“แชมป์แบดมินตันทีมเยาวชนแห่งประเทศไทย” คือความฝันที่เธอคว้าเอามาเก็บไว้ในอ้อมกอดได้เรียบร้อยแล้ว ด้วยเลือดนักสู้ ด้วยวิญญาณนักแสวงหาความท้าทาย วันนี้สาวน้อยคนเดิมก้าวขาออกเดินไปบนเส้นทางสายใหม่ เส้นทางสายดนตรีตามที่เสียงของหัวใจเรียกร้องมานานแสนนาน อีกหนึ่งความฝันที่ต้องทำให้สำเร็จให้ได้ในนาม “ศิลปินสายเลือดใหม่” ประจำค่ายขวัญใจวัยรุ่นไทย เจเนอเรชันใสที่น่าจับตามอง!
“มือหวดแชมป์เยาวชน” ฝันที่แลกมาด้วยแรงใจ
[จริงจังกับทุกความฝัน วันวานก่อนวางมือจากสนามแข่ง]
17 ปี ด้วยวัยเพียงเท่านี้ เธอมีดีกรีเป็นถึงแชมป์แบดมินตันเยาวชนแห่งประเทศไทย เวลาผ่านไป 2 ปี ไม่ได้ทำให้ไฟในตัวเธอมอดลงไปไหน เพียงแค่เบนเข็มมายังเส้นทางสายใหม่เท่านั้นเอง และถ้าวันนั้นเคยเอาชนะตัวเองในฐานะ “นักหวด” ได้ วันนี้ก็คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงอะไรนัก ที่จะเอาชนะตัวเองอีกสักครั้งในฐานะ “นักร้อง” น้องใหม่ หนึ่งในไอดอลวัยใสจากแก๊ง “Kamikaze Newcomer”
“เล่นแบดฯ มาตั้งแต่ 9 ขวบเลยค่ะ แล้วก็เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ” ซีแนน-ณัฐพร รุ่งรังสี หญิงสาวร่างสูงพูดไปยิ้มไปด้วยท่าทีสดใส ก่อนพาคู่สนทนากลับไปรู้จักตัวตนในอีกมุมหนึ่ง ซึ่งเป็นคนละมิติกับความเป็นเธอในวันนี้
“ตอนนั้นมีโครงการนึงเข้ามา เขาตั้งใจจะปั้นนักกีฬาไปส่งแข่งต่างประเทศ คัดเลือกจาก ranking จากคะแนนที่เคยเก็บสะสมไว้แต่ละแมตช์ ปรากฏว่าแนนติดอันดับ เลยได้เป็นตัวแทนไปแข่งรายการนั้นค่ะ”
เมื่อเข้าแข่งบนเส้นทางนักกีฬาสายอาชีพ การซ้อมแบดฯ สนุกๆ กับกลุ่มเพื่อนอย่างที่เคยคุ้นจึงเปลี่ยนไปแทบไม่เหลือเค้าเดิม จากรอยยิ้มทีเล่นทีจริงที่เคยมีในคอร์ต เปลี่ยนเป็นหยาดเหงื่อที่หลั่งริน และบางครั้งก็แฝงมาพร้อมคราบน้ำตา บอกเลยว่าทุกก้าวย่างที่เคยเดินผ่านมาไม่มีคำว่า “ง่าย” แม้แต่นิดเดียว
