ออร่าหนักมาก! กับภาพพริตตี้สาวในชุดสีน้ำเงินยืนกางร่ม ที่ใครเห็นเป็นต้องชื่นชมกับความสวยที่ดูเป็นธรรมชาติ มาพร้อมลุคที่หรูแพง ที่สำคัญขนาดหน้าอกหน้าใจก็ไม่ได้ดูปอดบวมเกินเหตุ ต่างจากเพื่อนร่วมอาชีพคนอื่นๆ ทำให้ ”เส้นด้าย” พริตตี้สาวชาวบุรีรัมย์ โด่งดังเป็นพลุแตก จนตอนนี้เธอมีคิวงานแน่นที่สุดคนหนึ่งของวงการพริตตี้เลยทีเดียว เอาเป็นว่าเรามาทำความรู้จักเธอให้มากกว่านี้กันดีกว่า
เพียงรูปเดียว ดังชั่วข้ามคืน!
กลายเป็นที่พูดถึงกันสนั่นโลกโซเชียล หลังเฟซบุ๊กแฟนเพจ "Chang International Circuit By Buriram United" โพสต์ภาพบรรยากาศในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ในงาน Asia Road Racing 2016 ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในนั้นมีภาพของภาพพริตตี้ในชุดสีน้ำเงิน ที่มีความสวยดูเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ดูพิมพ์นิยมเหมือนกับพริตตี้คนอื่นๆ จึงทำให้ชาวเน็ตต่างพากันชื่นชมในความน่ารักและตามสืบกันว่า เธอผู้นี้คือใครกันแน่
เส้นด้าย - พิมพ์ลดา แววไธสง คือชื่อของพริตตี้ที่ปรากฏอยู่ในภาพ เธอเปิดใจกับทีมข่าวผู้จัดการ Lite ว่า ตกใจเหมือนกันที่มีคนกดไลค์และแชร์เป็นจำนวนมาก เป็นเพราะความบังเอิญของช่างภาพแท้ๆ ที่ทำให้ได้ภาพนี้มา ซึ่งภาพนี้โลกโซเชียลต่างกดแชร์ไปกว่า 7,500 แชร์ และกดไลค์ไปกว่า 69,000 ไลค์แล้ว!
“จริงๆ แล้ว ด้ายไปทำงานนี้ประมาณ 7 ครั้งได้ ปกติสนามช้างเขาจะไม่ค่อยถ่ายภาพพริตตี้มาลงสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะถ่ายภาพการแข่งขันรถมากกว่า แต่ครั้งนี้เขาถ่ายเจาะพริตตี้ช้างทีละคน แล้วพี่ช่างภาพเขาถ่ายมาด้าย มันเป็นจังหวะที่พอดี มุมพอดี กำลังกางร่มอยู่ ไม่มีตาขาวเลยด้วยซ้ำ(หัวเราะ)
[ ภาพที่ทำให้เธอดังเป็นพลุแตก ]
ยังแซวกันอยู่ในกลุ่มเพื่อนเลยค่ะ ว่ารูปนี้ด้ายไม่มีตาขาวเลยเพราะอากาศมันร้อนมาก ยืนกางร่มบนถนนลาดยางมะตอย แล้วหยีตากันแบบ...(ทำตาหยีให้ดู) แล้วอีกอย่างที่ถามกันเข้ามาเยอะมากคือเรื่องของสีลิปสติก ด้ายจำไม่ได้แล้ว ให้กลับไปทาสีนี้ก็ทาไม่ได้เหมือนเดิมแล้ว(หัวเราะ) ต้องขอบคุณพี่โจ๊ก พี่ช่างภาพที่สนามมากๆ เลยค่ะที่ถ่ายภาพนี้ไว้”
นอกจากใบหน้าที่ดูสวยน่ารักและเป็นธรรมชาติแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอแตกต่างจากพริตตี้คนอื่นจนสังเกตได้คือ ขนาดหน้าอกหน้าใจที่ไม่ได้ดูล้ำทะลักเหมือนกันคนอื่นๆ ซึ่งเส้นด้ายบอกว่า เธอไม่ได้ทำศัลยกรรมหน้าอก แต่ลึกๆ แล้วก็มีความคิดที่จะทำเหมือนกัน
