xs
xsm
sm
md
lg

แพ้ทางเต็มๆ! เปิดใจ "ใบเตย" หวานใจ "ปั๊บ โปเตโต้"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไม่ใช่นางเอกละครดังในช่องใหญ่ๆ แต่ก็ดังเปรี้ยงปร้างจากนางเอกเอ็มวีหลายต่อหลายชิ้น โดยเฉพาะเอ็มวี "ทิ้งไว้กลางทาง" ของวงโปเตโต้ ที่ตอนนี้มียอดทะลุใกล้จะถึงหลักสองร้อยล้านวิวแล้ว ก่อนจะทำหนุ่มๆ หัวใจวอดวาย แพ้ทางกันไปทั่วประเทศกับเอ็มวี "แพ้ทาง" ของวงลาบานูนที่ฮอตไม่แพ้กัน

ล่าสุดขึ้นแท่นเป็นหวานใจคนใหม่ของหนุ่ม "ปั๊บ โปเตโต้" ทำให้ "ใบเตย-สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ" กลายเป็นผู้หญิงที่ดังจนฉุดไม่อยู่ แม้ว่าเธอจะถ่อมตัวด้วยความอ่อนน้อมว่า "หนูไม่ได้ดังอะไรขนาดนั้นเลยค่ะพี่" แต่ผลงานในวงการหลายๆ ชิ้นก็การันตีทั้งความฮอต และความสามารถของผู้หญิงร่างเล็กคนนี้ได้มากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา เอ็มวี ภาพยนตร์ และซีรีส์หลายเรื่อง

"ใบเตย" ปรากฎตัวตามเวลานัดหมายบริเวณชั้น 1 ณ อาคารทิปโก้ (พระราม 6) แม้ร่างจะเล็ก แต่ออร่าความน่ารัก สดใสมีอยู่เต็มเปี่ยม โดยเธอเดินเข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้มสดใสในลุคเรียบเก๋ สวมชุดเดรสสีขาวมีสไตล์แบบสบายๆ ส่วนใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยเมกอัพเบาๆ ดูเป็นธรรมชาติ หลังจากได้พูดคุยกันต้องบอกว่า เห็นหน้าหวานๆ แบบนี้ จริงๆ ดูไม่บ๊องแบ๊งอย่างที่คิด เพราะชีวิตมีระดับความจริงจังอยู่พอสมควร



"ตอนนี้ก็ดีค่ะ งานไม่ค่อยเยอะเท่าไร เพึ่งปิดกล้องส้มตำแฮมเบอร์เกอร์ไป ซึ่งเป็นของทรูโฟร์ยู หลังจากนี้กำลังจะมีซีรีส์ต่อ แต่ยังไม่ได้เปิดกล้องเป็นของช่อง GMM 25 ค่ะ ส่วนที่ปิดกล้องไปแล้วแต่ยังไม่ได้ออนแอร์ก็มีเลิฟ อีส เดอะซีรีส์ของทรูโฟร์ยู ตอนรักคุณเข้าอีกแล้ว หนูเล่นกับพี่โทนี่ รากแก่น

ช่วงนี้ก็เลยชิลชิล เป็นช่วงพักผ่อนค่ะ คือการพักผ่อนของหนูจะอยู่นิ่งๆ ไม่ค่อยอยากคิดอะไรมาก เหมือนได้พักร่าง และพักใจไปพร้อมๆ กัน" ใบเตยเริ่มเล่าถึงภาระงานที่ค่อยๆ เบาบางลง หลังจากก่อนหน้านี้งานชุกยิ่งกว่ายุง ทั้งโฆษณา เอ็มวี รวมไปถึงคิวถ่ายซีรีส์

"ใบเตย" นางเอกเอ็มวีร้อยล้านวิว

พูดถึงสาวใบเตยคนนี้ หลายคนอาจรู้จักเธอจากคลิปคัฟเวอร์เพลงของกลุ่ม Mad Puppet Studio ในบทบาทนักร้องเสียงใสผู้มีรอยยิ้ม และดวงตาพิฆาตใจหนุ่มๆ แต่จริงๆ จุดเริ่มต้นในเส้นทางบันเทิงอยู่ในบรรทัดต่อไปนี้ ซึ่งเธอบอกว่าไม่ค่อยมีใครล่วงรู้มาก่อน



"ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าแม่หนูพาไปแคสติ้งงานตั้งแต่ ม.3 หนูเริ่มถ่ายโฆษณาจริงๆ จังๆ ตอนอยู่ชั้นปี 2 ซึ่งมีรุ่นพี่ต่างคณะที่ทำงานเบื้องหลัง ชักชวนให้ไปทำ จากนั้นก็มีเอ็มวีเข้ามา พอดังจากเอ็มวีเพลง Avenue ของวัชราวลีเพื่อนๆ ก็ดึงมาเข้ากลุ่ม Mad Puppet Studio ซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนสมัยอยู่ ม.6 กระทั่งเพื่อนๆ ตั้งวงดนตรีของตัวเองขึ้นมาชื่อว่า Midnight Band ก็เลยชวนหนูมาร้องเพลง

เริ่มจากคัฟเวอร์เพลง Avenue ของพี่ๆ วัชราวลี ตามมาด้วยอยู่ต่อเลยได้ไหมของพี่สิงโต นำโชคค่ะ พอมาดูผลตอบรับ ต้องบอกว่าตกใจมากๆ ค่ะ เพราะกระแสดี คนเปิดเข้าไปฟังกันเยอะ ยิ่งพอมีคนชมว่าน่ารักก็ยิ่งเขิน (อมยิ้ม) และที่เขินมากๆ ก็คือ เวลามีคนมาบอกว่าหนูร้องเพลงเพราะ ซึ่งจริงๆ หนูร้องเพลงไม่เพราะเลย ไม่เลย (ลากเสียงยาว) มีคนมาจ้างร้องเพลงตามงานอีเวนต์หนูก็ไม่ไป ซึ่งก่อนหน้านี้มีเยอะมาก (ลากเสียงยาว) ค่ะ





หนูเป็นคนถ้าคิดจะทำอะไร ต้องมั่นใจก่อน ถ้าไม่มั่นใจหนูจะไม่ทำ อีกอย่างมันคืองานจ้าง ทำออกมาไม่ดีก็เสียงานเขา แถมเสียตัวเราเองด้วย ดังนั้น ที่การคัฟเวอร์ออกมาดี และมีคนชอบ ตัวหนูไม่ได้ทำคนเดียว แต่ทุกคนช่วยกันทำให้มันออกมาดีค่ะ ทุกคนก็คือเพื่อนๆ ที่มีส่วนร่วมในการคัฟเวอร์เพลงทั้งหมดเลยค่ะ" สาวน้อยร่างเล็กบอก

หลังจากทำผู้ชม คนฟังตกอยู่ในนาทีต้องมนต์จากเสียงร้อง อารมณ์เพลงที่ถ่ายทอดออกมาผ่านรอยยิ้ม และดวงตาคู่โตคู่นั้น ทำให้ใบเตยกลายเป็นผู้หญิงที่ผู้ชายก็แพ้ทาง หญิงด้วยกันเองก็เอ่ยปากชม จนกระทั่งมาปังอีกครั้งในฐานะนางเอกมิวสิกวิดีโอเพลงและซีรีส์ "ทิ้งไว้กลางทาง" โดยเล่นคู่กับนักร้องขวัญใจสาวๆ "ปั๊บ-พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข" หรือ "ปั๊บ โปเตโต้" ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นหวานใจของเธอไปแล้ว



สำหรับเอ็มวี "ทิ้งไว้กลางทาง" ดันให้เธอขึ้นแท่นเป็น "นางเอกเอ็มวีร้อยล้านวิว" เพราะทำยอดเข้าชมชมทะลุกว่า 100 ล้านวิว (ปัจจุบันใกล้ทะลุหลัก 200 ล้านวิวแล้ว) ล่าสุดกับหนึ่งใน 6 นางเอกเอ็มวีเพลง "แพ้ทาง" ของวงลาบานูนที่มียอดคนฟังทะลุหลัก 60 ล้านวิวเข้าไปแล้ว