“พอเข้าไปแล้วต้องตื่นเช้ามากค่ะ ต้องไปซ้อมตั้งแต่ตอนตี 5 ครึ่ง ซ้อมจนถึง 7 โมงเช้า เสร็จแล้วก็ต้องกลับมาเรียนหนังสือต่อ พอตอน 5 โมงเย็นถึง 3 ทุ่ม ก็กลับมาซ้อมอีกรอบ โห..เหนื่อยมาก (ลากเสียง) ต้องวิ่งครั้งละ 8 กม. สลับกับเล่นเวต ตอนเข้าไป 2-3 วันแรกนี่ อยากกลับบ้านมาก (ยิ้ม) เพราะเราไม่เคยซ้อมเช้าเลย ปกติตื่นมาก็ 10 โมงแล้ว แต่พอทำไปเรื่อยๆ มันก็เคยชินค่ะ นาฬิกาชีวิตเปลี่ยนไปหมดเลย พอสุดท้าย ชนะรายการนั้นมาได้ เราเลยยิ่งดีใจใหญ่เลย”
[คว้าแชมป์แบดมินตัน ทีมเยาวชนแห่งประเทศไทย ประเภทหญิงคู่]
แชมป์แบดมินตันหญิง ทีมเยาวชนแห่งประเทศไทยประเภทคู่ คือรางวัลยิ่งใหญ่ที่สุดบนเส้นทางสายกีฬาที่แนนเคยได้รับมา และถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่ได้เลือกสู้บนเส้นทางเดิมแล้วก็ตาม แต่ช่วงเวลานั้นก็ถือเป็นช่วงชีวิตแห่งภาคภูมิใจที่สุดแล้วในฐานะ “นักหวดระดับชาติ” วัยใสคนนี้
“ได้มีโอกาสได้ไปแข่งต่างประเทศ แถมได้รางวัลด้วย มันเป็นประสบการณ์ชีวิตที่สุดๆ แล้วค่ะ รู้สึกว่าที่เราเหนื่อยมาทั้งหมดมันคุ้มแล้ว ตอนได้แชมป์ ภาพตอนซ้อมหนักๆ มันเข้ามาในหัวเต็มไปหมดเลย รู้สึกว่าไอ้ที่เราพยายามมาตลอดมันได้ผลนะ เพราะก่อนหน้านั้น มันก็มีอีกหลายๆ รายการที่เราตั้งใจเต็มที่เหมือนกัน แต่มันก็ยังไม่ไปถึงจุดๆ นั้น มันเหมือนเราต้องเก็บกด กดดันตัวเองมาตลอด พอชนะรายการนี้ พอมาได้รางวัล และเป็นรางวัลระดับชาติด้วย น้ำตาไหลเลยจริงๆ ค่ะ
จากช่วงแรกจะมีแรงกดดันเข้ามาเยอะแยะ เหมือนเราต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ถ้าวันนี้เราซ้อมหนักเท่านี้ พรุ่งนี้เราต้องทำให้ได้มากกว่านี้! หรืออย่างแย่ที่สุดคือต้องทำให้ได้เท่าเดิม แต่ห้ามลดลงไปกว่าเดิมค่ะ อย่างเวลาวิ่งจับเวลาก็ห้ามช้าลง ต้องทำเวลาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ มันเลยเครียดมากเลย
[ผ่านการหวดมาหลายรายการแล้ว]
แถมแนนยังต้องเพิ่มน้ำหนักตัวด้วยค่ะเพื่อการแข่งขันเลย เพราะเราต้องแข่งกับนักกีฬาต่างประเทศที่ตัวใหญ่ แรงปะทะเขามีเยอะ เราสู้เขาไม่ได้ เลยต้องเพิ่มเข้าไปประมาณเกือบ 10 กก. แล้วก็ออกกำลังสร้างกล้ามเนื้อ คุมเข้มเรื่องโภชนาการด้วย ทุกอย่างมัน fix ไปหมด พอจบรายการ เราผ่านตรงนั้นมาได้แล้ว เราแข่งชนะแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าเราเอาชนะใจตัวเองได้แล้วค่ะ เราทำสำเร็จแล้ว เราพอแล้ว เลยอยากขอมาทำอีกทางนึงที่เราชอบบ้าง” เธอปิดประโยคด้วยเลนส์ตาของความมุ่งมั่น
