xs
xsm
sm
md
lg

“ปากคลองตลาด” ตำนานกว่าศตวรรษ!! จะอยู่หรือจะไป?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กทม.ลงดาบเอาจริง จัดระเบียบปากคลองตลาด ทวงคืนทางเท้าให้แก่ประชาชน ถ้าทำไม่ได้ต้องย้ายแน่นอนภายใน 29 ก.พ.นี้! แม่ค้าขอความเห็นใจ วอน กทม.อย่ายึดที่ทำกิน หวั่นกระทบวิถีชีวิต และทำลายเสน่ห์ตลาดดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก




แม่ค้าโอดครวญ ย้ายแผงเมื่อไหร่ ราคาแพงขึ้นแน่นอน!!

ทนไม่ไหว! กทม.ออกโรงจัดระเบียบ “ปากคลองตลาด” ที่มีปัญหาเรื้อรังมานาน หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าสร้างความเดือดร้อนต่อการสัญจรไปมา เป็นต้นเหตุของปัญหาการจราจรติดขัดอย่างรุนแรงในละแวกกรุงเก่า เนื่องจากผู้ค้าตั้งแผงรุกล้ำลงมากีดขวางทางเท้าและผิวจราจร รวมถึงรถขนส่งดอกไม้ที่แวะมาจอดกินพื้นที่ จนทำให้เหลือถนนเพียงเลนเดียว
 
ในที่ประชุมจึงมีความเห็นว่า จำเป็นต้องขอความร่วมมือจากผู้ค้า ให้มีการย้ายไปยังตลาดยอดพิมาน ตลาดส่งเสริมการเกษตรไทย และตลาดปากคลองตลาด ซึ่งสามารถรองรับผู้ค้าได้กว่า 1,269 แผง โดยจะมีการอำนวยความสะดวก ไม่มีการเก็บค่าเช่าในเดือนแรก และเก็บค่าเช่าในอัตราเดิม ระบุชัดว่าห้ามค้าขายบริเวณริมถนนปากคลองตลาดตั้งแต่วันที่ 29 ก.พ.เป็นต้นไป


แน่นอนว่าคนที่เดือดร้อนที่สุดต้องเป็นบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ทางทีมข่าวผู้จัดการ Live จึงได้ลงพื้นที่สำรวจความจริง ว่าแผงค้าของพวกเขา เป็นไปตามคำครหาหรือไม่ พบว่ามีการวางสินค้าเต็มพื้นที่ตลอดแนวทางเท้า และยังมีบางรายวางล้ำลงมาอยู่บนถนน ทั้งยังมีรถที่ใช้รับส่งสินค้าจอดกีดขวางทางอยู่เป็นระยะ มีพื้นผิวทางเท้าที่ชำรุดบ้างประปราย รถยนต์และรถเข็นก็เลี้ยวเข้าออกในซอยอย่างกระชั้นชิด เรียกได้ว่าคนที่จะมาเดินจะต้อง Strong! มากพอสมควร ที่จะประคองสติให้ไม่ถูกเฉี่ยวชน

แต่ถึงอย่างนั้นก็มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินชมและเลือกซื้อสินค้าไม่ขาดสาย ถ้ามองจากมุมของ ป้าสมหมาย ชมทะวี เจ้าของร้านพวงมาลัยซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมทางเดินของปากคลองตลาดแล้ว ป้ามองว่าความวุ่นวายทั้งหมดที่เห็นคือ “เสน่ห์” ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยซ้ำไป


[สมหมาย ชมทะวี เจ้าของร้านพวงมาลัย]
เจ้าของร้านพวงมาลัยวัย 52 ปี บอกเลยว่า ไม่อยากย้ายไปไหนเพราะประกอบอาชีพอยู่ตรงนี้มากว่า 40 ปีแล้ว เป็นกิจการครอบครัว ด้วยอายุที่มาก จะไปเริ่มต้นที่ไหนใหม่คงลำบาก หากจะต้องมีการย้ายจริงๆ คงกระทบอีกหลายส่วน ไม่ใช่ส่วนเล็กๆ อย่างครอบครัวป้าเท่านั้น แต่ยังกระทบไปถึงเรื่องภาพรวมการท่องเที่ยว จากปกติแล้วจะมีชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวที่ปากคลองตลาดเป็นจำนวนมาก เพราะที่นี่เป็นถึงตลาดค้าดอกไม้ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก หากมีการจัดระเบียบจริงๆ อาจส่งผลให้การท่องเที่ยวสะดุด และเม็ดเงินหมุนเวียนภายในประเทศก็อาจหดหายไปด้วย