ชวนดู "ส้มตำแฮมเบอร์เกอร์"

ส่วนอีกหนึ่งผลงานล่าสุดของเธอที่เพิ่งปิดกล้องกันไปก็คือ "ส้มตำแฮมเบอร์เกอร์" สุดยอดซีรีส์ธรรมะจากปลายปากกาของพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ออกอากาศตอนแรกไปเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2559 ทางทรูโฟร์ยู ดิจิตอลทีวี ช่อง 24 โดยเรื่องนี้เธอเล่นเป็นนางเอกคู่กับเม้าส์-ณัชชา จันทพันธุ์ (รับบทเป็นหมอก)

"เป็นคอมเมดี้ที่มีธรรมะแฝงเข้ามาด้วยค่ะ เป็นเรื่องที่รวมนักแสดงตลกเยอะมาก (ลากเสียงยาว) ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ แต่ความพิเศษของซีรีส์เรื่องนี้มาจากปลายปากกาของพระอาจารย์ ว.วชิรเมธีค่ะ ซึ่งท่านจะวางคาแร็กเตอร์ และเลือกตัวละครด้วยตัวเอง โดยดูจากผลงานที่ผ่านๆ มาของนักแสดงแต่ละคน อย่างหนูก็รู้สึกดีใจที่ท่านเลือกให้มารับบท นัทชา ตัวแทนของวัยรุ่นที่มีความเป็นตัวของตัวเอง และเชื่อมั่นในความคิดของตัวเองค่อนข้างสูง



สำหรับ นัทชา เป็นลูกสาวคหบดีในจังหวัดที่มีความใฝ่ฝันอยากจะไปเรียนต่อ และใช้ชีวิตในนิวยอร์กมากๆ ค่ะ แต่ก็เป็นไปได้ยาก เพราะพ่อแม่ไม่ยอมปล่อยให้ไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองคนเดียว แต่ด้วยความเป็นคนเด็ดเดี่ยว และมุ่งมั่น เมื่อทราบว่ามีพระฝรั่ง (รับบทโดยคาเมรอน แนนซี) จากนิวยอร์กมาบวชที่วัดป่า จึงขอแม่ไปปฏิบัติธรรม และทำงานให้วัด แต่แท้จริงแล้วเธอตั้งใจจะมาฝึกภาษาและเรียนรู้เรื่องราวชาวนิวยอร์กมากกว่า" เธอเล่าถึงบทนัชชาในซีรีส์เรื่องนี้

ถามว่าบท "นัทชา" มีความใกล้เคียงกับตัวตนของเธอหรือไม่ สาวน้อยนิ่งคิด และบอกว่า "มีความคล้ายแต่ไม่เหมือนไปทุกอย่างค่ะ ที่ใกล้ๆ เคียงกันคือ พลังงานในตัวที่มีอยู่เยอะ (หัวเรอะ) แต่ในเรื่องของความความทะเยอทะยานคงไม่เท่านัทชาค่ะ เพราะนางมีเยอะมากๆ ส่วนตัวหนูจะมองถึงความเหมาะสมมากว่าว่าแค่ไหนถึงจะโอเค และไม่ดูเยอะจนเกินไปในสายตาคนอื่น

ส่วนเรื่องอื่นๆ ถ้าให้หนูมองตัวเอง จะว่าห้าวก็ไม่ห้าวนะ หรือจะเรียบร้อยก็ไม่ใช่ เพราะหนูเป็นคนอยู่ไม่นิ่ง ยุกยิกตลอดเวลา แต่ในความยุกยิกก็มีความจริงจังอยู่พอตัวนะ เวลาจะทำอะไรต้องวางก่อน หนึ่ง สอง สาม สี่ ถ้าทำแล้วมีผลกลับมาไม่ดีหนูก็จะไม่ทำ แต่บางทีก็มีเหมือนกันค่ะที่เลือกทำตามความรู้สึก เพียงแต่หนูจะบอกกับตัวเองตลอดว่า ถ้าทำแล้วต้องไม่กระทบใคร หรือไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น"