ทุกวันนี้ ถึงแม้จะวางมือจากการแข่งขันมานานแล้ว แต่แนนก็ยังคงหยิบไม้แบดฯ ขึ้นมาหวดกับเพื่อนฝูงและครอบครัวอยู่แทบทุกวัน “แนนเป็นนักกีฬามหาวิทยาลัยด้วยค่ะ เลยต้องเล่นรักษาสภาพมาเรื่อยๆ แต่อาจจะไม่หนักเท่าเดิม และถ้าให้เลิกเล่นไปมันอึดอัดนะ (ยิ้ม) ตอนนี้ก็มีตีกับก๊วนตัวเอง แล้วก็คุณพ่อคุณแม่ค่ะ ครอบครัวชอบตีแบดฯ อยู่แล้ว เลยจะตีด้วยกันตลอด
คุณพ่อคุณแม่เป็นคนชอบเล่นกีฬาอยู่แล้วด้วยค่ะ ที่แนนได้ไปแข่งก็เพราะจากตรงนี้นี่แหละ มันเริ่มจากเขาไปตีแบดฯ แล้วแนนก็ไปรอ ไปซนใกล้ๆ เขาตั้งแต่ตอนเด็กๆ เลย เราเลยค่อยๆ ซึมซับ เขาเลยจับให้เราไปเรียน ตอนแรกๆ ก็แค่กะเอาสนุก ไปเจอเพื่อนค่ะ สักพักเริ่มจริงจัง แล้วก็หนักขึ้นๆ เรื่อยๆ แล้วก็เริ่มมีเป้าหมายว่าจะไปให้ถึงเยาวชนทีมชาตินะ”
ไม่คิดจะไปให้ถึงตำแหน่ง “นักแบดมินตันทีมชาติไทย” บ้างเหรอ? เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยเช่นเดียวกัน คนถูกถามมอบยิ้มกว้างบนใบหน้าจิ้มลิ้มตอบกลับมา ก่อนให้คำตอบอย่างเต็มปากเต็มคำว่า...
“จริงๆ อยากมาทางนี้มานานแล้วค่ะ ตอนอยู่บ้านเราก็ชอบร้องเพลงอยู่แล้ว ร้องเล่นๆ ในห้องน้ำตลอด (ยิ้ม) แต่เพราะต้องตีแบดฯ เลยยังไม่เคยมีเวลามาจริงจังด้านนี้เลย พอเข้ามหาวิทยาลัย เริ่มไม่มีเวลาซ้อมแบดฯ แล้วด้วย และเพราะเราเรียนนิเทศมาด้วย เลยคิดว่าขอมาทางนี้ดีกว่าค่ะ และเราก็จะตั้งใจทำมันให้ดีที่สุด!”
ชีวิตกลางแสงไฟ ฝันที่ขอเลือกเอง!
รีดน้ำหนักออกราวๆ 10 กก. คือสิ่งแรกที่แนนเลือกทำเมื่อตัดสินใจได้ว่าจะเลือกใช้เส้นทางสายดนตรีเป็นอาชีพ จากน้ำหนักที่เคยเพิ่มเอาไว้เพื่อเส้นทางสายกีฬา มาวันนี้ที่ต้องหันมาดูแลตัวเองในฐานะ “คนเบื้องหน้า” เธอก็พร้อมที่จะทุ่มเททุกอย่างเพื่อเส้นทางสายดนตรีเช่นเดียวกัน!