“อยากทำหน้าอกอยู่นะคะ พอเข้าไปอยู่ในกลุ่มฟาร์มนม(คำที่เธอใช้เรียกกลุ่มเพื่อนที่เป็นพริตตี้) แล้วรู้สึกแบบ…ทำไมพวกแกใช้ชีวิตกันง่ายจังเลย แค่แปะบราก็ใส่ชุดโชว์หลังได้สบายๆ แต่เราไม่มีอะ คือดันแล้วดันอีกก็ยังหลุด มันใช้ชีวิตยากนะ(หัวเราะ)
บางคนเขาทำเพื่อให้ใส่เสื้อผ้าได้สวย ทำเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อโชว์ แต่สำหรับด้าย ถ้าทำแล้วคงหมดความมั่นใจแน่นอน เพราะไม่ชอบให้คนมามองหน้าอก ขนาดเราแต่งตัวไม่โป๊ ยืนงานอยู่งานมอเตอร์โชว์หรืองานอะไร มีคนมามองหัวจรดเท้า มองอย่างนี้ทั่วร่างกาย(ทำท่าทางมองจ้อง) เรายังไม่ชอบเลย ก็นั่นแหละค่ะ เลยคิดว่าไม่ทำดีกว่า”
ส่วนเรื่องการศัลยกรรมของตนเอง เธอบอกว่า ทำแต่การเสริมจมูกอย่างเดียว ซึ่งทำมาเมื่อ 3 - 4 ปีที่แล้ว ตอนแรกไม่คิดจะทำเพราะเป็นคนที่มีเครื่องหน้าชัดเจนเป็นทุนเดิม ทั้งคิ้ว,ตา,จมูก และปาก หากคิดจะทำเพิ่มก็กลัวจะดูแข็งไปทั้งหน้า แต่ที่ทำจมูกเพราะวันนั้นเธอพาเพื่อนไปตัดไหมที่คลินิกแห่งหนึ่ง แล้วหมอก็ได้เดินมาจับจมูกพร้อมบอกว่า ‘ถ้าทำจมูกขึ้นมาโหงวเฮ้งจะดีมากนะ รับเงินรับทอง เงินทองจะไหลมากตรงนี้’ จึงตัดสินใจทำทันที พร้อมบอกว่าหลังจากทำแล้ว ชีวิตดีขึ้นมากๆ
“พอทำจมูกปุ๊บ ชีวิตด้ายดีขึ้นเยอะเลยค่ะ แต่อย่างอื่นที่ทำก็มีพวกฉีดโบท็อกซ์ทั่วไป จริงๆ คิดจะทำปากค่ะ เพราะด้ายเป็นคนปากใหญ่ แต่เพื่อนก็เบรกกันทุกคนว่าอย่าทำ ไม่งั้นมันจะบล็อกเดียวกันหมด อย่างนี้ดีแล้ว น่ารักแล้ว(ยิ้ม)”
เคล็ดลับความสวยแบบฉบับของ “เส้นด้าย” ด้วยตารางงานที่แน่นจนแทบไม่มีเวลาพัก ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า เธอเอาเวลาที่ไหนไปดูแลรูปร่างตัวเองให้เป๊ะปังตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบนี้ จึงได้แอบถามถึงเคล็ดลับการดูแลตัวเองตามแบบฉบับของเธอมาให้สาวๆ ได้จดสูตรกัน “เมื่อประมาณเดือนกันยายนปีที่แล้ว เป็นช่วงที่ด้ายอ้วนมาก จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็อ้วนมาสักพักแล้ว น้ำหนักพุ่งไปถึง 65 กิโลกรัม ประกอบกับเป็นคนที่โครงใหญ่อยู่แล้ว สูงถึง 175 เซนติเมตร ตอนนั้นตัวหนามาก พอดีเป็นช่วงที่กลับมาจากการไปเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์ ไปเที่ยวมาประมาณ 5 - 6 วัน ด้ายปาร์ตี้ทุกวันจนเหนื่อย