แห่แชร์กันกระจายดังปังทั่วโลกโซเชียลฯ กับภาพของคุณหมอสาวสวย ดีกรีสัตวแพทย์ ใบหน้าละม้ายคล้ายนักแสดงหน้าสวย ติ๊ก-กัญญารัตน์ ,น้ำผึ้ง -ณัฐริกา และ เก้า-สุภัสสรา ผสมผสานสวยหวานอย่างลงตัว จนต้องติดแฮชแท็ก #คุณหมอสวยบอกต่อ กันเลยทีเดียว เป็นภาพที่คุณหมอกำลังอุ้มน้องแมวหมียว ในอิริยาบถสุดน่ารัก จนเจ้าของแมววอดใจไม่ไหวต้องแอบเชะภาพมาแชร์
ทีมผู้จัดการ Lite จึงต้องขอตามมาสัมภาษณ์สัตวแพทย์หญิงณฐพรรษ หรือ คุณหมอแนน เป็นการด่วนเพราะหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เรียกร้องกันมาเยอะเหลือเกิน อยากจะทราบพิกัดโรงพยาบาล บางคนก็อยากจะพาน้องหมามารักษากับคุณหมอ ทั้งที่ไม่ได้ป่วยอะไร
แชะแชร์จนเปรี้ยงปัง...น่ารักอะไรเบอร์นี้
“ก็มารับแมวกลับบ้านอ่ะนะ...แต่...โฟกัส...แมว...สกาหนหวหมหรนหากรหนกสกรกีกรำสนกจนกาก” ผู้ใช้เฟซบุ๊กนามว่า Kanin Mig Sirirat คือหนุ่มที่พาน้องแมวไปรักษายังโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาแจ้งวัฒนะ โพสต์ข้อความแอบฮาประหนึ่งว่ามือสั่น พิมพ์ผิดพิมพ์ถูก พร้อมภาพคุณหมอในเฟซบุ๊กตนเอง เพราะชื่นชมในความน่ารักสุดพลังของคุณหมอนั่นเอง
“วันนั้นจำได้ เขามากับคุณแม่ เอาแมวมาผ่าทำหมัน จะส่งแมวกลับบ้าน เราจึงอธิบายว่า จะต้องทำแผลยังไง สอนคุณแม่เขา ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง หมอก็ไม่ได้สนใจอะไร อธิบายไป สนใจแค่คุณแม่กับแมว ก็ไม่ทราบว่า เขาถ่ายรูปเราไปแชร์อะไร” หมอแนน เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในวันนั้น
กระทั่งวันนี้ความฮอตเปรี้ยงปังของหมอแนน ก็ยังไม่หยุดเพราะมีหลายสื่อต่างแชร์กันไม่หยุด แต่หมอแนน ยืนยันว่า ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงสำหรับตัวเองเลย ยังคงมาทำงาน ใช้ชีวิตปกติ
“ความเปลี่ยนแปลงยังไม่เจอ ก็แค่โลกโซเชียล เพราะในชีวิตจริง หมอก็ยังทำงาน ใช้ชีวิตเหมือนเดิม ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไป คือเราก็เล่นเฟซบุ๊กอยู่ เราก็รู้ว่าช่วงนี้ข่าวนี้ฮอต ก็จะมีแต่ข่าวนี้ๆ เต็มหน้าเฟซบุ๊ก จากนั้นก็จะหายไป ข่าวของเราก็เหมือนกัน” หมอแนน เล่าถึงความรู้สึก
จากความผูกพันสู่...สัตวแพทย์
คุณหมอแนนในวัย 28 ปี เล่าย้อนอดีตถึงเหตุผล ว่าทำไมถึงอยากเป็นสัตวแพทย์ เพราะตั้งแต่เด็ก เลี้ยงสัตว์มาโดยตลอด จนเกิดเป็นความรัก ความผูกพันต่อสัตว์นั่นเอง