“พอไม่ได้แข่งแล้วก็เลยลดค่ะ แต่เราลดแบบไม่แตะยาลดความอ้วนเลยนะ อาหารก็ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องกินนิดเดียว กินปกติเลยค่ะ แต่ออกกำลังกายให้หนักกว่าเดิม แล้วตอนกลางคืนก็ไม่กินอะไรอีกเลย จะไม่กินหลัง 6 โมงเย็นด้วย ขนมก็ไม่กิน มันก็ลดลงมาได้ ลดเพราะการออกกำลังกายจริงๆ ค่ะ ตีแบดฯ อย่างเดียวเลย”
ถึงจะไม่ได้เป็นนักหวดมืออาชีพแล้ว แต่แบดฯ ก็ยังเป็นเพื่อนที่รู้ใจที่สุดของแนนอยู่ดี เพราะถ้าไม่มีกีฬาชนิดนี้เข้ามาอยู่ในชีวิต ก็คงไม่มีเธอในวันนี้เหมือนกัน
“เมื่อก่อนเคยเป็นโรคหอบหืดด้วยค่ะ แต่หายเพราะตีแบดฯ นี่แหละ (ยิ้ม) แต่เพิ่งมารู้ว่าตัวเองเป็นก็ตอนซ้อมหนักๆ นะคะ ตอนนั้นเลิกเล่นไม่ได้แล้ว กำลังสนุกด้วย ก็เลยลองสู้กับมันดู มีคนแนะนำด้วยค่ะว่าให้ค่อยๆ ลองต้านมันไปทีละนิดๆ แล้วมันจะค่อยๆ ดีขึ้น แล้วมันก็ดีขึ้นจริงๆ ทุกวันนี้ก็หายแล้วค่ะ ไม่เป็นโรคหอบแล้ว
ช่วงที่ซ้อมแข่งก็ได้อะไรจากแบดฯ เยอะมาก ได้เรื่องการทำงานเป็นทีมด้วย เวลาซ้อม เราจะซ้อมกันเป็นทีมค่ะ จะแก่งแย่งว่าใครเก่งกว่าไม่ได้ ทุกคนต้องช่วยๆ กัน รุ่นพี่ที่เก่งกว่าก็มาช่วยติวให้น้อง โค้ชเขาก็จะสอนเราหลายอย่าง เรื่องความรับผิดชอบด้วย ต้องตรงเวลา ต้องรู้หน้าที่ว่าเวลานี้เราควรจะทำอะไร เสร็จแล้วควรจะทำอะไรต่อไป มันทำให้ทุกวันนี้เราสามารถจัดแจงชีวิตหลายๆ เรื่องได้ดีขึ้น
ตอนซ้อมที่คอร์ตกับเพื่อนๆ ที่สโมสร เวลามีงานประจำปี แนนกับกลุ่มเพื่อนก็จะเป็นกลุ่มที่ขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีตลอด ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราได้มีโอกาสด้วยค่ะ พอคุณแม่เห็นเราชอบทางนี้ เขาเลยแนะนำให้เราลองไปประกวดดู อยากให้เราเจนเวที แนนเลยลองไปออดิชันดูค่ะ พอดีพี่ที่ค่าย (Kamikaze) เขาเห็น เขาเลยเรียกเรามาออดิชัน”
[ได้เป็น 1 ใน 8 New Comer เลือดใหม่ ภายใต้สังกัด Kamikaze]
จากรายการ “ร้องแลกไลค์” ทางช่อง 8 ในวันนั้น ไม่คิดฝันว่าจะปูทางมาสู่ความฝันในวันนี้ แต่เมื่อโอกาสเข้ามาแนนก็ขอคว้าเอาไว้ ถึงแม้จะขัดกับความต้องการของทางครอบครัวในช่วงแรกๆ อยู่มากก็ตาม