พอกลับมาก็ไม่อยากกินอะไรไปเอง พอเบื่อข้าว แม่ก็ทำพวกแกงจืดกับผัดผักให้กิน กินอยู่อย่างนั้นประมาณ 11 วัน แล้วเหมือนกระเพาะมันเล็กลง เลยลองไปชั่งน้ำหนัก น้ำหนักด้ายลดลงไป 3 กิโลกรัมได้ เลยรู้สึกว่าพอจะมีความหวังแล้ว เลยตั้งใจงดแป้ง คือทำงานอย่างนี้มันไม่มีเวลาออกกำลังกายอยู่แล้ว แถมยังกลับบ้านดึก ก่อนอาบน้ำด้ายจะเล่น Fast Cardio คือเล่นไม่กี่นาทีแต่มันได้เหงื่อ หัวใจเต้นเร็ว แล้วก็จะมี Sqaut เพื่อเก็บหุ่น แล้วก็ลดหุ่นไปในตัวค่ะ” |
ก้าวเข้าสู่เส้นทาง‘สายพริตตี้’
หลังจากเป็นที่โด่งดังเป็นพลุแตกในโลกโซเชียล ก็ทำให้พริตตี้คนสวยคนนี้ มีงานเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งมีทั้งงานพริตตี้และงาน Mc ที่เธอทำอยู่ นอกจากนี้ยังมีงานโฆษณา ซีรีส์ และละคร ที่กำลังอยู่ในช่วงตกลงในเรื่องของบทและคาแรกเตอร์ แต่เธอขออุบรายละเอียดไว้ก่อน
แต่ก่อนที่จะมาเป็นพริตตี้นั้น เธอเคยชิมลางและมีผลในวงการบันเทิงมาบ้างแล้วตั้งแต่เธออายุ 18 - 19 ปี คือการเล่นโฆษณาต่างๆ ทั้งการโฆษณาหมากฝรั่ง,ตู้เย็น,ขนมคัสตาร์ดเค้ก,โลชันทากันยุง รวมไปถึงรถยนต์ชื่อดัง บางชิ้นได้เป็นตัวประกอบ บางชิ้นก็เป็นตัวหลักเลย
พริตตี้หน้าเป๊ะวัย 25 ปี ได้เล่าว่า เธอเริ่มเข้าสู่วงการพริตตี้เมื่อประมาณปลายปี 2557 มีเพื่อนได้ส่งงานมาให้เธอดู เป็นการประกาศหา Brand Ambassador ของค่าย Isuzu ซึ่งรับสมัครทีมประชาสัมพันธ์พิเศษ และมีการประกวด ผลก็คือ เธอได้เป็น 1 ใน 10 คนที่ได้รับการคัดเลือก และมีการเซ็นสัญญาทำงานกับ Isuzu เป็นเวลา 1 ปี
“ด้ายไม่เคยคิดจะเข้ามาวงการพริตตี้เลย เพราะคิดว่าเราคงทำไม่ได้ ขนาดก่อนหน้านี้เรายังมองภาพพริตตี้ว่าต้องแต่งตัวโป๊นะ ต้องเอ็กซ์แตกนะ ต้องโชว์อะไรแบบนี้ พอด้ายเข้ามาทำจริงๆ เลยพยายาม Keep Look ให้มากที่สุด ให้รู้ว่าพริตตี้ก็ไม่ได้โชว์โป๊ไปซะทุกคน
ด้ายค่อนข้างกังวลเรื่องภาพลักษณ์ จึงต้องถามรายละเอียดให้ดีก่อนเลือกรับงานว่าเป็นงานเป็นยังไง ชุดเป็นยังไง ส่วนงานเซ็กซีด้ายไม่เคยรับนะ บิกินีก็ไม่เคยรับ แต่บางชุดอาจจะเป็นชุดที่เว้าลงมาหน่อย แบบนั้นโอเค โชคดีที่เราไม่มีหน้าอก จะเว้ายังไงก็ไม่โป๊ค่ะ(หัวเราะ)”
นอกจากนี้เส้นด้ายยังเปิดเผยถึงประสบการณ์แปลกๆ ที่เคยพบเจอในการทำอาชีพนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะทำทีเข้ามาในลักษณะเหมือนจะมาจีบ พริตตี้คนสวยเล่าว่า บางคนเอากุญแจรถมาวางให้ก็มี!
