คอลัมน์ Heath Insight โดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช
ผมชอบตรุษจีนเพราะหลายเหตุผลด้วยกันครับ
นอกจากดีใจที่ได้เห็นความสุขคึกคักของทุกท่านแล้วก็ชวนหวนนึกถึงวันวานตามประสาคนที่ชอบคิดถึงอดีต ด้วยงานรื่นเริงแบบชาวจีนเรานี้ให้นึกถึงความหลังครั้งที่ได้เห็นเพื่อนๆ หยุดเรียน ได้คอยไปรับอั่งเปาตามบ้าน แล้วเมื่อได้เวลาไหว้ก็ยังจำกลิ่นธูปควันเทียนที่ติดจมูกได้ดี มาพร้อมหน้ากันแล้วก็รับประทานข้าวกลางวัน
กากี่นั้ง---คนกันเองทั้งนั้น
ตอนนี้ผมมีสถานะที่เปลี่ยนไปด้วยลูกพี่ลูกน้องที่วิ่งเล่นมาด้วยกันช่วยอัพสเตตัสให้ เพราะมันเพิ่งมีลูกชายไม่นาน ผมเลยได้รับการสถาปนาให้เป็น “อาเจ็ก” โดยปริยาย ทำให้คิดถึงเมื่อวัยเด็กที่ยังวิ่งเล่นแข่งกันรับซองแดงแล้วเอามาดูกัน ซึ่งตอนนี้ผมถึงวัยที่ต้องให้แต๊ะเอียเขาบ้างแล้ว
เชื่อว่าตรุษจีนคงชวนให้ท่านนึกถึงเรื่องสนุกๆ ที่ผ่านมาเช่นกัน สำหรับในวันสำคัญเช่นนี้มีสิ่งที่ต้องเตรียมตัวอยู่มาก โดยเฉพาะเรื่องการจับจ่ายอาหารและผักผลไม้เพื่อนำมาทำของไหว้ ซึ่งผมเองก็ได้เล่าเรื่องเทคนิคการกินตรุษจีนไว้ในแต่ละปีแล้ว
สำหรับปีนี้อยากขออนุญาตเล่าถึงสารอาหารที่พบเยอะในอาหารตรุษจีนที่เราเอามาสร้างความ “แข็งแรง” ให้ร่างกายได้ไม่ยาก ดังที่เคยไปบรรยายให้กับที่ประชุมของสมาคมนักอาหารแห่งประเทศไทย (Thai Dietatic Association)ไว้ครั้งหนึ่งถึงเรื่องอาหารช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งในครั้งนี้อาหารไหว้ก็ช่วยให้ภูมิแข็งแรงกับร่างกายของเราได้
โดยมีหัวใจแห่งอายุรวัฒน์อยู่ก็คือ “ต้องเลือกทีมให้ดี” เท่านั้นก็พอครับ
>>กินอย่างนี้แล้วจะได้คอลลาเจน
1) ไก่ต้ม ถ้าได้ไก่เนื้อดีแล้วปรุงให้รับประทาน “กระดูกอ่อน” ได้ด้วยก็จะช่วยให้ท่านได้คอลลาเจนแบบไม่ตกหล่นครับ
โดยเทคนิคเลือกไก่ตรุษจีนให้ดีก็คือเลือกชนิดที่ “ปลอดยาปฏิชีวนะ” เพราะสิ่งนี้สำคัญกว่าฮอร์โมนมาก ซึ่งหากเลือกไก่บ้านที่มีเนื้อแน่นไขมันน้อยก็จะช่วยให้สบายใจขึ้นได้อีก ส่วนท่านที่มีโรคเก๊าท์ก็ขอให้จำกัดเรื่องไก่เอาไว้ครับ
2) เป็ดพะโล้ หลายบ้านเล็งทั้งเนื้อเป็ดและเครื่องในเป็ดไว้ ก็ขอแถมว่าปีกเป็ดและขาเป็ดก็เป็นส่วนที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนอย่างดีที่ถ้าต้มนานพอแล้วจะช่วยให้เครื่องพะโล้เข้าเนื้อและคอลลาเจนหลุดล่อนออกมารับประทานได้ง่ายขึ้น
ซึ่งการรับประทานเป็ดพะโล้หลังไหว้แล้วนั้นขอให้ท่านที่รักคอยดูเรื่องน้ำพะโล้ที่ถ้าเค็มเกินไปไม่ควรให้ท่านที่มีความดันสูงราดจนโชก ส่วนเครื่องในและเลือดเป็ดนั้นก็เป็นแหล่งของธาตุเหล็กและวิตามินบี12 ที่ดีมากเช่นกันครับ