“ก่อนหน้านี้แนนเคยขอคุณแม่เรียนร้องเพลงนะคะ บอกว่าอยากขอลองเรียน เขาก็ให้ค่ะเพราะเห็นว่าเราอยากเรียนจริงๆ บอกแม่เลยค่ะว่า ขอลองเรียนหน่อย เพราะว่าอยากเรียนจริงๆ แต่พอได้มาเป็นศิลปิน เขาก็ปล่อยให้เราตัดสินใจเองค่ะ เพราะเขาก็อยากให้เราตีแบดฯ ต่อไงคะ (ยิ้ม) แต่แนนอยากมาทางนี้แล้ว เขาเลยตามใจแต่บอกว่าให้จัดการทุกอย่างเองค่ะ เขาจะไม่ยุ่ง แต่ช่วงหลังๆ ก็ดูสนับสนุนเรามากขึ้นเยอะค่ะ ดูติดตามเยอะขึ้น
คุณพ่อคุณแม่เขาจะรู้ค่ะว่า แนนเป็นคนที่ถ้าอยากจะทำอะไรจริงๆ เราจะทำให้มันให้ได้ จะจริงจัง ทำให้มันสำเร็จจริงๆ อย่างตอนเล่นแบดฯ ตอนนั้นก็ซ้อมหนักมาก ทุ่มเทมากๆ พอทำได้แล้วก็ภูมิใจนะว่าเราทำได้ เราตั้งใจ มันคุ้มกับที่เราเหนื่อยมา รู้สึกมีความสุขที่ได้เต็มที่ค่ะ พอตัดสินใจมาทางด้านนี้ ก็เลยอยากจะมีความรู้สึกแบบนั้นอีกครั้งนึง”
“สวยเท่” ผู้หญิงอย่างที่อยากเป็น
[ขอบคุณภาพ: อินสตาแกรม @cnan.kz]
เป้าหมายของนักกีฬาคือเหรียญรางวัล แต่เป้าหมายของการเป็นนักร้องอาจไม่ได้มีปลายทางที่ชัดเจนขนาดนั้น ธงที่เธอตั้งให้กับตัวเองเอาไว้จึงเหลือแค่ถ้อยคำสั้นๆ “ทำมันให้ดีที่สุด”
“การได้เข้าค่ายกามิกาเซ่ก็ถือเป็นความสำเร็จของแนนแล้วค่ะ (ยิ้ม) เพราะเราไม่ได้คาดหวังอะไรเลย เวลาเราร้องเพลงให้คนฟัง แล้วได้รับผลตอบรับที่ดีๆ กลับมา แค่นั้นมันก็ชื่นใจแล้วนะ แค่นั้นก็รู้สึกว่าเราสำเร็จแล้วค่ะ อ่านคอมเมนต์แล้วได้รับอะไรที่เป็น positive กลับมาก็โอเคแล้ว ไม่เคยหวังว่าเราจะต้องดังอะไรเลยค่ะ หวังแค่อยากให้ผลงานเราออกมาเป็นอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ ออกมาดีก็พอแล้วค่ะ
พอเปลี่ยนมาทางสายนี้ เราก็ยังต้องซ้อมเหมือนเดิมค่ะ เพียงแต่จะซ้อมต่างกัน เหนื่อยต่างกัน พอมาเป็นศิลปินมันจะเหนื่อยไปเรื่อยๆ (หัวเราะเบาๆ) แต่ตอนเป็นนักกีฬา มันจะมีจุดที่เหนื่อยพีกสุดแล้วก็จะได้พัก อย่างช่วงนี้ที่แนนต้องซ้อมหนักมากก็คือเรื่องการเต้นค่ะ ต้องพัฒนาเรื่อง movement ของตัวเอง เพราะline ในการเต้นของแนนยังไม่ชัดเหมือนคนอื่นเขาเลยค่ะ มันก็เลยจะหนักตรงนี้ว่า เราต้องพยายามมากกว่าคนอื่นเขาหน่อย
