจ้าของรีสอร์ตพยายามโต้แย้งโดยอ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม และยังถามหาความรับผิดชอบหากสิ่งของและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย พร้อมระบุด้วยว่าด้วยระยะเวลาเพียง 1 เดือนหากให้ขนย้ายทรัพย์สินคงไม่ทัน และเป็นช่วงฝนตกทำให้เป็นอุปสรรค ด้านเจ้าของชาวม้ง ก็ยืนร่ำไห้สะอื้น บอกเงินทองที่สะสมมา บวกไปกู้หนี้ยืมสินหลายล้านมาทำอาชีพสุจริต มลายหายไปหมดสิ้น ทั้งที่ยังไม่ได้ทุนคืนเลย
“จะดำเนินการต่อทุกรีสอร์ตภายใต้เงื่อนไขเดียวกันโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ ส่วนที่จำเป็นต้องเข้ารื้อถอนโรงเตี๊ยมก่อนเพราะเป็นรายแรกที่ถูกดำเนินคดี และศาลมีคำสั่งถึงที่สุดแล้ว” ชลทิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวผ่านสื่อว่า การรื้อถอนในวันนี้เป็นไปตามคำสั่ง คสช. กระบวนการขั้นตอนจึงยึดระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นหลักซึ่งได้ประกาศแจ้งเตือนผู้ประกอบการไปแล้ว วันนี้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดำเนินการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แบ่งชุดปฏิบัติการไว้หลายชุด ทั้งชุดบันทึกข้อมูลทรัพย์สินของมีค่าต่างๆ ชุดขนย้ายสิ่งของ และชุดรื้อถอน โดยทรัพย์สินจะถูกจัดเก็บไว้อย่างดี สามารถตรวจสอบได้ นอกจากนี้ การทำงานยังเน้นความรัดกุมรอบคอบ ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ เพื่อป้องกันความผิดพลาด ส่วนกรณีเจ้าของรีสอร์ตขอเวลารื้อถอนเองสามารถกระทำร่วมกันได้
ระหว่างการรื้อถอนโรงเตี๊ยมรีสอร์ตก็เริ่มเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดแล้ว เมื่อ กุญช์ภัสส์ พัฒนฉัตรรุ่งรุจ เจ้าของรีสอร์ต แสดงอาการไม่พอใจ เดินเข้าไปสอบถามผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ จนเกิดการปะทะคารมกันขึ้น
“ช่วงเช้ายังแจ้งว่าจะรื้อถอนแบบวิญญูชน ไม่มีการใช้แบ็กโฮมาจ้วงแบบนี้” เจ้าของรีสอร์ตต่อว่า
“เมื่อไม่รื้อถอนเอง ตอนนี้จึงหมดเวลาที่จะให้ดำเนินการเอง และคำสั่งศาลสั่งให้ออกหลายปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ออก กระบวนการต่อไปทางป่าไม้ ก็ยังต้องคิดค่าเสียหาย ที่ทำให้ธรรมชาติเสียหายอีก” ผู้ว่าฯ แย้งกลับ
“ขั้นตอนยังไม่สิ้นสุด ต้องให้เจ้าพนักงานคดีบังคับคดี ทำแบบนี้ไม่ถูกต้องเป็นการรังแกประชาชน” เจ้าของรีสอร์ตตอกกลับ
เท่านั้นไม่พอ ทั้งเจ้าของและพนักงานรีสอร์ตดังกล่าวพากันไปยืนบริเวณอาคารที่รถแบ็กโฮจะเข้ารื้อต่อเนื่อง พูดด้วยว่า “หากทำกันแบบนี้ ขอยอมตายดีกว่า” เจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปเจรจาแต่ไม่สำเร็จ เลยต้องหยุดใช้รถแบ็กโฮรื้อถอน หันมารื้อถอนด้วยมือแทน
สถานการณ์ตึงเครียดหนักขึ้นไปอีก เมื่อเจ้าหน้าที่เริ่มดำเนินการรื้อถอน “คานาอัน” ซึ่งเจ้าของเป็นชาวม้ง ทำให้กลุ่มชาวม้งภูทับเบิกไม่พอใจ จึงนำรถยนต์ 3 คัน พร้อมเด็ก-ผู้หญิง มาปิดทางแยกขึ้น-ลงภูทับเบิก บริเวณหน้า “สายลมหนาว@ภูทับเบิก” ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ขึ้นลงภูทับเบิกตั้งแต่เวลา 15.20 น.เศษเป็นต้นมา
ไกรสร กองฉลาด รองผู้ว่าฯ นำทีมเจรจากับแกนนำตัวแทนชาวม้ง ซึ่งมีการยื่นข้อเรียกร้องรวม 5 ข้อ คือ
1.ให้หยุดดำเนินการรื้อถอนหลังจากการเจรจา และเคลื่อนย้ายลงจากศูนย์ปฏิบัติการ-ภูทับเบิก
2.ให้หาทางออกด้วยกันเป็นลำดับขั้นตอนโดยตัวแทนที่เกี่ยวข้องที่มีอำนาจการตัดสินใจและตัวแทนชาวบ้าน