เปิดมุมชีวิตในครอบครัว

คงไม่เกินไปนักถ้าจะบอกว่า รอยยิ้มของใครบางคนเหมือนดวงอาทิตย์เห็นแล้วอาจละลายได้ เช่นเดียวกับรอยยิ้มของ "ใบเตย" ที่หากเธอยิ้มเมื่อไรอาจทำให้ใครหลาย ๆ คนตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย แต่กว่าจะเป็นที่รักของคนทั้งใน และนอกวงการ การย้อนกลับไปยังสถานที่ที่สร้างเธอขึ้นมาอย่าง "ครอบครัว" คือสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย



"หนูเติบโตในครอบครัวคนจีนค่ะ ถูกเลี้ยงมาทั้งแบบจีนหัวโบราณ และจีนสมัยใหม่ๆ โดยทางฝ่ายคุณป้าจะชอบให้หนูไปร้องงิ้วให้ฟังอยู่บ่อยๆ ตอนนั้นจำได้ว่า ถ้าร้องงิ้วให้ป้าฟังหนูจะได้เงิน 5 บาทไปซื้อขนม หนูก็เลยคิดว่า ความรัก ความชอบเรื่องการแสดงอาจมาจากจุดนี้โดยมีคุณป้าคอยสนับสนุนให้เต้น ให้รำตั้งแต่เด็กๆ เช่นเดียวกับคุณแม่ก็เป็นฝ่ายสนับสนุนเช่นกันค่ะ ส่วนทางฝ่ายอาม่าไม่ค่อยชอบเท่าไร เวลาแม่จะพาไปแคสติ้งงานต่างๆ ก็ต้องแอบที่บ้านไป เริ่มแคสฯ ตั้งแต่เรียน ม. 3 ได้งานบ้าง ไม่ได้บ้าง"

นอกจากคุณแม่ และคุณป้าจะคอยเป็นฝ่ายสนับสนุนในทุกๆ เรื่องแล้ว ยังให้อิสระในการคิด และใช้ชีวิตด้วย โดยคุณแม่จะสอนตลอดว่า "ทำอะไรก็ได้แต่อย่าไปทำให้ใครเดือดร้อน"

"แม่จะสอน และเน้นย้ำเรื่องนี้ตลอดค่ะ รวมไปถึงจะสอนด้วยว่า อย่าลักเล็กขโมยน้อย รู้จักพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี บางครั้งอาจไม่ได้สอนตรงๆ แต่หนูก็คอยซึมซับจากเวลาที่แม่สอนพี่ ซึ่งหนูเป็นเด็กช่างสังเกตตั้งแต่เด็กๆ เรื่องดื้อหนูก็มีนะ หนูเป็นเด็กดื้อเงียบ รั้น ไม่เถียงแต่ก็จะไม่ทำ

ยิ่งที่บ้านห้าม หนูก็จะ..อื้ม ได้ แต่ไม่ทำ (ยิ้มดื้อๆ) แต่ในความดื้อ ความรั้น หนูก็ได้บทเรียนกลับมาในหลายๆ ครั้ง หนูเป็นพวกเจ็บแล้วจำ ถ้าพลาดแล้วจะไม่กลับไปทำอีก แต่ก็ขึ้นอยู่กับคนด้วยนะ บางคนดื้อ รั้น แม้ว่าจะพลาดแต่ก็ไม่เคยจำ หรือเก็บมาเป็นบทเรียน ซึ่งตรงนี้มันก็ไม่ดีเลย"

ในความน่ารัก และความสดใสทั้งบุคลิก และรอยยิ้ม ใบเตย บอกว่า เธอได้รับมันมาจากบ้านที่ให้ความสุข และความอบอุ่นกับเธอ "แม่หนูจะอารมณ์ดีมากๆ (ยิ้ม) แม่หนูเป็นคนต่างจังหวัด เป็นคนสกลนคร อีสานครึ่งเวียดนาม ส่วนพ่อจะนิ่งๆ ไม่ค่อยพูดอะไร มีความใจดี แม้จะมีความเครียด แต่ไม่ค่อยแสดงออก คือหนูก็รู้นะ