“ป้าว่าเสน่ห์ของมันคือการอนุรักษ์วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม มีแม่ค้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว ได้แสดงงานฝีมือแบบไทยๆ อย่างที่ร้านป้าขายพวงมาลัยก็จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาแวะดูและขอถ่ายภาพ พร้อมกับชื่นชมงานฝีมือแบบไทยว่าสวยงาม และหากจำเป็นต้องมีการจัดระเบียบเกิดขึ้นจริง ป้าก็พร้อมทำตามข้อตกลงทุกอย่าง ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากย้ายไปไหน” เจ้าของแผงพวงมาลัยบริเวณปากคลองตลาด เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ แต่ยังแฝงไปด้วยความหวังว่า การเจรจากับทาง กทม.จะเป็นไปในทิศทางที่ดี และหาจุดที่ตกลงร่วมกันได้อย่างลงตัวทุกฝ่าย


ไม่ต่างจากความคิดเห็นของผู้ค้าคนอื่นๆ อาทิ ผู้ค้าดอกไม้ ผู้ค้าผลไม้ รวมไปถึงผู้ค้าอาหารสำเร็จรูป ที่ทางทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุย ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่อยากย้ายไปจากตรงนี้เพราะเป็นอาชีพดั้งเดิมสืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น โดยยอมรับว่าการทำมาค้าขายทุกวันนี้ทำผิดกฎระเบียบของ กทม.เช่นกัน คือการรุกล้ำที่สาธารณะและมีส่วนทำให้รถติด แต่ก็อยากให้มองอย่างเข้าใจว่าไม่ใช่แค่พื้นที่บริเวณนี้ที่มีการจราจรคับคั่ง ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่เป็นต้นเหตุทำให้รถติดเช่นเดียวกัน

ไม่เพียงแต่ร้านที่อยู่ริมทางเท้าเท่านั้น ร้านที่ตั้งบริเวณตึกแถวต่างพลอยได้รับผลกระทบไม่ต่างกันกันคือ จำกัดการตั้งร้านล้ำออกมาได้เพียงเพียง 1.5 เมตร หรือที่แม่ค้าแถวนั้นเรียกว่า “ติดธรณีประตู” ทำให้ไม่สามารถวางสินค้าขายได้เหมือนเช่นเคย และส่วนถ้าจะต้องย้ายไปยังพื้นที่ที่ทาง กทม.จัดสรรไว้คือตลาดยอดพิมาน ตลาดส่งเสริมการเกษตรไทย และตลาดปากคลองตลาด ซึ่งเป็นตลาดเอกชน ที่ตั้งอยู่โซนด้านใน ไม่ติดถนนใหญ่

แม้ทาง กทม.จะยืนยันว่าไม่ต้องจ่ายแพงขึ้นก็ตาม แต่จากประสบการณ์ของแม่ค้าต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ราคาค่าเช่าย่อมต้องแพงขึ้น จากปัจจัยนี้จะส่งผลให้ราคาสินค้าสูงขึ้นได้ในอนาคตและอาจกระทบต่อจำนวนผู้ที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าด้วย




จัดระเบียบได้ แต่อย่าทำลาย “เสน่ห์”

เสน่ห์ของปากคลองตลาดคือการเป็นแหล่งค้าดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่มาก ทั้งยังเป็นตลาดเก่า ที่พัฒนามาจากตลาดริมน้ำ ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ รวมไปถึงสถาปัตยกรรมด้านสิ่งปลูกสร้างที่สวยงาม ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมปากคลองตลาดจึงเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้”

