อุทาหรณ์เสี่ยงตายเพราะเซลฟี(Selfie)มีมาให้เห็นเป็นระลอก และเกิดขึ้นอีกจนได้ จากกรณีเด็กนักเรียนชั้น ม.5 ปีนดาดฟ้าห้างย่านศรีราชาขึ้นไปถ่ายเซลฟีกับเพื่อน เพราะอยากได้มุมและวิวสวยสุดแปลกไม่ซ้ำใคร แต่พลาดเหยียบกระเบื้องแตก!ร่วงละลิ่วดิ่งลงมาจากความสูง 15 เมตร กระแทกคานเหล็กก่อนร่างทิ่มสู่พื้นบาดเจ็บสาหัสจนเกือบกลายเป็นโศกนาฏกรรม เพราะความประมาทแท้ๆ เพียงเพราะเซลฟีแชะเดียวเสี้ยววินาทีเท่านั้น จนหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่น่าเลย”
ชีวิตมีค่า...มากกว่าหนึ่งล้านไลค์
กระแสการปีนขึ้นไปถ่ายภาพตัวเองบนยอดตึกสูงนั้นกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของวัยรุ่นและช่างภาพจำนวนหนึ่ง ไปแล้วเพราะเรียกเสียงฮือฮาบวกความเท่ เสี่ยงแล้วเจ๋ง ในโลกออนไลน์ ด้วยทิวทัศน์อันน่าสะพรึงตื่นตะลึง แต่จะคุ้มไหมกับการเสี่ยงตายดับอนาถเพียงเสี้ยววินาที
เจ้าหน้าที่พบร่างของเด็กนักเรียนชาย อายุ 17 ปี ชั้น ม.5 จากโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในอำเภอศรีราชา อยู่ในชุดนักเรียน ใส่เสื้อกันหนาวสีดำนอนคว่ำหน้าสลบไม่ได้สติ มีเลือดออกจากปากและจมูก รอบๆ ร่างมีเศษกระเบื้องแตกกระจัดกระจายเต็มพื้นไปหมด
สอบถามได้ความว่า เด็กนักเรียนคนนี้ตกจากที่สูงบริเวณห้างสรรพสินค้าชื่อดังใน อ.ศรีราชา โดยเหตุเกิดบริเวณชั้น 4 ของห้างสรรพสินค้า เด็กนักเรียนกลุ่มดังกล่าวได้แอบขึ้นไปทางบันไดหนีไฟ ทั้งที่มีป้ายเตือน!ห้ามบุคคลภายนอกขึ้นไปติดอยู่ตามทางเดิน
เพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า หลังเลิกเรียนตนและเพื่อน ๆ 4 คน รวมทั้งเพื่อนที่บาดเจ็บ ได้มาเดินเล่นในห้าง ก่อนจะชวนกันไปถ่ายรูปบนชั้นดาดฟ้าของห้าง ซึ่งมีความสูงประมาณ 15 เมตร สาเหตุที่อยากขึ้นไปเพราะก่อนหน้านี้เคยมีเพื่อนขึ้นไปถ่ายรูปวิวชั้นดังกล่าวมาเล่าให้ฟังว่าวิวสวยมาก จึงอยากขึ้นไปถ่ายบ้าง เลยพากันแอบขึ้นทางประตูหนีไฟ เมื่อขึ้นไปถึงก็ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเซลฟีกัน และปีนขึ้นไปถ่ายรูปบนขอบปูนที่กั้นระหว่างตัวดาดฟ้ากับหลังคา ซึ่งนักเรียนที่บาดเจ็บเป็นคนถ่ายให้ และคงลงไปเหยียบบนหลังคากระเบื้อง ด้วยความที่เป็นคนรูปร่างใหญ่ หลังคาจึงรับน้ำหนักไม่ไหวและแตก ทำให้ร่วงหล่นมากระแทกคานเหล็ก ก่อนหล่นลงมากระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บ