“เลี้ยงสัตว์มาตั้งแต่เด็ก จึงคลุกคลีอยู่กับสัตว์เลี้ยง หมา แมว จึงกลายเป็นความผูกพัน”
เธอเริ่มรู้ตัวว่าจะต้องเรียนสัตวแพทย์เมื่อช่วงมัธยมปลายที่โรงเรียนสตรีวิทยา เพราะต้องเริ่มเลือกแล้วว่าจะต้องเรียนอะไร
“จริงๆไม่ได้ตั้งเป้ามาตั้งแต่เด็กว่า จะเรียนสัตวแพทย์ พอถึงช่วงที่เราจะต้องเข้ามัธยมปลาย ก็เริ่มมีคำถามเข้ามาว่า เราอยากเรียนอะไร เพื่อนก็อยากเป็นหมอฟัน เภสัช
แต่เรารู้สึกว่า การเป็นหมอจะต้องเครียดแน่นอน เพราะต้องแบกความรับผิดชอบค่อนข้างสูง เราจึงคิดว่าเรียนสัตวแพทย์น่าจะโอเค เพราะเรารักสัตว์อยู่แล้ว”
เธอจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์
“เรียนสัตวแพทย์อยู่ 6 ปี จะมีบ้างที่เครียดช่วงสอบ แบบ...รู้สึกว่า เหนื่อยจัง เพราะเวลาเรียนเราจะเรียนเยอะ เวลาสอบก็อบพร้อมกัน ติดกันเป็นอาทิตย์ ก็มีอารมณ์ท้อบ้าง เครียดบ้าง แต่ก็แค่เครียดตอนสอบเฉยๆ น่าจะเหมือนอารมณ์เด็กทั่วไป จากนั้นพอขึ้นปี 4 - 5 -6 ก็จะเริ่มฝึกงาน”
ชีวิต 4 ปีในการทำงาน
ย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน หมอแนนเริ่มงานที่แรก คือ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาสุขุมวิท จากนั้นก็มาลงสาขาที่ใกล้บ้าน คือ แจ้งวัฒนะ กระทั่งปัจจุบันนี้
“เคสแรกของแนน คือ หมาน้อยทำวัคซีน น่ารักๆ ไม่ซีเรียสอะไร ส่วนเคสฉุกเฉิน อาการหนักๆ เช่น โดนรถชน เลือดเยอะๆ อาการแย่ ในปีแรกที่เจอ ก็จะรู้สึกประหม่า ทำอะไรไม่ถูก เราต้องทำยังไงต่อ ทำอะไรบ้างเนี้ย ก็คิดอยู่ในหัว
แม้จะมีผู้ช่วย เราจะต้องคอยจัดการในแต่ละเคสว่า ควรจะทำอะไรสำหรับเคสนี้ กรณีแบบนี้ ทำอะไรเป็นอันดับแรก สำคัญที่สุด สองคืออะไร สามคืออะไร จะไล่ลำดับความสำคัญไป
ส่วนการโดนหมากัด เป็นเรื่องปกติมากสำหรับสัตวแพทย์ หมอแนน เล่าว่า โดนกัดชนชิน จนเป็นเรื่องธรรมดา ทุกปีต้องฉีดยาป้องกันอยู่แล้ว
นอกจากนี้ หมอแนนยัง เป็นคุณหมอผ่าตัดที่โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อด้วย
“ถ้าในตามหลักสูตรคุณหมอทั่วไปก็เรียน 6 ปี ก็สามารถรักษาพื้นฐานได้ แต่หากอยากจะตั้งใจทำด้านนี้โดยเฉพาะ อาจจะต้องไปเรียนเพิ่ม เพราะช่วง 6 ปี เราอาจจะไม่ได้ทำเยอะ ส่วนใหญ่จะแค่พื้นฐาน เช่น ทำหมัน ผ่าก้อนนิ่วออกจากปัสสาวะ ซึ่งเป็นพื้นฐาน ผ่าคลอด”