ไอศูรย์ ยติรัตนกวีชัย นักอนุรักษ์ผู้ทำงานร่วมกับชุมชนเก่าย่านพระนคร ฝากมุมมองของเขาที่มีต่อปากคลองตลาด โดยมองว่า ปากคลองตลาดเป็นศูนย์กลางของตลาดดอกไม้และสินค้าเกษตรของพื้นที่ กทม. ชั้นในที่มีขนาดใหญ่ เมื่อมีการขยายตัวของตลาดย่อมส่งผลให้ปริมาณรถที่ใช้ขนส่งมีเพิ่มมากขึ้น การค้าจึงทะลักมาอยู่บริเวณทางเท้า กลายเป็นว่าเมื่อมีคนซื้อสินค้าและจอดรถไว้ข้างทาง หรือรถตุ๊กตุ๊กที่จอดรอรับผู้โดยสารบริเวณนั้น ส่งผลช่องจราจรลดลงไปอีก  แต่ถึงแม้ปากคลองตลาดจะเป็น Landmark สำคัญของนักท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ แต่ก็ไม่ควรละเลยเรื่องระเบียบเช่นกัน

“ต่อไปต้องมองให้ครอบคลุมโดยรอบเพราะในอนาคตจะมีการสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายมาจากสถานีหัวลำโพง จะทำให้การเดินทางหนาแน่นขึ้นกว่าเดิม การทวงคืนทางเท้ามันเลยกลายเป็นเพียงก้าวเล็กๆ ของการพัฒนาพื้นที่เพราะเราจะสังเกตได้ว่า ในเขตกรุงเก่าละแวกนี้มันมีการรีโนเวต(ปรับปรุง) พื้นที่ในลักษณะนี้เยอะมาก ทั้งท่าช้าง ท่าพระจันทร์ ท่าเตียน และตอนนี้ก็มาถึงคิวของปากคลองตลาด จึงไม่แปลกที่จะมีการจัดระเบียบ


แต่ถึงจะจำเป็นต้องมีการจัดระเบียบ ปภาวัฒน์ ปานบำรุง จิตอาสาผู้ทำงานร่วมกับชุมชนกุฎีจีนซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามปากคลองตลาดก็ยังมองว่า ไม่ควรละทิ้ง “เสน่ห์” ของปากคลองตลาดเพราะเป็นตลาดค้าดอกไม้เก่าที่มีอายุกว่า 100 ปีและใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานและมีสิ่งปลูกสร้างที่สวยงาม เรียกได้ว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต เสน่ห์ของความเป็นตลาดเก่ากับความเป็นระเบียบสามารถไปด้วยกันได้

“แต่เมื่อต้องมีการจัดระเบียบจริงๆ แล้ว ถ้าเป็นไปได้ควรมีการทำประชาพิจารณ์ฟังเสียงประชาชนว่าควรทำอย่างไรกับปัญหานี้ ควรมีการจัดสรรพื้นที่ว่าย่านไหนควรอนุรักษ์ ส่วนเรื่องการรุกล้ำพื้นที่ทางเท้าก็ต้องมีการจัดสรรให้เป็นระบบ ทั้งตัวผู้ค้า ผู้มาซื้อสินค้า และรถเข็นที่ใช้ขนส่งสินค้าในตลาด เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและไม่กีดขวางการสัญจร




จะอยู่หรือไป? รอดูผลทดลองจัดระเบียบ

[เจ้าหน้าที่ตรวจดูความเรียบร้อยในการทดลองจัดระเบียบ]
17-29 ก.พ.นี้ ชี้ชะตาว่าเหล่าแม่ค้าจะยิ้มหรือจะร้องไห้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯ กทม.ยอมอนุโลมเรียกประชุม กระทั่งได้ข้อสรุปออกมาว่า ถ้ายังไม่อยากย้าย ต้องร่วมมือกันรักษาความสะอาด ไม่วางสินค้าเกะกะทางเท้าหรือวางสินค้าบนถนนเพื่อให้ประชาชนสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก กทม.ได้กำหนดให้วางแผงขายสินค้าได้ประมาณ 1.5 เมตรจากหน้าถนน มีเส้นแบ่งแผงค้าที่ชัดเจน และหากมีรถยนต์ของผู้ค้าที่ขีดขวางทางจราจร อนุญาตให้ กทม.ปรับได้ในอัตราสูงสุด