“บางครั้งเจอคนได้เจอคนแปลกๆ ก็มีค่ะ เข้ามาทำความรู้จักบ้าง โชว์พาวเวอร์นู่นนี่ บางคนเข้ามาจีบแล้ววางกุญแจรถให้ก็มี หรือเวลามีคนขอถ่ายรูปก็จะโอบเอว โอบไหล ถึงเนื้อถึงตัวกันเลย ซึ่งพริตตี้อย่างเราต้องมีทริคในการปฏิเสธไม่ให้ดูน่าเกลียด และไม่ทำให้เขาเสียหน้า
การเป็นพริตตี้ไม่ได้เป็นกันง่ายๆ นะคะ สิ่งสำคัญคือต้องมีปฏิภาณไหวพริบ รู้จักการเอาตัวรอด รู้จักการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ถ้าเจอคนมาขอถ่ายรูปแล้วถึงเนื้อถึงตัว ด้ายจะขยับแล้วบอกว่า ‘พี่คะ จับไม่ได้นะคะ พี่มาโอบแล้วเดี๋ยวคนอื่นจะทำด้วย เดี๋ยวมันจะเป็นเรื่องใหญ่แล้วจะยาวนะคะ พอก่อน(ลากเสียงยาว)’ เหมือนเป็นการปฏิเสธแบบขำๆ ไป จะไม่ไปว่าให้เขาเสียหน้า จะพยายามทำทุกอย่างให้จบด้วยดีดีกว่า”
สำหรับจุดเด่นของตนเองที่ทำให้มีแต่คนอยากร่วมงานกับเธอ เส้นด้ายมองว่า ตัวเธอเป็นคนที่ยิ้มแย้มแจ่มใจ พูดจาตรงไปตรงมา เป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี ไม่หยิ่งและไม่ถือตัว ประกอบกับรูปร่างที่สมส่วน และส่วนสูง 172 เซนติเมตร จึงทำให้มีงานเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือเรื่องของการวางตัว แม้แต่เธอที่เป็นพริตตี้เองยังบอกว่า คนส่วนใหญ่จะมองอาชีพนี้ในแง่ลบ เธอจึงพยายามทำให้เห็นว่า พริตตี้ก็มีหลายแบบ อยากให้แยะแยะและอย่ามองแบบเหมารวมว่าพริตตี้ทุกคนจะไม่ดี เพราะหากทำตัวไม่ดี มันจะยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ดูแย่ลงไปอีก ซึ่งตัวเธอเองก็พยายามระวังตัวในจุดนี้มากมากเป็นพิเศษ
ตัวแสบของบ้าน ตัวจี๊ดของเพื่อน
กว่าจะมาถึงวันนี้ ครอบครัวแววไธสงคือหนึ่งในกำลังใจสำคัญ เธอเติบโตขึ้นมาที่อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ เรียกได้ว่าเป็นสาวอีสานขนานแท้ ซึ่งในครอบครัวของเธอจะมีวิธีการเลี้ยงดูเป็นครอบครัวใหญ่ คือทุกคนจะช่วยกันเลี้ยงดูลูกหลานด้วยกันหมด อย่างเช่น ตัวของเส้นด้ายเองเป็นลูกคนเดียว นอกจากแม่ของเธอแล้ว ก็จะมีน้าและอามาช่วยเลี้ยงเธอ ส่วนลูกของน้าและอา แม่ของเธอก็จะช่วยเลี้ยงเช่นกัน แต่ถึงจะมีลูกพี่ลูกน้องที่คอยเป็นเพื่อนเล่น ลูกคนเดียวอย่างเธอยอมรับว่า เหงาไม่น้อย