ดังนั้นเวลามีเรื่องทุกข์ใจ หนูจะพยายามเลือกไม่บอกเขา เพราะอยากให้พ่อมองเห็นความสุขของหนูมากกว่า (เสียงสั่น น้ำตาเริ่มคลอเบ้า) บางเรื่องมันเล็กน้อยมาก ท่องเอาไว้เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ซึ่งตัวเขาเองก็มีเรื่องให้คิดเยอะพอแล้ว" สาวใบเตยเผย ก่อนจะขยายความต่อไปว่า "หนูไม่ใช่คนดราม่า เพราะหนูอยากให้คนอื่นเห็นหนูมีความสุขมากกว่า ซึ่งมันดีกว่าให้คนอื่นมานั่งบอกว่า ว้าย! ดรามา (ลากเสียงยาว)"

ถึงวันนี้ หากมีเวลาว่าง เธอมักจะนัดครอบครัวออกมารับประทานอาหารนอกบ้าน ล่าสุดเพิ่งซื้อบ้านที่ จ.เชียงใหม่ให้พ่อกับแม่ เพราะอยากให้เป็นที่พักผ่อนในยามแก่เฒ่า 

"เรื่องซื้อบ้านให้พ่อกับแม่ มันเป็นความตั้งใจของหนูอยู่แล้วค่ะ แต่ไม่เคยคิดว่าจะไปซื้อที่เชียงใหม่ พอมาคิดดูอีกที น้าหนูก็อยู่ที่นั่น ก็เลยซื้อบ้านที่นั่นจะได้ไปอยู่ด้วยกัน ปัจจุบันปล่อยเป็นบ้านเช่าไปก่อนค่ะ วันหนึ่งถ้าพ่อกับแม่พร้อมไปอยู่ก็ค่อยย้ายไปอยู่กันทีเดียวเลย"



ถามว่าจะทำงานในวงการบันเทิงไปถึงเมื่อไร "ถ้ามีโอกาสให้ทำ หนูก็ยังจะทำต่อไปค่ะ” เธอบอก “เพราะมันเป็นความสุขของหนูด้วย แต่จะยึดไปตลอดไหม หนูไม่ได้คิดแบบนั้นนะ ในอนาคตใจหนูอยากเปิดร้านเสื้อผ้า อยากเปิดเกสต์เฮาส์ที่เชียงใหม่ แล้วก็มีร้านกาแฟเก๋ๆ อยู่ด้านล่างด้วยค่ะ ซึ่งหลังจากนี้คงต้องไปเรียนการชงกาแฟอย่างจริงจังละ (ยิ้ม)"

ผู้กุมหัวใจ "ปั๊บ โปเตโต้"

ไม่ถามไม่ได้ถึงความรักที่ทั้ง "ใบเตย" และนักร้องหนุ่ม "ปั๊บ โปเตโต้" ออกมายอมรับว่าอยู่ในช่วงปลูกต้นรักกันอยู่ โดยต่างคนต่างอกหักมาเหมือนกัน แม้ช่วงแรกๆ จะมีข่าวว่าต่างฝ่ายต่างเป็นมือที่สาม แต่ฝ่ายชายก็ออกมาบอกแมนๆ ผ่านสื่อว่า

"เรื่องมือที่สามก็พอได้ยินอยู่บ้าง น้องเขาก็ซีเรียสเป็นเรื่องธรรมดา ทุกคนไม่ได้อยากถูกพูดถึงในเรื่องแบบนี้ ผมก็ยืนยันว่าเราทั้งสองคนไม่ได้เป็นมือที่สามของกันและกันครับ ไม่งั้นผมคงไม่กล้าออกมาพูดแบบนี้หรอก เพราะที่ผ่านมาเราก็ค่อนข้างซีเรียสเรื่องศีล 5 พอสมควร อย่างที่บอกไปว่ามันเป็นช่วงจังหวะของชีวิตจริง ๆ ครับ"