3.ให้ทหารเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นหลัก
4.ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินให้เป็นกิจจะลักษณะตามกฎหมายที่ดินที่ชาวบ้านอยู่อาศัยมานานพึงมีพึงได้
5.ให้อาศัยกฎหมาย ม.44 ที่ประกาศแล้วนี้ ดำเนินการแก้ไขปัญหาชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดี และบังคับคดีแล้วให้เกิดความชอบธรรมให้มากที่สุด โดยไม่ให้มีการรื้อถอน และไม่ฟ้องร้องเพิ่มอีก
ในเบื้องต้นทีมเจ้าหน้าที่รับข้อเรียกร้องข้อแรกเพียงข้อเดียว ส่วนข้อเรียกร้องอื่นๆ จะรับไปพิจารณา ซึ่งแกนนำชาวม้งพอใจ แจ้งให้กลุ่มชาวม้งราว 300 คนยุติการชุมนุมปิดถนน ก่อนที่จะมีการสั่งการให้เคลื่อนย้ายเครื่องจักรทั้งหมดลงจากเขาภูทับเบิกในเย็นวันเดียวกัน
ทั้งนี้ทางผู้ว่าฯและคณะทำงาน เตรียมเชิญผู้ประกอบการรีสอร์ตบนภูทับเบิกมาประชุมเจรจาทำความเข้าใจกันในวันที่ 22 สิงหาคม ศกนี้ ณ ที่ว่าการอำเภอหล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ก่อนพิจารณาดำเนินการต่อไป
ชาวเน็ตเชียร์จนท.บังคับใช้กม.จริงจัง
“คืออะไร ทำผิดกฏหมายอยู่นะ แล้วพอรัฐจะบังคับใช้กฏหมาย ก็ปิดถนนขู่กัน #ทำอย่างงี้ก็ได้งั้นเหรอ"
ชาวเน็ตให้ความสนใจแชร์สนั่นข่าว “ด่วน! ม้งฮือปิดทางขึ้น-ลง 'ภูทับเบิก' ขวาง จนท.รื้อรีสอร์ต” ของ MGR ONLINE และแห่แสดงความคิดเห็นอยากให้เจ้าหน้าที่รื้อจริง จับจริง
“พวกผิดกฏหมายรื้อให้หมด”
“อย่ายอมกฏหมู่ สู้ๆ ครับ”
“ก็จับให้หมดสิครับ...ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่...จับจริง...ดูสิว่าไอ้ที่ถูกว่าจ้างมาจะกล้ามั้ย...ใครถูกก็ว่าไปตามถูก...ผิดก็ต้องรับโทษจริงจัง...ไม่ใช่พอผิดก็มาใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย...แล้วก็ปล่อยเงียบหายกันไป บ้านเมือง-ป่าเขา ถึงได้ฉิบหายทุกวันนี้ไงครับ”
“ไม่พอใจก็มาใช้กฏหมู่กีดขวางเจ้าหน้าที่”
“เกินไปล่ะ ผิดจนชิน”
“นี่คือคนไม่ยอมรับกฏหมาย”
“จับให้หมดอย่าให้กฎหมู่อยู่เหนือกฏหมาย”
“อย่าเอาความจนมาอ้างเพื่อที่จะทำความผิดสิ”
หวนคิดถึงธรรมชาติดั้งเดิมของภูทับเบิก ไม่ใช่รีสอร์ตเรียงรายหนาตาอย่างทุกวันนี้
“เมื่อก่อนตอนดังใหม่ๆ น่าเที่ยวกว่านี้ ตอนนั้นธรรมชาติล้วนๆ กางเต๊นท์นอน ชาวม้งมีรายใด้จากการให้เช่าที่กางเต๊นท์ จากการปลูกผักปลูกสตอเบอรี่ขายนักท่องเที่ยวตอนนี้มีแต่นายทุนมาเปิดรีสอร์ทหาประโยชน์จากพื้นที่ชาวดอย ไม่น่าขึ้นไปเที่ยวแล้ว”
“ม้งนี่แหละตัวดี ให้ที่ไปทำมาหากิน. แต่กลับเอาไปขายให้นายทุนทำรีสอร์ท ที่เดือดร้อนนี่ก็ออกหน้าให้นายทุน. ขัดขวางก็จับไปเลย ผิดคือผิด เอาเปรียบคนอื่น ได้รับโอกาสแต่พวกคุณกลับทำลายมันเอง. แล้วจะโวยวายทำไม...มาตราการทางสังคมก็ดีนะ. หยุดเที่ยว. หยุดสนับสนุน = หยุดทำลาย”
“พวกสร้างรีสอร์ทนี่เห็นแก่ตัวจริงๆ เอาเงินยัด พวกข้าราชการนอกรีตยังไม่พอ ตัดต้นไม้สร้างที่พัก ทำลายธรรมชาติ พอเกิดภัยพิบัติชาวบ้านที่อยู่ล่างเขาก็รับเต็มๆ ยังมีหน้าเอาเงินมาจ้างชาวบ้านเค้าขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่อีก พอชาวบ้านโดนจับ มันก็เผ่นหนี ยังมีหน้ามาร้องห่ม ร้องไห้อีก ว่าหากินสุจริต แบบนี้เค้าเรียกว่า ทำมาหากิน แบบเห็นแก่ตัวมากกว่า”
“เลิกเที่ยว ให้มันเจ๊งไปก่อน จะได้ธรรมชาติกลับคืนมา ค่อยไปก็ยังไม่สายครับ”
“ป่าไม่ฉิบหายหมดเพราะคนเห็น แก่ตัวพวกนี้แหละ”
และฝากถึงนายกรัฐมนตรี
“จัดการมันให้ราบไปเลยค่ะลุงตู่ อยากได้ธรรมชาติกลับคืนมา”
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754