ตอนนี้มีซ้อมประมาณ 4 วันต่ออาทิตย์ ครั้งนึงก็ตก 2 ชั่วโมง จากปกติจะมีเรียนเต้นเรียนร้องอยู่แล้ว พอช่วงไหนมีคอนเสิร์ตก็จะซ้อมหนักกว่าเดิมหน่อยค่ะ อาจจะมีซ้อมร้อง 2 ทุ่มถึง 3 ทุ่ม แล้วก็ซ้อมเต้น 3 ทุ่มถึงเที่ยงคืน ถึงจะเหนื่อยหน่อย แต่มันก็ทำให้เราตื่นเต้นนะว่าเส้นทางตรงนี้ของเราจะเป็นยังไงต่อไป เรายังต้องเก็บประสบการณ์ ต้องมีความรับผิดชอบ ต้องพยายามหลายๆ อย่าง มันคล้ายๆ กับตอนที่เราต้องซ้อมหนักช่วงเล่นแบดฯ เลยค่ะ แต่หลายคนคงไม่มีโอกาสได้มาในเส้นทางนี้ แต่เรามีโอกาส และเราก็จะทำให้เต็มที่ที่สุด”
[ศิลปินเลือดใหม่ภายใต้ชื่อ Kamikaze Next]
“Kamikaze Next” คือแก๊งศิลปินน้องใหม่ไฟแรงที่มีแนนอยู่ในนั้น เห็นอายุน้อยๆ แบบนี้ แต่เทียบกับศิลปินเลือดใหม่ในค่ายเดียวกันแล้ว แนนกลับอายุมากที่สุดในเจเนอเรชันนี้ เธอจึงต้องปรับตัวหลายๆ อย่าง โดยหวังว่าสักวันหนึ่งจะเก่งและเท่ให้ได้เหมือนศิลปินรุ่นพี่ในค่ายเดียวกัน “แก้ว-จริญญา ศิริมงคลสกุล” หรือ แก้ว วง เฟย์ ฟาง แก้ว (FFK) “เขาเป็นผู้หญิงที่เท่ แต่ในความเท่ เขาก็ยังมีความสวยอยู่ เท่ด้วยสวยด้วย ชอบค่ะ” สาวน้อยแนบยิ้มสดใสปิดประโยค
ด้วยความที่ไม่ใช่สาวหวาน ออกจะห้าวๆ มาตั้งแต่ไหนแต่ไร จึงทำให้แนนเลือกที่จะเป็นผู้หญิง “สวยเท่” มากกว่าแบบอื่น “ซนมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ แล้วค่ะ ที่บ้านพ่อแม่นึกว่ามีลูกผู้ชาย (ยิ้ม) เชื่อไหม..คุณพ่อไม่เคยซื้อตุ๊กตาบาร์บี้มาให้เลยค่ะ ซื้อแต่ตุ๊กตาอุลตราแมนมาให้ เราก็จะบอกว่า พ่อ..หนูเป็นผู้หญิงนะ (หัวเราะ) คงเพราะอย่างนี้มั้ง เราเลยห้าวๆ แบบนี้” ว่าแล้วแนนก็เผยวีรกรรมแก่นแก้วสมัยเรียนให้ฟังเพิ่มอีก
“ช่วงประถม แนนจะเป็นนักกีฬาโรงเรียนค่ะ แชร์บอล บาสฯ ปิงปอง ฯลฯ เล่นทุกอย่างเลยค่ะ เพราะคุณแม่ก็ชอบเล่นกีฬา พอเขามารับตอนเย็นๆ ก็จะมาเล่นกับเราด้วย เคยแข่งฟุตซอลด้วยค่ะ (ยิ้ม) ทีมเราเป็นผู้ชายทั้งทีม มีแนนเป็นผู้หญิงคนเดียว ตอนนั้นเป็นช่วงกีฬาสี เราซ้อมหลีดอยู่แล้วคนในทีมไม่พอ เพื่อนก็วิ่งมาเรียกเลย บอกครูเรียกไปเล่นฟุตซอล (หัวเราะ)
ตอนเด็กๆ ก็ซนมากค่ะ นี่ก็ได้แผลมา (โชว์แผลเป็นเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในแนวไรผมให้ดู) เคยซนจนตกบันไดตั้งแต่ก่อนเข้าอนุบาล แล้วก็ตรงนี้ (เปิดให้ดูอีกแผล) ได้มาตอนไปเล่นบ้านบอลค่ะ ที่มันจะมีลูกบอลเยอะๆ ไปโดนอะไรตอนไหนไม่รู้ แม่มาเห็นอีกทีเลือดอาบแล้ว ต้องพาไปเย็บที่โรงพยาบาลเลย
