นิสิตทำข้อสอบไม่ได้ ขอความเห็นใจผ่านกระดาษคำตอบ งานนี้ไม่มีใจอ่อน อาจารย์ตอบกลับขอเกรดอย่างนี้ ใบปริญญาจะมีค่าอะไร? แนะไม่ให้เอาเป็นแบบอย่าง อยากได้คะแนนต้องตั้งใจ ยืนยันไม่ได้ต้องการประจานนิสิต ไม่ได้ขาดวุฒิภาวะเพราะไตร่ตรองดีแล้ว แต่ขอเกรดแบบนี้ไม่ใช่เรื่องปกติและไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก!
ง่ายเกินไปไหม? ขอคะแนนแต่ไม่พยายาม!
“หนูทำไม่ได้คร้า ขอความกรุณาหน่อยนะคร้า หนูปี 3 แล้ว หนูอยากฝึกงานปีหน้าคร้า”
คำอ้อนวอนผ่านกระดาษคำตอบที่เว้นว่างหลายข้อของนิสิตชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย ระบุว่าตนทำข้อสอบไม่ได้ พร้อมทั้งขอความเห็นใจจากอาจารย์ว่าตนอยู่ปี 3 ต้องการฝึกงานในปีหน้า ปรากฏสู่โลกออนไลน์ หลังอาจารย์เจ้าของวิชา โพสต์ภาพกระดาษคำตอบของนิสิตคนดังกล่าว และได้ตักเตือนผ่านเฟซบุ๊กว่า “ถ้าเกรดที่ได้มาจากการ ’ขอเกรด’ เเทนที่จะเป็นความรู้ ปริญญาที่น้องจะได้รับพระราชทานจะมีค่าหรือ อยากให้ช่วยกันเเชร์ อยากให้นิสิตมีเกียรติและตั้งใจเรียน”
หลังจากโพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับอาจารย์ที่นำข้อมูลดังกล่าวมาเปิดเผย และบอกว่าการกระทำที่ไม่เหมาะสมของนิสิต เป็นปกติของการสอบวิชานี้ ที่จะมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เพื่อที่จะมีเวลาทบทวนเนื้อหา แต่การกระทำของนิสิตคนนี้สะท้อนว่า ไม่ได้เตรียมตัวมา จึงไม่สมควรที่จะได้คะแนน และท้วงติงถึงการใช้ภาษาไทยที่ไม่ถูกต้อง จาก “ค่ะ” เป็น “คร้า” ทั้งที่อยู่ในระดับอุดมศึกษา ทำเหมือนกับว่า อาจารย์เป็นเพื่อนเล่น!
แต่ก็ยังมีคนบางส่วน แสดงความคิดเห็นในมุมตรงกันข้ามว่า การที่อาจารย์นำกระดาษคำตอบของนักศึกษามาโพสต์นั้นแสดงถึงการไม่มีวุฒิภาวะ จึงประจานนิสิตเช่นนี้ ตัวอาจารย์ก็ทำตัวไม่เหมาะสมเช่นกัน
หลังเรื่องราวกลายเป็นประเด็นร้อน สิทธิพร ภัทรดิลกรัตน์ อาจารย์ประจำวิชาปฏิบัติการชีวะ มหาวิทยาลัยชื่อดัง เจ้าของโพสต์ จึงได้ออกมาประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Sittiporn Pattaradilokrat” เพิ่มเติม ถึงเหตุผลในการเผยแพร่ว่า ต้องการให้สังคมเห็นว่า สิ่งที่นิสิตคนนี้ทำไม่ใช่สิ่งดี ไม่ต้องการให้ผู้อื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง สิ่งที่ทำไปเกิดจากการไตร่ตรองดีแล้ว อยากให้คิดในมุมกลับว่า หากไม่เปิดเผยเรื่องราว แล้วนิสิตคนนี้สอบผ่าน อาจทำให้มีคนคิดได้ว่า การเขียนขอร้องเช่นนี้จะทำให้สอบผ่านเช่นกัน และจะกลายเป็นว่า ใครๆ ก็ทำได้ ซึ่งปัจจุบันมีนิสิตอีกหลายคนที่เห็นว่าการขอความกรุณาเป็นเรื่องปกติ แต่จริงๆ แล้วความคิดนั้นไม่ถูกต้อง
การเผยแพร่นี้ไม่ใช่การประจานมหาวิทยาลัยหรือประจานคุณภาพของนิสิตในมหาวิทยาลัย ไม่เพียงแค่หน่วยงานที่อาจารย์สังกัดอยู่ จริงๆ แล้วมีคนหลงผิดอยู่ทุกสังคม เพราะยังมีคนเห็นว่า การขอเกรดหรือขอคะแนนนั้น เป็นเรื่องปกติ จึงใช้โอกาสนี้เป็นกรณีศึกษา รณรงค์ให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา พยายามตั้งใจเรียน เห็นคุณค่าของการวัดผลให้มากกว่านี้ อาจารย์ยังบอกอีกว่า ปริญญาจริงๆ ที่จะได้จากการเรียนในมหาวิทยาลัย คือความรู้ ประสบการณ์ที่จะนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเอง ครอบครัว และตอบเเทนสังคมในอนาคต
“เมื่อมีการสอบครั้งใด ตนต้องเป็นที่พึ่งเเห่งตน” อาจารย์สิทธิพรฝากข้อคิดทิ้งท้าย
ซ้ำรอยขอคะแนน...Strong ก็มี วาดรูปก็มา!