3) เครื่องใน ให้ระวังในท่านที่ต้องคุมไขมัน ,ยูริก และโรคไต ถ้าไม่นับข้อจำกัดทั้งหลายแล้วเครื่องในถือเป็นของดีที่ราคาย่อมเยาว์ทีเดียวครับ ดังจะขอยกตัวอย่างเครื่องในยอดนิยมเริ่มจาก “ตับ” ที่เป็นแหล่ง “วิตามินเอ(retinol)” ในปริมาณสูง ส่วนของ “หัวใจ” ก็มี “โคเอนไซม์คิว 10” ที่เป็นแหล่งพลังให้กับเซลล์ต่างๆ ในร่างกายเรา
นอกจากนั้นเครื่องในอื่นๆ ยังมีวิตามินดี,อี,เค 2 และธาตุเหล็กที่ช่วยบำรุงการทำงานของเลือดเราให้เป็นปกติสุขอีก ที่ขาดไม่ได้ก็คือ “โปรตีน” ที่ถูกย่อยไปเป็น building block ให้กับคอลลาเจนในตัวเราได้ด้วยครับ
4) ซีฟู้ด พี่น้องชาวจีนในหลายแห่งหนใกล้ทะเลเลือกหาของสดที่เป็นของดีใกล้ตัวมาถวายในวันไหว้ ไม่ว่าจะเป็นกุ้งลายเสือตัวโต, ปูทะเลก้ามยักษ์หรือปลาจาละเม็ดไซส์เต๋าเต้ยล้นหม้อ ซึ่งของดีที่อยู่ในซีฟู้ดก็คือคอลลาเจนเช่นกันครับ ทั้งเนื้อปลา, ปู, กุ้ง และหอย ล้วนอร่อยเพิ่มคอลลาเจนได้
ดังที่ท่านคงเคยได้ยินคอลลาเจนสำเร็จที่ขายกันอ้างว่าเป็นคอลลาเจนน้ำลึก ซึ่งก็เช่นเดียวกันถ้าท่านรับประทานซีฟู้ดก็จะได้คอลลาเจนแสนอร่อย ที่ไม่ได้อยู่ในรูปผงสำเร็จ
นอกจากนั้นยังได้แร่ธาตุดีๆ ได้แก่ สังกะสี,ไอโอดีน, แคลเซียม ส่วนที่เปลือกกุ้งยังมี “กลูโคซามีน” แบบเดียวกับยาบำรุงข้อเข่าด้วยครับ
5) ส้มไหว้ ขาดไม่ได้ดังที่ย้ำไปข้างต้นว่าจะกินให้ดีต้องเปิบเป็น “ทีม” ที่ต้องมีส้มผรือผลไม้ไหว้อื่นๆด้วยโดยเฉพาะที่เน้นว่าต้องมี “วิตามินซี” เพราะส้มและผลไม้ที่มีวิตามินซีจะช่วยทำงานเป็นทีมที่ดีกับ “คอลลาเจน” ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำงานของคอลลาเจนในร่างกายเราให้สมบูรณ์แบบ
ซึ่งส้มผลใหญ่รสดีที่ถือเป็นของมงคล(กิก)ในช่วงตรุษจีนนี้มีคุณสมบัติครบครันที่จะช่วยให้ท่านรับประทานหมูเห็ดเป็ดไก่ไว้ได้อย่างสบายใจขึ้น ด้วยส้มสูกลูกไม้นั้นมีทั้งวิตามินและ “ไฟเบอร์” ที่เป็นเส้นใยช่วยคุมให้ไขมันและน้ำตาลจากของไหว้อื่นไม่เข้าไปป่วนสุขภาพท่านจนงอมหลังเทศกาลครับ
ส่วนบุคคลที่รับประทานคอลลาเจนได้แต่ต้องไม่มากเกินไปได้แก่ ผู้ที่ต้องจำกัดปริมาณโปรตีน (เพราะคอลลาเจนคือโปรตีน), ผู้ป่วยโรคไต,ไตเสื่อม, แพ้โปรตีนหลายชนิด เป็นต้น
นอกจากนั้นส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะคอลลาเจนที่เล่ามา ล้วนเป็นโปรตีนที่มีคุณค่าและเป็นอาหารที่เรารับประทานอยู่แทบทุกเมื่อเชื่อวัน
เพียงแค่ขอเสริมเรื่องเทคนิครับประทานให้ได้คุณค่าจากทุกส่วน เลยต้องขอให้ท่านลองกินส่วนกระดูกอ่อน, ปีก, ขา และน้ำต้มที่ผ่านการปรุงวิธีต่างๆ ให้ได้คอลลาเจนออกมาดูบ้าง จะได้ไปช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย ช่วยให้แผลหายเร็วและผิวก็ยังได้รับคอลลาเจนที่ขาดไม่ได้อีกด้วย
ได้ของดีเสริมมงคลสุขภาพครับ
