นี่คนหรือวัด!!? ชุดประจำชาติมิสยูนิเวิร์สปีนี้ ดีไซน์เป็นเจดีย์สีทองอร่าม ได้แนวคิดจากเจดีย์วัดพระแก้ว โลกออนไลน์จวกยับ ไม่เหมาะสมอย่างแรง เอาของสูงมาทำแบบนี้ แถมสวมใส่แล้วไม่อ่อนช้อยสวยงาม บ้างก็นำชุดไปเปรียบเทียบกับโกศใส่กระดูก!
“สุวรรณเจดีย์” แรงบันดาลใจจาก เจดีย์วัดพระแก้ว
‘มิสซิสยูนิเวิร์ส’ คือเวทีการประกวดสาวงามที่สมรสแล้วระดับนานาชาติ ซึ่งในปีนี้ ยุ้ย - กันธิชา ฉิมศิริ เป็นตัวแทนสาวไทย ที่จะเดินทางไปประกวดที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งมีการเปิดตัวชุดประจำชาติที่จะใช้ประกวดให้สื่อมวลชนได้รับชม
ชุดประจำชาติที่กองประกวดมิสซิสยูนิเวิร์ส 2016 ได้นำเสนอ คือชุด ‘สุวรรณเจดีย์’ โดยชุดมีลักษณะเป็นชุดไทยและมีเครื่องประดับสีทอง คล้ายกับเจดีย์ทางพระพุทธศาสนาครอบอยู่ครึ่งตัว โดยผู้ออกแบบชุดเปิดเผยว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากเจดีย์ทรงระฆังในวัดพระแก้ว เป็นสถาปัตยกรรมที่เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ ใช้เครื่องประดับเป็นช่อฟ้าและโพธิ์ทอง ซึ่งชุดและเครื่องประดับมีน้ำหนักรวมกันว่า 5 กิโลกรัม และมีราคาประมาณ 5 หมื่นบาท
หลังจากที่ภาพของชุดดังกล่าวเผยแพร่ออกไป เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมมากมาย ความคิดเห็นส่วนใหญ่มองว่า ไม่ควรนำของที่เคารพบูชาในพระพุทธศาสนาอย่างเจดีย์มาออกแบบเป็นชุด เพราะเอกลักษณ์ความเป็นไทยสามารถสื่อสารผ่านสิ่งอื่นได้
ส่วนเรื่องความสวยงามหลายความเห็นบอกว่า ไม่ได้ส่งเสริมให้ผู้ที่สวมใส่ดูสวยงามขึ้น แต่กลับทำให้ผู้ใส่ดูตันและไม่ได้เห็นความสวยงามของสรีระ พร้อมแสดงความเป็นห่วงว่าหากใส่นานๆ จะเกิดอาการเหน็บชาหรือไม่ เพราะส่วนที่เป็นเจดีย์ได้ครอบตัวตัวลงมาถึงช่วงเอว บางความเห็นยังเปรียบเทียบแรงว่า ไม่ต่างอะไรกับโกศทองเหลืองใส่กระดูก!
“มีสัญลักษณ์อะไรเยอะแยะที่น่าเผยแพร่ให้ต่างชาติสนใจ แต่เอาแบบเจดีย์มา ดูไม่เหมาะสมเพราะถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นของสูง เกิดทำอะไรไม่ดีขึ้นมา เทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ชอบจะเป็นอัปมงคล และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงๆนะตรงนี้ ไม่ควรอย่างยิ่ง”
“มองผ่านๆ นึกว่าโกศใส่กระดูกที่เป็นทองเหลือง #อย่าว่าเรานะเห็นแว่บแรกคิดแบบนั้นจริงๆ”
“คนออกแบบได้คำนึงถึงความเหมาะสมในการใช้เจดีย์มาทำชุดหรือไม่ เห็นชุดตุ๊กตุ๊กออกแบบได้น่ารักและมีความเหมาะสมมากกว่านะครับ”
“Idea เหมือนจะดี แต่ ดูยังไงยังไงก็ไม่สวย การออกแบบชุดไม่ลงตัวสัดส่วนเสื้อผ้า ไม่ส่งเสริมรูปร่างผู้สวมใส่ ดูแล้วพิลึกอึดอัด ทั้งช่วงคอและลำตัว”
แม้จะมีกระแสโจมตีมากมายในเรื่องความไม่เหมาะสม แต่ถึงอย่างไรก็ต้องร่วมส่งกำลังใจให้สาวงามจากไทยในการประกวดครั้งนี้ ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า ชุดสุวรรณเจดีย์จะสามารถคว้ารางวัลชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยมกลับมาให้คนไทยได้หรือไม่
สาวงามจากไทย นักล่ารางวัลชุดประจำชาติ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่ประเทศไทยส่งสาวงามเข้าประกวดในเวทีระดับโลก ชุดประจำชาติของไทยถือได้ว่าเป็นสีสัน และเป็นที่จับตามองของสื่อต่างชาติเป็นอย่างมาก นำมาซึ่งความภาคภูมิใจของคนทั้งชาติที่ได้เผยแพร่ความเป็นไทยออกสู่สายตาชาวต่างชาติ