ถึงวันนี้เมื่อถาม "ใบเตย" ถึงความสัมพันธ์กับนักร้องหนุ่ม เธอบอกว่า "ก็ดีค่ะ (ยิ้ม) ดีๆๆๆ" ก่อนจะเล่าถึงจุดเริ่มต้นของความรู้สึกดีๆ ที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นจนเปิดใจให้นักร้องหนุ่มได้เข้ามาเดินในหัวใจ

"หนูมองพี่เขาว่าเก่งมาก หนูค่อยๆ เห็นความน่าประทับใจของพี่เขามาเรื่อยๆ เอาจริงๆ หนูติดตามผลงานของวงโปเตโต้มาตั้งแต่หนูอยู่ ป.4 จากนั้นก็ฟังมาเรื่อยๆ ติดตามมาเรื่อยๆ จนได้มาร่วมงานในเอ็มวีทิ้งไว้กลางทาง หนูก็แบบ (ตาโต) เออเจ๋งดีเนอะ วิธีคิดของพี่เขา ไม่ใช่ทำงาน หรือถ่ายงานแบบจบๆ ไป แต่มีความจริงจัง จริงใจกับงานอยู่พอสมควร ซึ่งตัวหนูก็เป็นแบบนั้นด้วยเหมือนกันค่ะ

หลังจากนั้นก็ได้เห็นทัศนคติของพี่เขามากขึ้นจนสัมผัสได้ว่า เขาไม่ใช่แค่นักร้อง หรือศิลปิน แต่พี่เขามีมุมที่ลึกไปกว่านั้น ยิ่งได้รู้จัก ยิ่งแลกเปลี่ยนกัน บางเรื่องหนูถึงกับร้อง ห๊ะ! จริงเหรอ ใครจะไปรู้ว่าเขาเป็นคนที่นั่งสมาธิ ซึ่งตัวหนูก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาจะนั่งสมาธิก่อนนอน ค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก พอได้ทำงานกับเขา รู้วิธีคิด และมุมชีวิตของเขา หนูก็เลยแบบ...ผู้ชายคนนี้ดูเจ๋งดีเนอะ น่านับถือ

พี่เขาก็ชวนหนูนั่งสมาธิเหมือนกันนะ แต่หนูเป็นคนยุกยิก อยู่ไม่นิ่ง เป็นผู้หญิงค่อนข้างไฮเปอร์ เขาก็บอกให้ลองดู แต่จะไม่บังคับหนูนะ เขาจะบอกแค่ว่า เขานั่งแล้วได้อะไรบ้าง เช่น วันนี้ดีจริงๆ นะ นั่งแล้วรู้สึกดีแบบนั้น แบบนี้ ปัจจุบันหนูก็นั่งบ้าง มากสุดนั่งได้ 10 นาที มีหลุดบ้างแต่จะเรียกสติกลับมาตลอด" เล่าจบก็หัวเราะยาว



ส่วนข่าวเรื่อง "มือที่สาม" ถามว่ายังกังวล หรือคิดมากอยู่หรือไม่ "ตอนนี้หนูโอเคแล้วนะคะ" เธอบอก "หนูว่าการเป็นนักแสดง หรืออยู่หน้าจอ มันเป็นจุดที่ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์กันได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพอมีข่าวขึ้นมา แน่นอนว่ามีทั้งคนที่รักเรา และไม่ชอบเรา ส่วนตัวยอมรับว่าเสียใจกับข่าวนะคะ เพราะหนูรู้ว่าหนูกำลังทำอะไรอยู่ หนูรู้ว่าหนูมีสติกับทุกช่วงเวลา แต่มันก็ต้องเดินหน้าต่อค่ะ แม้ว่าจะยากในการมองโลกแง่บวก แต่ถ้าเราทำได้ มันคือการชนะความรู้สึก และชนะใจเราด้วย"

ด้านอนาคต เธอยังไม่คิดไปไกลถึงขั้นแต่งงาน "แค่ทำทุกวันให้ดีที่สุด ทำทุกๆ วันให้เราและเขามีความสุขไปด้วยกัน" เธอบอก นอกจากนั้นยังให้มุมมองความรักไว้อย่างน่าสนใจ