อุทิศตน...ทุ่มเทเวลาให้น้องหมาน้องแมว
สำหรับสัตวแพทย์ จะไม่มีวันหยุดยาวเหมือนคนอื่น ยิ่งช่วงเทศกาลจำเป็นต้องประจำการอยู่โรงพยาบาลตลอด
“เข้าทำงานเกือบทุกวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ เสาร์ คือจะมีวันหนึ่งที่เราจะต้องเข้าเวรกลางคืน อีกวันก็จะนอนทั้งวัน แต่จะมีเวรกลางคืนแค่วันเดียวต่อสัปดาห์ พอออกเวรวันรุ่งขึ้น 8 โมงเช้า
ทำงานงานสายนี้จะไม่ค่อยได้หยุดเหมือนคนอื่นเท่าไหร่ อย่างปีใหม่ สงกรานต์ ช่วงที่เขาหยุดยาว เราก็จะไม่ได้หยุด ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาล อยากหยุดจริงๆ ก็ลาวันที่ไม่ใช่ช่วงเทศกาล”
สำหรับวันว่างนั้น หมอแนน มักจะชอบดูซีรีย์อเมริกาเป็นพิเศษ
“สำหรับวันว่างๆ ก็จะเหมือนคนทั่วไป แต่จะชอบดูซีรียส์ของทางอเมริกา เช่น The Walking Dead , Game of Thrones แต่ไม่ชอบแนวเกาหลี ส่วนการแต่งตัวก็เรียบง่าย เน้นกางเกงยีนส์ เสื้อยืด ไม่ค่อยแต่งหน้าเท่าไหร่ บางวันก็ใส่แว่นมาทำงาน เพราะเร่งรีบ”
ไม่เคยซื้อ...เลี้ยงหมามือสองมาตลอด
หมอแนน เล่าถึงสัตว์เลี้ยงของตัวเอง ที่ไม่เคยเลี้ยงเกิน 2 ตัว เพราะจะเลี้ยงตามกำลังของตัวเองและคนในครอบครัว ดังนั้นการเลี้ยงสัตว์ ต้องดูแลเขาให้ดีและทั่วถึง
“โดยปกติเราจะเลี้ยงเท่าที่เราสามารถดูแลได้ จะไม่เกิน 2 ตัว ควรเลี้ยงสัตว์ตามกำลังของเราจะดีกว่า แต่หากเราสามารถเลี้ยงได้เป็นอย่างดี ทุกอย่างพร้อม ไม่ว่าจะกี่ตัวก็เลี้ยงเถอะ
แต่อย่างหมอ กับที่บ้าน จะเลี้ยงแค่ไม่เกิน 2 ตัว ถ้าเยอะเกินกว่านั้นจะดูแลไม่ทั่ว เลี้ยงมาแล้วหลายตัว ก็จะทยอยแก่ตายไปตามช่วงชีวิตของเขา หรือบางตัวก็หายออกจากบ้านอย่างไร้ร่องรอย บางทีลูกหมา เขาตัวเล็ก ซน ชอบสำรวจโลก ก็สามารถลอดรั้วออกไปได้ จากนั้นก็หายไปเลย หาไม่เจอ
แนนจะเป็นคนดูแลสัตว์ในบ้าน คุณพ่อคุณแม่จะตกลงกับเราก่อนเลยว่า ถ้าจะเลี้ยง ก็ต้องดูแล ต้องให้ข้าว อาบน้ำ ทำความสะอาดเวลาสัตว์ขับถ่าย ถ้าเล่นอย่างเดียว คุณพ่อกับคุณแม่จะไม่ให้เลี้ยง ต้องมีความรับผิดชอบ”
เธอยืนยันว่าตั้งแต่เลี้ยงสัตว์มา ไม่เคยใช้เงินซื้อเลย