“ด้ายคิดว่าถ้าในอนาคตด้ายแต่งงานมีครอบครัว คงไม่คิดจะมีลูกคนเดียว เพราะรู้ว่ามันเหงา แล้วจะโหยหาเพื่อน ด้ายเลยเป็นคนที่รักเพื่อนมาก เพื่อนต้องมาอันดับหนึ่ง ส่วนวัยเด็กที่โตมาด้วยกันก็จะเป็นลูกของน้าบ้าง ลูกของอาบ้าง ซึ่งพวกผู้ใหญ่จะมีลูกคนเดียวกันหมด
นิสัยด้ายค่อนข้างเอาแต่ใจมากๆ ตอนเด็กๆ เหมือนโดนสปอยล์เยอะ คือถ้าแม่ทำให้ไม่พอใจก็จะเงียบ คนอื่นก็จะเข้ามาโอ๋ แต่ถ้าคนอื่นดุ แม่ก็จะมาโอ๋ เป็นคนที่ถูกเอาใจมาตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ เลยทำให้นิสัยเสียมาจนถึงตอนนี้(หัวเราะ)”
ส่วนเพื่อนในวัยเด็กนอกเหนือจากลูกพี่ลูกน้องที่โตมาด้วยกัน เธอยังมีกลุ่มเพื่อนทั้งหญิงและชาย แต่ยอมรับว่าส่วนใหญ่จะถูกคอกับเพื่อนผู้ชายมากกว่า เพราะเป็นคนที่มีนิสัยห้าวๆ แมนๆ หากรู้จักกันดีแล้ว จะมีความเป็นผู้หญิงอยู่แต่ไม่ค่อยแสดงออก เนื่องจากเธอไม่อยากทำตัวให้เป็นภาระของใคร สิ่งที่เธอชอบคือ การสร้างเสียงหัวเราะให้กับเพื่อนๆ จนเพื่อนยกเธอให้เป็นตัวจี๊ดประจำกลุ่มเลยทีเดียว เรียกได้ว่ามีเส้นด้ายที่ไหนมีเสียงหัวเราะที่นั่น
ส่วนเรื่องชื่อเล่นที่ทั้งแปลกและน่ารัก หลายคนอาจจะสะดุดเมื่อได้ยิน ที่เธอบอกว่าชื่อเส้นด้ายนั้นมีที่มาที่ไป และไม่ใช่ชื่อเล่นที่ใช้สำหรับเข้าวงการ หากแต่เป็นชื่อจริงที่ย่าของเธอตั้งให้ โดยชื่อเล่นตั้งแต่แต่เกิดที่พ่อแม่ตั้งให้คือ “ไข่มุก” แต่ตอนที่เธออายุ 6 เดือน พ่อและแม่มีปัญหากันจึงตัดสินใจพาลูกกลับไปอยู่กับตายาย หลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยเจอพ่อเลย จนอายุได้ประมาณ 8 ขวบ พ่อได้ให้ผู้ใหญ่เข้ามาพูดคุยและกลับมาคืนดีกัน พ่อได้พาเธอไปหาย่าที่ไม่เคยเจอหน้าหลานเลย แล้วย่าได้ตั้งชื่อเล่นให้เธอใหม่ว่า “เส้นด้าย” เปรียบเสมือนเส้นด้ายที่ทำให้พ่อและแม่กลับมาผูกพันกันอีกครั้ง