"สำหรับคู่รักทุกคู่ หนูมองว่าแค่รักกันมันไม่พอค่ะ ต้องรักและเข้าใจกัน ต้องเข้าใจกันจริงๆ ด้วยนะ เท่านั้นยังไม่พอ ต้องยอมรับโดยที่เราทั้งคู่ไม่ได้ฝืนกันด้วย มีอะไรไม่เข้าใจก็ถามกันตรงๆ สำหรับหนูจะไม่มานั่งพูดประชดประชันกันว่า เหรอ! จริงเหรอ! หนูมองว่ามันไม่ใช่ทางออกที่ดีสำหรับทุกๆ ปัญหา ถ้าอยากเคลียร์ให้มันจบ พูดกันดีๆ พูดกันตรงๆ พูดกันให้เข้าใจ หนูว่ามันเวิร์กกว่านะ"





นอกจากนี้ ยังเผยถึงบทเรียนความรักที่ผ่านๆ มา โดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับใครไม่มากก็น้อย "บางทีตัวเราคิดว่าเก่ง คิดว่าฉันยังไงก็ได้ จะทำอะไรก็ได้ ไม่ปรับอะไรเพื่อใครทั้งนั้น พูดง่ายๆ คือ มีอัตตาสูง ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้เอาจริงๆ อยู่คนเดียวดีกว่านะ เพราะความรักมันมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่เราต้องเรียนรู้อีกมากทั้งความรัก ความเข้าใจ และยอมรับกัน รวมไปถึงปัจจัยเล็กๆ น้อยๆ อีกหลายอย่าง"

สุดท้ายนี้ ใบเตยยกมือไหว้ขอบคุณผู้ที่ติดตามผลงานของเธอด้วยคำพูด และท่าทีที่อ่อนน้อมว่า "ขอบคุณมากจริงๆ นะคะ ขอบคุณมากๆ ที่ติดตามผลงานของหนู คือไม่รู้จะพูดยังไง ดีใจที่อย่างน้อยๆ ก็มีคนเห็นความสามารถของหนู เห็นว่าหนูทำให้คุณยิ้มได้ สำหรับหนูแค่นี้ก็มากเกินพอแล้วค่ะ ไม่ว่าผลงานไหนที่หนูได้รับ หนูจะทำมันออกมาให้ดีที่สุด ฝากติดตาม และรักกันไปเรื่อยๆ แบบนี้นะคะ"

ตลอด 1 ชั่วโมงที่ได้คุยกัน นอกจากได้รู้จักตัวตน และเห็นแง่มุมความคิดอย่างแจ่มชัดแล้ว ความน่ารักสดใสของเธอทำให้ผู้ร่วมสนทนาหลงเสน่ห์ได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะดวงตาคู่โตที่ใครหลายคนเคยเตือนเอาไว้ก่อนมาสัมภาษณ์ว่า หากจ้องนานๆ หัวใจอาจจะวายได้...ไม่เชื่อก็ขอจ้องตากับเธอดู แล้วจะรู้ว่า เธอมีดวงตาเป็นอาวุธ

เรื่อง : ปิยะนันท์ ขุนทอง
ภาพ : ปวริศร์ แพงราช และขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม @iiitoei



ประวัติส่วนตัว

ชื่อ : สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ
ชื่อเล่น : ใบเตย
วันเกิด : 8 สิงหาคม พ.ศ. 2535
อายุ : 21 ปี
สูง : 160 เซนติเมตร
หนัก : 41 กิโลกรัม
การศึกษา : สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสตรีมหาพฤฒาราม
ปัจจุบันจบการศึกษาที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกการแสดงและกำกับการแสดง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร
อาหารจานโปรด : ส้มตำปลาร้ารสจัดจ้าน
ผลงาน : งานโฆษณา เอ็มวี ภาพยนตร์ และซีรีส์หลายเรื่อง
ที่สร้างชื่อคือ เอ็มวี และซีรีส์ "ทิ้งไว้กลางทาง" ปัจจุบัน เป็นนางเอกซีรี่ส์ "ส้มตำแฮมเบอร์เกอร์" ออกอากาศ 11 โมง ทุกวันอาทิตย์ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น