เคราะห์ดีที่รอด ผู้คนในสังคมโซเชียลมากมายออกมาแสดงความคิดเห็น ว่าควรจะสรรหาวิวที่และสถานที่ที่ปลอดภัยกว่านี้ดีไหม พลาดขึ้นมาจะไม่คุ้ม
"ไม่ได้ว่าซ้ำเติมนะครับ รู้ว่าเจ็บ แต่อยากจะบอกว่าถ้าคนเราถ่ายรูปปกติธรรมดา ไม่ให้มันหวาดเสียวเรื่องมันก็ไม่เกิด กี่รายแล้วที่ถ่ายภาพเซลฟี่แล้วตาย เพราะประมาทกันแท้ๆ เป็นข่าวให้เราได้อ่านกันก็มากอยู่ ฉะนั้นควรไม่ประมาทนะครับเพราะไม่อยากให้เกิดการสูญเสีย พ่อแม่จะเสียใจ" ความคิดเห็นจาก Somsak Pinkaew
"ค่านิยมผิดๆ ตายเพราะเซลฟี่เยอะแล้ว อยู่บนหลังคา เขาให้เหยียบตรงที่มีน็อต หรือแนวของน็อต เพราะมันมีเหล็กรับน้ำหนักได้ ตรงที่ตกลงมากระเบื้องเพียวๆ ต้องโดนสอนซะก่อนถึงค่อยรู้" ความคิดเห็นจาก Suthee Adisai
"อยากได้วิวสวยหาสถานที่มันปลอดภัยดีกว่ามั้ยน้อง พลาดมาพี่ว่ามันไม่คุ้ม อย่าทำตามฝรั่งเค้าเลย ทะเล ภูเขา สวยกว่าเยอะ" ความคิดเห็นจาก Premsak Tongdeenok
จิตหมกมุ่น ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
ประเด็นนี้ ธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการสถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ เคยให้สัมภาษณ์ถึงพฤติกรรมเซลฟีเสี่ยงอันตรายไว้ด้วยว่า
"คนส่วนใหญ่เวลาเซลฟี เขาจะสนใจอยู่แค่ 2 องค์ประกอบหลัก คือหน้าตาของเขาที่ปรากฏบนภาพ กับสิ่งที่เขาต้องการจะถ่ายด้วย ทำให้พุ่งความสนใจไปที่การดูว่า หน้าฉันสวยหรือยัง มุมกล้องโอเคไหม แอปพลิเคชันที่เลือกดีที่สุดแล้วใช่ไหม เป็นการพุ่งความสนใจไปที่ตัวเองเป็นหลัก ทำให้ขาดความระวังในสถานการณ์รอบๆตัว
ทว่า คนที่เสียชีวิตส่วนมาก เกิดจากการขาดความระมัดระวังในตัวสถานที่ที่ไปยืนถ่ายรูป ณ เวลานั้น สถานที่ส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตกันจึงเป็นประเภทตึกสูง หรือเหตุชุลมุนวุ่นวาย นอกจากสิ่งที่อันตรายรองลงมาจากเรื่องความเสี่ยงจากสถานที่ถ่ายรูปแล้ว คือ เรื่องสภาวะทางจิต จิตหมกมุ่นกับการเซลฟีมากเกินไปจนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
การถ่ายเซลฟีเสี่ยงอันตรายสูง มีสิทธิเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าการถ่ายภาพวิวธรรมดาแน่นอน เพราะถ่ายรูปปกติคนเราจะมองเป็นภาพกว้างภาพรวมมากกว่า อันตรายจึงเกิดขึ้นน้อยกว่า" อาจารย์ธาม วิเคราะห์ถึงอันตรายจากภัยเซลฟี
อุทาหรณ์เพียบ แชะเมามัน พลาด ...ดับ!