“มีคนให้มาบ้าง ได้หมามือสองมาตลอด เช่น ข้างบ้านย้ายบ้าน แล้วเขาไม่นำหมาเขาไปด้วย เพราะแก่ ก็ทิ้งไว้ จึงต้องเอามาเลี้ยง ให้ข้าวไปสักพักหนึ่ง สนิทกัน จากนั้นก็พาเข้าบ้าน เลี้ยง ส่วนแมวก็จะเป็นลักษณะนี้เหมือนกัน เพราะถ้าเราให้ข้าว เขาจะมาทุกวัน จนเราเอาเข้าบ้านตัวเอง”
เตือน...ระวังโรคพยาธิในเม็ดเลือด
หมอแนน ยืนยันว่า80% ของสุนัขที่เข้ามารับการรักษาเป็นโรค พยาธิในเม็ดเลือด ดังนั้นเจ้าของน้องหมา ต้องกำจัดเห็บ ซึ่งเป็นพาหะนำโรคให้ดี
“ร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ถ้ารุนแรง พยาธิในเม็ดเลือดมีหลายชนิด แต่ละชนิดจะแสดงอาการป่วยไม่เหมือนกัน แต่หลักๆถ้าสุนัขเริ่มซึม ตัวร้อน หรือหากอาการหนักก็จะมีเลือดออกที่จมูก เหมือนเลือดกำเดาหยดลงมา หากตรวจเลือดก็มักจะเจอว่า เกล็ดเลือดต่ำ มีการติดเชื้อ เป็นพยาธิในม็ดเลือด
แต่หากไม่รุนแรง จะเห็นว่า สุนัขจะเริ่มมีอาการเซื่องซึม เหงือกซีด ตัวร้อน โดยทั่วไปที่เจ้าของจะสังเกตเห็น และมาโรงพยาบาล มักจะเป็นแบบนี้ เราจะถามประวัติกลับไปว่า ช่วงนี้มีเห็บขึ้นเยอะไหม จะพยายามประมวลผล ว่ามีเค้าใกล้เคียงหรือเปล่า ถ้าใกล้เคียงจริง ควรจะต้องตรวจอะไรก่อน แต่โดยส่วนใหญ่เจ้าของจะมาด้วยอาการซึม ตัวร้อน แต่ส่วนใหญ่สัตว์เลี้ยงที่มารักษาที่นี่จะไม่มีอาการหนัก เพราะทุกตัวมีเจ้าของ และรักสัตว์เลี้ยง ดูแลอย่างดี
อย่าพยายามรักษาเอง เพราะสุนัขเขามีโดสยาของเขาเอง เราต้องคำนวณ เช่นป่วยด้วยโรคนี้ใช้ยาอะไร ใช้ที่โดสเท่าไหร่ ต้องคำนวณกับน้ำหนักของเขาทุกครั้ง ไม่ได้หมายความว่า สุนัขต้องกินยาเท่ากันทุกพันธุ์ มันไม่ใช่
ส่วนวิธีป้องกันไม่ยาก อาจจะใช้เป็นยาหยอดหลัง ป้องกันทุกเดือน ส่วนใหญ่จะทำบ้าง ไม่ทำบ้าน จึงทำให้มีเห็บกลับขึ้นมาบนตัวสุนัข ซึ่งอาจจะทำให้ป่วยได้”
“รัก” ที่จะเลี้ยง
หมอแนน เล่าว่า เคยเจอหมาที่ถูกทำร้ายด้วยน้ำมือมนุษย์ โดยเจ้าของเลี้ยงแบบทารุณ แต่คนอื่นพยายามช่วยนำมารักษา ดังนั้นการมี พ.ร.บ.สัตว์ ออกมา สำหรับหมอแนน เธอบอกว่า เป็นสิ่งที่ดีมาก
“จะได้ช่วยสัตว์ คือบางคนเขาไม่รู้สึกว่า การทารุณสัตว์ เป็นเรื่องผิด คือว่า ก็สัตว์เลี้ยงฉัน ก็แค่หมาวัด หมาข้างถนน จึงไม่ได้รู้สึกผิด แต่ถ้าการมีกฎหมายเข้ามาช่วยควบคุมก็เป็นสิ่งที่ดี คนในกลุ่มนี้ก็จะมีการเกรงกลัวมากขึ้น