“ไวท์” หนุ่มผู้กุมหัวใจ “เส้นด้าย” หนุ่มๆ ทั่วประเทศเตรียมตัวอกหักกันได้เลย เพราะสาวเส้นด้ายนั้นยอมรับว่า ปัจจุบันนี้มีคนดูแลหัวใจเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจุดเริ่มต้นความรักของทั้งคู่นั้น เกิดจากการกดไลค์ในอินสตาแกรม! “เราอายุห่างกัน 3 ปีค่ะ ด้าย 25 เขา 28 คบกันประมาณเกือบ 2 ปีแล้วค่ะ เจอกันในไอจี(หัวเราะ) เขามากดไลค์รัวๆ ใส่เรา เลยเข้าไปดูว่าเป็นใคร จริงๆ แล้วเขาไม่ใช่สเปคด้าย ด้ายเลยไม่สนใจ แต่พอเลื่อนๆ ไปเจอรูปหนึ่ง เป็นรูปที่เขาถ่ายที่ universal studio ประเทศสิงคโปร์ ตรงพื้นมันเป็นคำที่เขียนว่า STOP ตัวโตๆ แล้วด้ายก็ไปถ่ายตรงนั้นเหมือนกัน ด้ายไปหลังจากเขาประมาณ 1 เดือน แต่เราไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลยนะ บังเอิญถ่ายตรงจุดเดียวกันโดยที่เราไม่คิดว่าจะมีคนอื่นถ่ายด้วย ตอนที่ด้ายถ่าย จังหวะนั้นเหมือนเป็นอารมณ์อกหัก ผู้ชายเท(ความหมายประมาณว่า ‘ถูกทิ้ง’) ก็เลยไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อนให้สบายใจ เขาบอกว่าตอนที่ถ่ายก็เป็นอารมณ์นั้นเหมือนกัน เราบอกเขาว่าทำไมถ่ายเหมือนกัน เขาก็ถามมีจริงเหรอ เราเลย โอเคเดี๋ยวลงให้ดู พอด้ายลงก็เลยแท็กเขาให้มาดูรูป ตรงนี้เลยเป็นจุดที่เริ่มคุยกัน เหมือนกับว่าเคมีตรงกัน แล้วเขาก็เป็นคนที่ดีมากคนหนึ่งเลยค่ะ(ยิ้ม)” |
พริตตี้ลูกอีสาน
นอกจากงานพริตตี้และ Mc ที่ทำอยู่ก่อนแล้ว พอเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ก็ทำให้ ‘เส้นด้าย’ มีงานเข้าชนิดที่ว่า แทบจะไม่มีเวลาหายใจ แต่ตราบใดที่ยังมีแรงทำ พริตตี้คนเก่งบอกว่า สู้ไหวแน่นอน!
“ก่อนหน้านี้ด้ายดรอปเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงไว้ก่อน เพราะต้องรับงานที่มีติดๆ กัน ประมาณ 3 - 4 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่มีงานเข้ามาเยอะมากจริงๆ แล้วกำลังสนุกกับงานด้วย แต่เรื่องการเรียนด้ายก็ไม่ได้ทิ้งซะทีเดียว วันที่ 10 มิถุนายนนี้ก็จะเปิดเทอมแล้ว เดี๋ยวก็จะกลับไปเรียนแล้วค่ะ
ปกติแล้ว ด้ายจะทำงานอย่างต่ำวันละ 4 ชั่วโมง ซึ่งก็แล้วแต่คิวและค่าตอบแทนที่จะได้รับ แต่ส่วนใหญ่แล้ว 1 คิวคือ 6 ชั่วโมง ซึ่งเรตของด้ายอย่างต่ำคือ 3,000 บาท จะมีรายได้รวมต่อเดือนประมาณเกือบแสนบาท แต่พอหลังจากมีคนรู้จักและจ้างงานด้ายมากขึ้น ก็ทำให้มีรายได้มากขึ้นไปด้วย อย่างเดือนนี้ก็ได้เกือบสองแสนห้าหมื่นบาทเลยค่ะ ต้องขอบคุณทุกคนมากๆ ที่ให้โอกาสด้าย(ยิ้มกว้าง)”