ส่วนในเวลา 20.30 - 04.30 น. จะอนุโลมให้ผู้ค้าสามารถขายสินค้าได้ทั้งในและนอกจุดผ่อนผันและจอดรถรับส่งสินค้าได้ นอกเหนือจากเวลาดังกล่าวแล้ว ไม่สามารถให้มีการขายสินค้าหรือจอดรถได้อีกเพื่อไม่ให้กระทบกับการจราจร และรถเข็นสามารถใช้เส้นทางได้บริเวณร่องน้ำริมถนน ไม่มีการสัญจรบนถนนเพราะจะเป็นการกีดขวางเส้นทางจราจร


[สภาพปากคลองตลาด จากการทดลองจัดระเบียบ]
คำสั่งจัดระเบียบครั้งนี้คือ การทดลองจัดระเบียบชั่วคราวเพื่อดูความเปลี่ยนแปลงของผู้ค้า โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจเป็นระยะ และจะมีข้อสรุปสุดท้ายออกมาภายในวันที่ 29 ก.พ. หากผลเป็นที่น่าพอใจก็จะอนุญาตให้ผู้ค้าสามารถค้าขายริมถนนต่อไปได้ และหากไม่ปฏิบัติตามจะต้อง “ยกเลิก” การขายสินค้าบริเวณริมถนนและคืนทางเท้าให้กับ กทม.



[จันทนา บุณยเกียรติ เจ้าของร้านดอกบัว และตัวแทนผู้ค้า]
จันทนา บุณยเกียรติ ตัวแทนผู้ค้า ได้ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่าทาง กทม. รับฟังปัญหาและให้โอกาสผู้ค้าในการทดลองจัดระเบียบ รับปากว่าแก้ไขอย่างสุดความสามารถให้มีความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย และจะต้องต้องขอความร่วมมือผู้ค้าด้วยกันเองในการปฏิบัติตามกฎกติกาที่ได้รับมาด้วย

เนื่องจากบางรายเป็นทั้งผู้ปลูกและผู้ค้า บางรายรับสินค้ามาจากเกษตรกรโดยตรง หากการจัดระเบียบครั้งนี้ไม่เป็นที่ถูกใจ กทม.จะต้องมีคำสั่งให้ย้ายแผงค้า ก็มีแนวโน้มว่าแม่ค้ากว่าครึ่งจะถอดใจ ขนของกลับบ้าน เลิกขายและย้ายไปเอาดีในวิชาชีพอื่นไปเลย หากเป็นเช่นนั้น ย่อมส่งผลกระทบให้ปากคลองตลาดขาดสินค้า เช่น ดอกไม้บางพันธุ์ หรืออาจทำให้มีราคาสูงขึ้นได้

"เราไม่มีสิทธิ์ไม่พอใจ ถ้าอยากอยู่ต้องปฏิบัติตาม" เจ้าของร้านดอกบัวตัวแทนผู้ค้ากล่าวทิ้งท้าย







กทม. ยังเดินหน้าจัดระเบียบอย่างต่อเนื่อง ไม่เฉพาะบริเวณปากคลองตลาดเท่านั้น ยังมีพื้นที่อื่นอันได้แก่ บริเวณใต้สะพานพุทธ บางลำพู ประตูน้ำ ราชเทวี สยามสแควร์ เป็นต้น คาดว่าทาง กทม. จะมีการเร่งจัดระเบียบต่อไปเพื่อปรับภูมิทัศน์และคืนทางเท้าให้กับประชาชน

ข่าวโดย ผู้จัดการ Live

ข่าวที่เกี่ยวข้อง (คลิก)
- ปิดตำนานตลาดดอกไม้ “ปากคลองตลาด” สวยสะพรั่งในความทรงจำ




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น