ย้อนกลับไปไม่นานมานี้ มีประเด็นดรามานิสิตทำข้อสอบไม่ได้ จึงใช้กระดาษคำตอบเป็นที่ระบาย วาดภาพตัวการ์ตูนที่คาดเดาได้ว่าเป็นเมนเทอร์ “ลูกเกด-เมทินี” จากรายการ The Face Thailand ที่กำลังโด่งดังในขณะนั้น ระบุข้อความว่า “Strong!!” ผ่านกระดาษคำตอบในวิชาของ “อาจารย์นาวิน ต้าร์” ทำเอาอาจารย์สุดหล่อถึงกับงงเลยทีเดียว และได้นำกระดาษคำตอบของนิสิตคนนี้โพสต์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมบรรยายว่า
“ผมสงสัยว่า อ.นาวิน สอนนิสิตปริญญาตรีอยู่จริงหรือไม่ #คราวหน้าถ้าทำข้อสอบไม่ได้ #นั่งเฉยๆดีกว่า #แต่ต้องการขีดๆ เขียนๆ จริงๆ #ขอกระดาษทดก็ได้นะ #โชคดีที่ไม่ระบายสีมาด้วย” และเขียนเพิ่มเติมลงในกระดาษคำตอบของนิสิตคนนั้นไปอีกว่า “คุณจะต้อง Strong ตอนรู้ผลคะแนนนี้แหละ”
กระแสในโลกโซเชียลไม่ต่างจากกรณีเบื้องต้นที่มีทั้งบวกและลบ โดยส่วนใหญ่มองว่า ไม่ควรวาดภาพลงในกระดาษ หากทำไม่ได้ก็ควรเว้นที่เอาไว้ ถึงตอบมั่วก็ยังมีความพยายาม แต่การวาดรูปเล่นแสดงถึงความไม่ใส่ใจ ทำไปเพียงเพราะฆ่าเวลาเท่านั้น ที่สำคัญอยู่ในระดับอุดมศึกษาแล้ว ยิ่งไม่ควรมาทำอะไรแบบนี้ สะท้อนให้เห็นว่าเด็กไทยไม่รู้จักโต!
ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่ แต่มีเสียงสะท้อนอีกไม่น้อยที่บอกเอาไว้ว่า พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนิสิต นักศึกษาเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ ทั้งวาดภาพ ทั้งเขียนขอคะแนน ขอความเห็นใจ บางรายถึงกับเขียนเบอร์โทรศัพท์ทิ้งไว้ในกระดาษคำตอบ เผื่ออาจารย์ตรวจแล้วไม่เข้าใจ จะได้อธิบายเพิ่มเติมได้ก็ยังมี! และบอกอีกด้วยว่า กระดาษคำตอบนั้นบางสถาบันถือว่าเป็นความลับ การที่อาจารย์ต้าร์นำมาข้อมูลมาเปิดเผยนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง กรณีนี้ควรเรียกนิสิตเจ้าของกระดาษคำตอบมาตักเตือนจะดีกว่า ย้ำว่าต้องแยกแยะบทบาทระหว่างงอาจารย์กับนักแสดงด้วย ไม่ใช่จะโพสต์อะไรก็ได้ในอินสตาแกรม และยังมีการแซวอาจารย์ต้าร์ทิ้งท้ายด้วยว่า สงสัยนิสิตมัวแต่มองหน้าหล่อๆ ของอาจารย์จนลืมตั้งใจเรียนก็เป็นได้
หลังเผยพฤติกรรมสุดซี้ดของนิสิตบนอินสตาแกรม ด้านอาจารย์ต้าร์ จึงได้ออกมายืนยันว่า ที่ทำไปไม่ได้มีเจตนาที่จะประจานเด็ก ยอมรับว่าตั้งแต่สอนมาเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเด็กที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัย ปี 2 ข้อสอบที่ได้ออกมีความยากง่ายสลับกันไป ส่วนตัวคิดว่าหากทำข้อสอบไม่ได้ส่งกระดาษเปล่าน่าจะดีกว่า
ไม่เพียงแต่ระดับปริญญาตรีเท่านั้นที่เกิดประเด็นเช่นนี้ ทางฝั่งมัธยมก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เพราะมีอาจารย์ท่านหนึ่งโพสต์ภาพกระดาษคำตอบที่นักเรียนชั้น ม.6 วาดภาพที่แสดงถึงตัวนักเรียน ก้มกราบอาจารย์ผู้สอน ระบุข้อความ “อ่านไม่ทันครับ กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ ถวายบังคม ทำไม่ได้ครับ” ซึ่งอาจารย์ได้โพสต์ภาพกระดาษคำตอบนี้ พร้อมข้อความถึงลูกศิษย์สุดเกรียนด้วยอารมณ์ขำๆ ว่า ‘ไม่ต้องเรียนแล้วก็ได้ บวชวัดไหนบอกด้วยจะไป’ กลายเป็นว่างานนี้เรียกเสียงฮาให้กับผู้ที่ได้พบเห็นไม่น้อย
ในการสอบแต่ละครั้ง จะมีการแจ้งให้ผู้เรียนทราบล่วงหน้า หากรู้ว่าตนเองความจำไม่ดี ยิ่งต้องเตรียมตัวให้มากกว่าคนอื่น ดังนั้น นักเรียน นิสิต นักศึกษา จึงควรตั้งใจ ทำความเข้าใจกับเนื้อหา ทั้งในและนอกเวลาเรียน หากทำไม่ได้ก็ต้องยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา การอ้อนวอนขอความเห็นใจกับอาจารย์ผู้สอน จึงไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้ได้คะแนน มีแต่จะสะท้อนให้เห็นถึงนิสัยไม่รู้จักโตของตัวเอง!
ข่าวโดย : ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพ : เฟซบุ๊ก “Sittiporn Pattaradilokrat” , “Kanisth Chatikanon” และ www.pantip.com/topic/34649396
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754