ถึงแม้เธอต้องเข้ามาทำงานและปักหลักใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่เธอก็มีเวลากลับไปเยี่ยมครอบครัวที่จังหวัดบุรีรัมย์อยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากเธอเป็นพริตตี้ของสนามช้าง ซึ่งจะมีการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์อยู่ทุกเดือน พอมีเวลาว่างก็จะแวะกลับไปที่บ้าน หรือถ้าเธอไม่ได้รับงานก็จะพักอยู่บ้านต่อ เพื่อใช้เวลาร่วมกับครอบครัวและทำกิจกรรมร่วมกัน
[ เส้นด้ายและคุณแม่ ]
แต่ก็มีประเด็นดรามาขึ้นมาว่า หลังจากที่เธอโด่งดังแล้วก็กลายเป็นคนลืมตัว ทำตัวไฮโซ และลืมครอบครัวที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งทำให้เธอค่อนข้างเครียดกับคำกล่าวหานี้ และขอใช้โอกาสนี้ในการชี้แจง
“ด้ายรู้ตัวว่า ด้ายทำงานมาได้ก็ส่งเงินให้พ่อกับแม่ตลอด แต่จริงๆ เรื่องนี้พ่อกับแม่เขาปล่อยวางแล้ว ด้ายส่งเงินให้พ่อกับแม่ใช้อย่างต่ำๆ ก็เดือนละหมื่นบาท บางเดือนที่ได้เยอะก็ส่งให้เป็นแสน เขาอยากได้อะไรก็คอยซื้อให้ตลอด บางคนเขาถามว่า ทำไมไม่สร้างบ้านหลังใหญ่โตให้พ่อแม่ คือบ้านที่ต่างจังหวัดของด้ายนี่แบบสไตล์ลูกทุ่งมาก บ้านนอกของบ้านนอกอีกที จะให้ไปทำแบบใหญ่โตฟู่ฟ่า มันก็จะแปลกไปจากคนอื่น”
ปัจจุบันพ่อและแม่ของเส้นด้ายไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ซึ่งเธออยากให้ทั้งคู่ได้พักผ่อนเพราะอายุมากแล้ว แต่ก็จะมีทำนาปลูกข้าวไว้กินเองบ้าง นอกจากนี้ยังมีฟาร์มวัวเล็กๆ เป็นวัวพันธุ์ฮินดูบรามันที่พ่อของเธอเลี้ยงไว้ ประมาณ 16 ตัว
“ด้ายไม่เคยอายว่าตัวเองเป็นคนอีสาน ด้ายพูดภาษาอีสาน ด้ายบอกตลอดว่าตัวเองเป็นคนอำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ พ่อกับแม่ก็อยู่บุรีรัมย์ ไม่เคยหลอกใครอยู่แล้ว”
ปัจจุบันเส้นด้ายกำลังศึกษาอยู่ที่คณะบริหารการจัดการ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเหลือเวลาอีก 2 เทอมก็จบสำเร็จการศึกษาแล้ว แต่ก่อนที่จะเข้าเรียนที่นี่ เธอเคยเกือบจะได้เป็นผู้ช่วยทันตแพทย์มาแล้ว!