ส่วนพวกทำร้ายสัตว์ หมอก็รู้สึกเหมือนคนทั่วไป ที่เวลาเราเห็นข่าว สังคมรู้อยู่แล้ว ว่าอะไรมันดี ไม่ดี ไม่งั้นไม่มีการแชร์ เขารู้กันอยู่แล้ว แต่ทีนี้ มันก็อาจจะมีคนบางกลุ่ม แค่ส่วนน้อย ที่รู้สึกว่ามันไม่เป็นเรื่องผิด มันเป็นเรื่องของพื้นฐานจิตใจ คุณธรรมของแต่ละคน ซึ่งเราไม่สามารถจะชี้แนะได้ว่า เธอทำอย่างนี้ผิด มันเป็นเรื่องของแต่ละคน แต่คนส่วนใหญ่ รู้อยู่แล้วว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ อะไรถูก อะไรผิด
เวลามีการแชร์เรื่องราวแบบนี้ขึ้นมาก็ทำให้เรารู้ว่า จริงๆมันไม่ได้มีคนแค่กลุ่มเดียวที่คิดเหมือนเรา คนที่คิดต่างก็มี”
นอกจากนี้ เธอยังฝากถึงคนเลี้ยงสัตว์ด้วยว่า ก่อนจะเลี้ยงสัตว์อะไรก็ตามต้องมี “ความรัก” ที่จะเลี้ยง
“เราต้องถามตัวเองก่อนตั้งแต่แรก ก่อนที่จะเสียเงินไปซื้อมา บางทีคนมีตังค์แต่ไม่สามารถที่จะเลี้ยงเขาได้ ฉันมีตังค์ซื้อ เบื่อแล้วก็ปล่อย ป่วยก็ค่อยพามา คือเลี้ยงไม่ได้ใส่ใจ ไม่ค่อยดูแล ทีนี้อาจจะต้องถามก่อนเลยว่า อยากเลี้ยงจริงหรือเปล่า หรือเลี้ยงเพราะมันน่ารัก แล้วถ้าไม่ใช่ลูกหมาตัวเล็กๆ มันโตขึ้นจะยังโอเคไหม
เราต้องถามตัวเองก่อนว่า พร้อมที่จะเลี้ยงไหม พร้อมในหลายๆด้าน ค่าใช้จ่ายจะต้องมีตามมาอยู่แล้ว มีเวลาพามาตรวจสุขภาพ พาไปออกกำลังกาย เวลาสุนัขอยู่แต่บ้านมันก็เครียด ต้องพาไปรีแลกซ์ ออกไปวิ่งเล่น เขาก็เหมือนคนทุกอย่าง”
เลือกฟาร์มน่าเชื่อถือ การจัดการดี
หมอแนนแนะนำการซื้อสุนัขด้วยว่า ควรเลือกร้าน หรือ ฟาร์ม ที่ได้มาตรฐาน หมาหงอย ซึม เศร้า ส่อสัญญาณไม่ดี
“แรกเริ่มตั้งแต่ซื้อลูกสุนัขเล็กๆมาจากฟาร์ม ควรเลือกร้าน หรือฟาร์ม ที่มีมาตรฐาน มีความใส่ใจในเรื่องสุขลักษณะทุกอย่าง ดูสัตว์เลี้ยงในกรง ที่เขาเอาออกมาโชว์ ดูว่ามีการจัดการเรื่องความสะอาดไหม เลี้ยงยังไง ดูองค์ประกอบโดยรวม และดูสุนัขด้วยว่าแข็งแรงไหม ไม่ใช่นอนเพลีย โทรม แล้วซื้อมา ตัวนั้นอาจจะเป็นตัวที่ป่วย
จำไว้เลยว่า ลูกสุนัข ทุกตัวเขาจะซน ไม่เรียบร้อย หรือซึม หงอย เขาก็เหมือนเด็ก ที่ชอบเล่น ร่าเริง แข็งแรง กินเก่ง นอน ไม่มีไอ จาม ไม่มีน้ำมูก ขับถ่ายเป็นก้อน ไม่เละ เหลวเหมือนท้องเสีย ทุกอย่างดูแข็งแรง
ทว่า เวลาสุนัขย้ายที่เลี้ยง พามาอยู่บ้านเรา ก็ต้องให้เวลาเขาปรับตัว อาทิตย์ หรือสองอาทิตย์ ระหว่าง 1-2 อาทิตย์ ก็ควรดูว่าเขาแข็งแรงไหม กินข้าวยังไง มีอาการป่วยอะไรให้เห็นหรือเปล่า ส่วนการอาบน้ำไม่ควรให้อาบทุกวัน แค่ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดตัวก็พอ บางทีเราอาบให้เขาไม่เป็น น้ำเข้าจมูก อาจจะป่วยตามมาได้ 2 อาทิตย์อาบที