กรณีของเด็กไทยตกตึกเซลฟีสนองมุมสวยบนดาดฟ้าห้างยังถือว่าโชคดี ที่ยังรอด แต่ทุกคนไม่ได้โชคดีเพราะประมาทเสมอไป เช่น สองสามี-ภรรยา ชาวโปแลนด์ เดินทางมาท่องเที่ยวพร้อมกับลูกสองคน วัย 6 ขวบ และ 5 ขวบ โดยไปเที่ยวหน้าผาคาโบ ดา โรคา (CaBo Da Roca) จุดชมวิวทะเลที่สวยสะพรึง ในประเทศโปรตุเกส โดยทั้งคู่ ได้ทำสิ่งที่นักท่องเที่ยวรายอื่นต้องช็อก! ด้วยการปีนออกนอกรั้วกั้นแนวอันตรายเพื่อไปถ่ายรูปเซลฟี กระทั่ง วาระสุดท้ายมาเยือน เมื่อทั้งคู่เกิดพลาดท่าขณะถ่ายเซลฟี จนพลัดตกลงไปจากหน้าผา ซึ่งมีความสูงกว่า 100 ฟุต แน่นอน..ไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ทั้งคู่ดิ่งเหวเสียชีวิตต่อหน้าสองลูกน้อย
อีกรายจากสเปน หนุ่มวัย 21 ถูกกระแสไฟฟ้าช็อตตายอย่างน่าสลด ขณะพยายามปีนขึ้นไปบนหลังคารถไฟเพื่อถ่ายรูปเซลฟี เพื่อให้ได้มุมมองใหม่จนต้องจบชีวิตก่อนวัยอันควร
รวมถึงสองสาวคอลเลทท์ โมเรโน (Collette Moreno) และแอชลีย์ ทีโอบอลด์ (Ashley Theobald) ที่ต้องมาตายเพราะความประมาทอย่างแรง เพราะขณะที่ทั้งคู่กำลังขับรถ สองนางก็กระหน่ำเซลฟีแชะกล้องหน้าอย่างเมามัน จนแทบไม่ได้มองทาง จากนั้นเพียงไม่กี่นาทีพวกเธอก็ถูกรถที่สวนมาชนอย่างจังดับอนาถ
อีกกรณีที่เป็นข่าวใหญ่โต เพราะมืออาชีพยังพลาด! อันเดรย์ เรทรอฟสกี หนุ่มรัสเซีย พลัดตกจากตึกสูงแห่งหนึ่งในเมืองโวลอกโด หลังปีนขึ้นไปถ่ายภาพเซลฟี ลงอินสตาแกรม โดยปกติเขาชอบถ่ายภาพเซลฟีแนวหวาดเสียว เสี่ยงอันตรายกับเพื่อนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นจากชั้นบนสุดของตึกสูงหรือสิ่งก่อสร้างต่างๆเ พื่อโพสต์ลงอินสตาแกรมส่วนตัว กระทั่ง วันสุดท้ายของชีวิต เขาได้ปีนขึ้นตึกสูงถึง 9 ชั้น เพื่อเก็บภาพเหมือนเคย แต่ครั้งนี้เชือกนิรภัยของเขากลับมีปัญหากะทันหัน ส่งผลให้เขาดิ่งลงสู่พื้นจนบาดเจ็บสาหัส และสียชีวิตในเวลาต่อมา
เหตุการณ์สุดน่าเศร้านี้ จึงทำให้ชาวรัสเซียเรียกร้องให้รัฐบาลจัดตั้งแคมเปญ "Safe Selfie" รณรงค์ไม่ให้หนุ่มสาวถ่ายภาพเซลฟีสุดอันตรายอีก พร้อมชี้ว่า "แม้จะได้ยอดไลค์เป็นล้านบนโลกโซเชียล ก็ไม่คุ้มค่าจะเสี่ยงชีวิตอยู่ดี"
สถานการณ์ใดไม่ควรเซลฟี!?
หลังเกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายในรัสเซีย สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ตำรวจมอสโกได้แจกแผ่นพับที่มีภาพกราฟฟิก พร้อมคำอธิบายว่า ในสถานการณ์ใดบ้างที่ไม่ควรถ่ายเซลฟี เช่น บนท้องถนนที่มีรถวิ่งไปมาพลุกพล่าน ขณะอยู่ในเรือที่กำลังแล่น ขณะอยู่บนชานชาลาที่รถไฟกำลังจอดเทียบ หรือแม้กระทั่งการถ่ายเซลฟีกับเสือ ที่เป็นเรื่องไม่ควรทำ
ผู้สื่อข่าว ยังเปิดเผยเหตุเซลฟีพิเรนทร์ด้วยว่า มีสาววัยรุ่นคนหนึ่งในกรุงมอสโก ทำปืนลั่นเข้าศีรษะตัวเองตอนกำลังจะถ่ายเซลฟีคู่กับปืน โชคดี เธอรอด ส่วนอีกราย เป็น 2 หนุ่ม ถ่ายเซลฟีขณะกำลังทำท่าดึงสลักระเบิดมือ แต่ไม่ได้โชคดีแบบสาวคนแรก
ตำรวจมอสโก ยังบอกด้วยว่า เฉพาะปีเดียวก็มีอุบัติเหตุจากการถ่ายเซลฟีหลายร่อยคดี บางคดีมีผู้เสียชีวิตด้วย ทั้งยังเตือนด้วยว่า ไม่ต้องเชื่อคำแนะนำดังกล่าวก็ได้ เพราะการถ่ายเซลฟีครั้งต่อไป อาจจะเป็นเซลฟีครั้งสุดท้ายในชีวิตคุณ!
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