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
ผมชอบตรุษจีนเพราะหลายเหตุผลด้วยกันครับ
นอกจากดีใจที่ได้เห็นความสุขคึกคักของทุกท่านแล้วก็ชวนหวนนึกถึงวันวานตามประสาคนที่ชอบคิดถึงอดีต ด้วยงานรื่นเริงแบบชาวจีนเรานี้ให้นึกถึงความหลังครั้งที่ได้เห็นเพื่อนๆ หยุดเรียน ได้คอยไปรับอั่งเปาตามบ้าน แล้วเมื่อได้เวลาไหว้ก็ยังจำกลิ่นธูปควันเทียนที่ติดจมูกได้ดี มาพร้อมหน้ากันแล้วก็รับประทานข้าวกลางวัน
กากี่นั้ง---คนกันเองทั้งนั้น
ตอนนี้ผมมีสถานะที่เปลี่ยนไปด้วยลูกพี่ลูกน้องที่วิ่งเล่นมาด้วยกันช่วยอัพสเตตัสให้ เพราะมันเพิ่งมีลูกชายไม่นาน ผมเลยได้รับการสถาปนาให้เป็น “อาเจ็ก” โดยปริยาย ทำให้คิดถึงเมื่อวัยเด็กที่ยังวิ่งเล่นแข่งกันรับซองแดงแล้วเอามาดูกัน ซึ่งตอนนี้ผมถึงวัยที่ต้องให้แต๊ะเอียเขาบ้างแล้ว
เชื่อว่าตรุษจีนคงชวนให้ท่านนึกถึงเรื่องสนุกๆ ที่ผ่านมาเช่นกัน สำหรับในวันสำคัญเช่นนี้มีสิ่งที่ต้องเตรียมตัวอยู่มาก โดยเฉพาะเรื่องการจับจ่ายอาหารและผักผลไม้เพื่อนำมาทำของไหว้ ซึ่งผมเองก็ได้เล่าเรื่องเทคนิคการกินตรุษจีนไว้ในแต่ละปีแล้ว
สำหรับปีนี้อยากขออนุญาตเล่าถึงสารอาหารที่พบเยอะในอาหารตรุษจีนที่เราเอามาสร้างความ “แข็งแรง” ให้ร่างกายได้ไม่ยาก ดังที่เคยไปบรรยายให้กับที่ประชุมของสมาคมนักอาหารแห่งประเทศไทย (Thai Dietatic Association)ไว้ครั้งหนึ่งถึงเรื่องอาหารช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งในครั้งนี้อาหารไหว้ก็ช่วยให้ภูมิแข็งแรงกับร่างกายของเราได้
โดยมีหัวใจแห่งอายุรวัฒน์อยู่ก็คือ “ต้องเลือกทีมให้ดี” เท่านั้นก็พอครับ
>>กินอย่างนี้แล้วจะได้คอลลาเจน
1) ไก่ต้ม ถ้าได้ไก่เนื้อดีแล้วปรุงให้รับประทาน “กระดูกอ่อน” ได้ด้วยก็จะช่วยให้ท่านได้คอลลาเจนแบบไม่ตกหล่นครับ
โดยเทคนิคเลือกไก่ตรุษจีนให้ดีก็คือเลือกชนิดที่ “ปลอดยาปฏิชีวนะ” เพราะสิ่งนี้สำคัญกว่าฮอร์โมนมาก ซึ่งหากเลือกไก่บ้านที่มีเนื้อแน่นไขมันน้อยก็จะช่วยให้สบายใจขึ้นได้อีก ส่วนท่านที่มีโรคเก๊าท์ก็ขอให้จำกัดเรื่องไก่เอาไว้ครับ
2) เป็ดพะโล้ หลายบ้านเล็งทั้งเนื้อเป็ดและเครื่องในเป็ดไว้ ก็ขอแถมว่าปีกเป็ดและขาเป็ดก็เป็นส่วนที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนอย่างดีที่ถ้าต้มนานพอแล้วจะช่วยให้เครื่องพะโล้เข้าเนื้อและคอลลาเจนหลุดล่อนออกมารับประทานได้ง่ายขึ้น
ซึ่งการรับประทานเป็ดพะโล้หลังไหว้แล้วนั้นขอให้ท่านที่รักคอยดูเรื่องน้ำพะโล้ที่ถ้าเค็มเกินไปไม่ควรให้ท่านที่มีความดันสูงราดจนโชก ส่วนเครื่องในและเลือดเป็ดนั้นก็เป็นแหล่งของธาตุเหล็กและวิตามินบี12 ที่ดีมากเช่นกันครับ