ส่วนอาหารสูตรต้องกินของลุกสุนัข เดี๋ยวนี้อาหารมีตามช่วงวัย ช่วงเด็กเอนเนอร์จีเขาจะเยอะ ก็ต้องกินบ่อย 3-4 มื้อต่อวัน การเผาผลาญเยอะ ต้องใช้พลังงานในการไปสร้างทุกอย่างให้ร่างกายเจริญเติบโต จึงต้องการอาหารเยอะขึ้นตามไปด้วย หากโตขึ้นมาหน่อยก็ปรับเป็น เช้า และเย็น
ถ้าจะเอาสุนัขมานอนกับเรา ต้องมั่นใจด้วยว่า เขาไม่นำโรคอะไรมา เห็บควบคุมแล้ว หยอดยาแล้วเรียบร้อย ก็สามารถนอนร่วมกันได้ หลายบ้านก็จะเลี้ยงลักษณะนี้ นอนด้วยกัน กินอยู่ด้วยกัน แต่บางบ้านก็จะฝึกให้เป็นที่เป็นทาง เช่น มีกรงก็ต้องนอนในกรงเมื่อถึงเวลา สอนเขาได้ เขามีเมมโมรี”
“กระดูก” สิ่งต้องห้ามของน้องหมา
“หมาพันธุ์ขนยาว เช่น พวกไซบีเรียน จะมีปัญหาชัดเจนช่วงหน้าร้อน เพราะขนเค้าเยอะ แต่ถ้าอยากเลี้ยงจริงๆแล้วดูแลได้ดี ก็สามารถเลี้ยงได้ บางบ้านให้อยู่ในห้องแอร์ ต้องดูว่าเราสามารถเลี้ยงได้แค่ไหน แต่ละสายพันธุ์ต้องการการดูแลไม่เหมือนกัน
สำหรับอาหารที่ควรเลี่ยงให้สุนัขกินนั้น หมอแนน บอกว่า ช็อกโกแลตไม่ควรให้หมากิน รวมทั้งองุ่น
“จริงๆ คือมีอาหารต้องห้ามเยอะมากที่มีสารที่เป็นพิษกับสุนัข เช่น ถั่วแมคคาเดเมีย ทว่า คนเลี้ยงสุนัขก็มีหลายระดับ บางบ้านไม่ได้มีกำลังทรัพย์ที่จะซื้ออาหารสุนัข สะดวกที่จะให้อาหารคน แบบทานเหลือ ต้องดูว่า จะไม่มีอะไรไปอุดตัน ติดคอ เป็นอันตราย เช่น กระดูก ก็ไม่ควรกิน แม้สุนัขจะชอบกินก็ตาม สุนัขบางตัวไม่ได้เคี้ยว หรือกินลงไปย่อยไม่ได้ กระดูกลงไปแล้วไปขวาง ติดอยู่ในลำไส้ ขูดขีด ลำไส้ทะลุ เป็นเรื่องใหญ่ก็ต้องผ่าเอาออก
มีเคสให้เห็นอยู่เรื่อยๆ บางทีไม่ใช่กระดูก บางทีก็ของเล่นตัวเอง กินเข้าไป เม็ดผลไม้ เม็ดทุเรียน ถ้าไม่ได้รักษาอาจจะเสียชีวิตได้ เพราะเมื่อไปอุดตันจะออกไม่ได้ การรักษาก็คือการผ่าเอาออก”
สุดท้ายเมื่อถามถึงอนาคต หมอแนนย้ำว่า ยังรัก และอยากเป็นสัตวแพทย์ อยากทำงานสายนี้อยู่
ขอบคุณภาพบางส่วนจาก IG nannatpat ,แฟนบุ๊ก โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ
โดย ผู้จัดการ Lite
เรื่อง สวิชญา ชมพูพัชร
ภาพ ปัญญพัฒน์ เข็มราช
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754