เมื่อปลายปี 2558 แนท - อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ ได้สร้างความตกตะลึงให้กับวงการนางงาม เพราะนอกจากจะมีใบหน้าที่สวยเก๋ดูหรูแพง บวกกับผิวสีแทนสุด STRONG และบุคลิกที่สดใสมั่นใจ ทำให้เธอฝ่าด่านเข้าไปถึงรอบ 10 คนสุดท้ายของการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2015 และสามารถคว้ารางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมกลับมาให้คนไทยเป็นผลสำเร็จ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ‘ชุดต๊กตุ๊กไทยแลนด์’ ที่แนทสวมใส่ ก็โดนกระแสวิจารณ์ด้านลบโจมตีมาโดยตลอด
แต่ก็ไม่ใช่ปีแรกที่ชุดประจำชาติของไทยได้รับรางวัล เพราะหากย้อนกลับไปเมื่อปี 2512 สาวไทยคนแรกที่คว้ารางวัลนี้มาครองคือ แสงเดือน แม้นวงศ์ ในชุดที่มีชื่อว่า ‘นางละคร’ สางงามคนที่สองที่ได้รางวัลนี้คือ ปุ๋ย - ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ในชุดที่ได้แนวคิดมาจากฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และได้ครองมงกุฎนางงามจักรวาลในปี 2531 อีกด้วย
น้อด - ชนันภรณ์ รสจันทน์ สาวงามคนที่สามที่ได้รางวัลนี้ในปีที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการประกวดเอง ในปี 2548 จนมาถึงปี 2551 ที่ชุดประจำชาติของไทยได้ฉีกแนวออกไป ผ่านการนำเสนอผ่านชุดไทยประยุกต์ที่เอาศิลปะการป้องกันตัวอย่างมวยไทยเข้าไปผสมผสานด้วย ซึ่งมีทั้งความอ่อนช้อยสวยงามและแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน ในชื่อชุด ‘สปิริต ออฟ ไฟต์ติ้ง’ ทำให้ แก้ม - กวินตรา โพธิจักร ตัวแทนสาวงามจากไทยในปีนั้นคว้ารางวัลไปครองอย่างไม่ต้องสงสัย
สาวไทยหน้าคมเข้ม ปุ๊กลุก - ฝนทิพย์ วัชรตระกูล ที่นอกจากจะได้รางวัลขวัญใจช่างภาพแล้ว ยังได้รางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมไปครองในปี 2553 กับชุดไทยประยุกต์ ‘สยามไอยรา’ ที่นำช้างซึ่งเป็นสัตว์ประจำชาติของไทย มาเป็นไอเดียในการออกแบบเครื่องแต่งกายและทรงผม
อีกชุดหนึ่งที่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากเช่นกัน คือชุด ‘เหมราชนารี’ ที่สวมใส่โดย ฟ้า - ชัญษร สาครจันทร์ ซึ่งชุดนี้เป็นชุดซีทรูสีดำทอง บริเวณหน้าอกมีเครื่องประดับสีทองขดเป็นก้นหอย บ้างก็เอาไปเปรียบเทียบกับชุดของนางโชว์ และอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าจะทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยจะดูแย่ลงในสายตาต่างชาติ จนบางคนตั้งคำถามว่า ชุดนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเลดี้กาก้าหรือไม่? แต่สุดท้าย ‘เหมราชนารี’ ก็ได้รับ รางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมอันดับสามไป ในปี 2554
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แนวคิดการผสมผสานความเป็นไทยให้เข้ากับเครื่องแต่งกายแบบนี้ กวาดรางวัลการันตีตำแหน่งสุดยอดชุดประจำชาติมาแล้วถึง 7 ครั้ง คงต้องรอลุ้นกันต่อไปว่า ชุดแหวกขนบในเวทีมิสซิสยูนิเวิร์สครั้งนี้ จะทำให้คนที่สบประมาทเอาไว้ อึ้ง!เหมือนเมื่อครั้งชุดตุ๊กตุ๊กไทยแลนด์อีกหรือเปล่า?
ข่าวโดย : ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพประกอบ : เฟซบุ๊ก ‘Kanthicha Chimsisi’,‘T-pageant’ และ Miss Universe Thailand (FanPage)
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754