“ที่ด้ายเลือกเรียนคณะบริหารเพราะว่า เพิ่งตอบตัวเองได้ว่าชอบอะไร แล้วจะดำเนินชีวิตไปทางไหน ตอนแรกที่แม่ให้เรียนผู้ช่วยทันตแพทย์ เพราะด้ายสอบติดมหิดล ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เป็นที่ยอมรับ แต่ส่วนตัวแล้วด้ายเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง ไม่ชอบที่จะเรียนแล้วจบอยู่ตรงนั้น ถึงไม่ต่อก็ไม่น่าจะเวิร์คสำหรับเรา เลยออกมาเทียบโอนที่รามฯ ดีกว่า แต่ที่มหิดลด้ายได้ใบประกาศนียบัตรของผู้ช่วยทันตแพทย์แล้วนะคะ สามารถทำงานด้านนี้ได้เลย(ยิ้ม)”
เมื่อพูดคุยถึงเรื่องการเรียนแล้ว ทำให้ทราบว่า พริตตี้คนดังเรียนเก่งไม่เบาทีเดียว โดยสมัยมัธยมศึกษาตอนปลาย เธอเลือกเรียนสายวิทย์ - คณิตฯ ที่โรงเรียนลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ และแอดมิชชันติดที่ ม.ขอนแก่น แต่เลือกที่จะเข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯแทน เพราะเธอมีญาติอีกครึ่งหนึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ หากเรียนที่นี่ก็จะได้มีคนคอยดูแลเธอด้วย
และด้วยความที่เรียนคณะบริหารการจัดการ เธอจึงใช้ความรู้ที่เรียนมาต่อยอด และมองอนาคตไว้ว่า อยากมีธุรกิจส่วนตัว ซึ่งปัจจุบันนี้นอกจากการงานพริตตี้หรืองานอื่นๆ ในวงการบันเทิง เธอยังเป็นเจ้าของร้านอาหารและธุรกิจเสื้อผ้าอีกต่างหาก
“ตอนแรกตั้งใจว่าหลังจากจบงานของ Isuzu ก็จะไม่ทำพริตตี้อีก แต่หลังจากนั้นก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งด้ายคงไม่หยุดไปเลยซะทีเดียว ในอนาคตรายได้หลักคงไม่ได้มาจากการเป็นพริตตี้ ก็คงจะเลือกรับเป็นงานๆ ไป จริงๆ แล้ว ด้ายอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เพราะชอบทำธุรกิจ ชอบมีคอนเนกชัน ชอบไปเจอผู้คนหลายๆ รูปแบบ แต่ที่คิดไว้อยากมีร้านอาหาร ร้านขนมเพิ่ม เพราะตอนนี้ด้ายมีอยู่แล้วร้านนึงที่บุรีรัมย์ ชื่อร้าน iRoof Bar&bistro เป็นร้านนั่งชิล ขายอาหารขายเครื่องดื่มค่ะ
แล้วด้ายก็มีร้านเสื้อผ้าที่ร่วมหุ้นกัน 2 คนกับแฟน ชื่อแบรนด์ Rudolph the reindeer ตอนนี้กำลังไปได้ดี มียอดขายดีมากค่ะ เสื้อผ้าทั้งหมดด้ายดีไซน์เอง ออกแบบเอง ทำการตลาดเอง เป็นแบบ Unisex ที่สามารถใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ปกติแล้วจะขายทางออนไลน์ค่ะ ยังไม่มีหน้าร้านแต่จะออกตามบู้ทแทน อย่างตลาด Art Box ที่เคยไปเปิดบู้ทขายก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากค่ะ”
ถึงแม้เธอจะมีอายุเพียง 25 ปี แต่กลับมีความสามารถที่เรียกได้ว่า เกินตัวจริงๆ กับพริตตี้สาวคนนี้ แถมเรื่องความรักก็ไปได้สวยจนถึงขึ้นมีธุรกิจร่วมกัน เรียกได้ว่า lucky in game และ lucky in love กันเลยทีเดียว ก็ต้องคอยดูกันต่อไปในอนาคต เราจะได้เห็นธุรกิจใหม่ๆ หรือผลงานทางหน้าจอของสาวเส้นด้ายคนนี้อีกแน่นอน
ชื่อ : พิมพ์ลดา แววไธสง
ชื่อเล่น : เส้นด้าย
น้ำหนัก : 50 กิโลกรัม
ส่วนสูง : 172 เซนติเมตร
สัดส่วน : 33 - 25 -35
การศึกษา : คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ผลงาน : พริตตี้,Mc,ถ่ายแบบ,ถ่ายโฆษณา และกำลังจะมีซีรีส์เร็วๆ นี้
เรื่อง : กีรติ เอี่ยมโสภณ
ภาพ : วชิร สายจำปา
ขอบคุณภาพประกอบ : เฟซบุ๊ก ‘Pimladar Daiyy Wawtaisong’,"Chang International Circuit By Buriram United" และอินสตาแกรม@pimlar_daiiyy
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754