3) เครื่องใน ให้ระวังในท่านที่ต้องคุมไขมัน ,ยูริก และโรคไต ถ้าไม่นับข้อจำกัดทั้งหลายแล้วเครื่องในถือเป็นของดีที่ราคาย่อมเยาว์ทีเดียวครับ ดังจะขอยกตัวอย่างเครื่องในยอดนิยมเริ่มจาก “ตับ” ที่เป็นแหล่ง “วิตามินเอ(retinol)” ในปริมาณสูง ส่วนของ “หัวใจ” ก็มี “โคเอนไซม์คิว 10” ที่เป็นแหล่งพลังให้กับเซลล์ต่างๆ ในร่างกายเรา
นอกจากนั้นเครื่องในอื่นๆ ยังมีวิตามินดี,อี,เค 2 และธาตุเหล็กที่ช่วยบำรุงการทำงานของเลือดเราให้เป็นปกติสุขอีก ที่ขาดไม่ได้ก็คือ “โปรตีน” ที่ถูกย่อยไปเป็น building block ให้กับคอลลาเจนในตัวเราได้ด้วยครับ
4) ซีฟู้ด พี่น้องชาวจีนในหลายแห่งหนใกล้ทะเลเลือกหาของสดที่เป็นของดีใกล้ตัวมาถวายในวันไหว้ ไม่ว่าจะเป็นกุ้งลายเสือตัวโต, ปูทะเลก้ามยักษ์หรือปลาจาละเม็ดไซส์เต๋าเต้ยล้นหม้อ ซึ่งของดีที่อยู่ในซีฟู้ดก็คือคอลลาเจนเช่นกันครับ ทั้งเนื้อปลา, ปู, กุ้ง และหอย ล้วนอร่อยเพิ่มคอลลาเจนได้
ดังที่ท่านคงเคยได้ยินคอลลาเจนสำเร็จที่ขายกันอ้างว่าเป็นคอลลาเจนน้ำลึก ซึ่งก็เช่นเดียวกันถ้าท่านรับประทานซีฟู้ดก็จะได้คอลลาเจนแสนอร่อย ที่ไม่ได้อยู่ในรูปผงสำเร็จ
นอกจากนั้นยังได้แร่ธาตุดีๆ ได้แก่ สังกะสี,ไอโอดีน, แคลเซียม ส่วนที่เปลือกกุ้งยังมี “กลูโคซามีน” แบบเดียวกับยาบำรุงข้อเข่าด้วยครับ
5) ส้มไหว้ ขาดไม่ได้ดังที่ย้ำไปข้างต้นว่าจะกินให้ดีต้องเปิบเป็น “ทีม” ที่ต้องมีส้มผรือผลไม้ไหว้อื่นๆด้วยโดยเฉพาะที่เน้นว่าต้องมี “วิตามินซี” เพราะส้มและผลไม้ที่มีวิตามินซีจะช่วยทำงานเป็นทีมที่ดีกับ “คอลลาเจน” ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำงานของคอลลาเจนในร่างกายเราให้สมบูรณ์แบบ
ซึ่งส้มผลใหญ่รสดีที่ถือเป็นของมงคล(กิก)ในช่วงตรุษจีนนี้มีคุณสมบัติครบครันที่จะช่วยให้ท่านรับประทานหมูเห็ดเป็ดไก่ไว้ได้อย่างสบายใจขึ้น ด้วยส้มสูกลูกไม้นั้นมีทั้งวิตามินและ “ไฟเบอร์” ที่เป็นเส้นใยช่วยคุมให้ไขมันและน้ำตาลจากของไหว้อื่นไม่เข้าไปป่วนสุขภาพท่านจนงอมหลังเทศกาลครับ
ส่วนบุคคลที่รับประทานคอลลาเจนได้แต่ต้องไม่มากเกินไปได้แก่ ผู้ที่ต้องจำกัดปริมาณโปรตีน (เพราะคอลลาเจนคือโปรตีน), ผู้ป่วยโรคไต,ไตเสื่อม, แพ้โปรตีนหลายชนิด เป็นต้น
นอกจากนั้นส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะคอลลาเจนที่เล่ามา ล้วนเป็นโปรตีนที่มีคุณค่าและเป็นอาหารที่เรารับประทานอยู่แทบทุกเมื่อเชื่อวัน
เพียงแค่ขอเสริมเรื่องเทคนิครับประทานให้ได้คุณค่าจากทุกส่วน เลยต้องขอให้ท่านลองกินส่วนกระดูกอ่อน, ปีก, ขา และน้ำต้มที่ผ่านการปรุงวิธีต่างๆ ให้ได้คอลลาเจนออกมาดูบ้าง จะได้ไปช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย ช่วยให้แผลหายเร็วและผิวก็ยังได้รับคอลลาเจนที่ขาดไม่ได้อีกด้วย
ได้ของดีเสริมมงคลสุขภาพครับ
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