ทุกวันนี้ นิสัยพร้อมลุยก็ยังไม่หายไปไหน ยังคงอยู่ในเลือดข้นๆ ของเธอ เหมือนอย่างที่ไม่เคยคิดลังเลหลังตัดสินใจไปแล้วว่าจะมุ่งสู่การเป็น “ศิลปิน”
“ถ้าทำตรงไหนแล้วรู้สึกมีความสุขกว่า ทำแล้วใช่เรามากกว่า แนนว่าเราเลือกทำอันนั้นไปเลยดีกว่าค่ะ เพราะถ้าเราไปเลือกทำอีกทาง ถึงมันอาจจะสบายกว่า แต่เราไม่ได้ชอบมันจริงๆ ทำไปแล้วอาจจะไม่ดีก็ได้ แต่ถ้าเราเลือกทางที่เราชอบจริงๆ ทำไปมันก็จะมีความสุข และแนนเชื่อว่าผลลัพธ์มันก็จะออกมาดีมากๆ
[ครอบครัว ผู้ปั้น "นักหวด" และ "นักร้อง" เอาไว้ในคนคนเดียว]
คุณแม่จะบอกตลอดค่ะว่าทำอะไร ต้องทำให้เต็มที่ แม่ให้โอกาสแล้ว ต้องทำให้ดีที่สุด ต้องไม่จับปลาหลายมือ อย่างทุกวันนี้ แนนก็พยายามพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดค่ะ ไม่อยากจะเป็นนักร้องที่แค่มีเพลงให้มาร้องก็ร้อง แต่อยากมีผลงานที่เราจะได้ถ่ายทอดอารมณ์ไปในเพลงได้ด้วย อยากมีส่วนร่วมกับตัวเพลงจริงๆ แบบนั้นถึงจะเรียกได้ว่าเป็น “ศิลปิน” เต็มตัว แต่ตอนนี้ แนนอยากทำตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อนค่ะ แนนเชื่อว่าถ้าทำตรงนี้ดี เดี๋ยวอะไรๆ ดีๆ มันก็จะเข้ามาหาเราเอง”
ประวัติส่วนตัว [ขอบคุณภาพ: อินสตาแกรม @cnan.kz] ชื่อ: ซีแนน-ณัฐพร รุ่งรังสี วันเกิด: 5 ก.ย.2539 ส่วนสูง: 171 ซม. น้ำหนัก: 49 กก. การศึกษา: นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ผลงาน: นักแบดมินตันหญิงคู่ แชมป์เยาวชนแห่งประเทศไทยครั้งที่ 43, ศิลปินน้องใหม่ในโปรเจกต์ "Kamikaze Next" |
ขอไม่ตอบแฟนคลับ! “ไม่คอมเมนต์ ตอบแต่ที่จำเป็น” คือคติที่แนนท่องเอาไว้เสมอทุกครั้งที่เล่นโซเชียลมีเดีย เพื่อป้องกันการเกิดดรามาจากบรรดาแฟนเพลงวัยใสที่ชื่นชอบในตัวเธอ “แนนจะเป็นคนที่ไม่ค่อยตอบคอมเมนต์แฟนคลับเท่าไหร่ค่ะ เพราะเคยตอบน้องไปคนนึง แล้วกลายเป็นคนอื่นน้อยใจว่าทำไมไม่ตอบเขาบ้าง (ยิ้มบางๆ) กลายเป็นดรามาเบาๆ (หัวเราะ) ก็เลยไม่ตอบดีกว่าค่ะ แต่ถ้าอันไหนที่ถามมาจริงจังจริงๆ เราถึงจะตอบ ส่วนหนึ่งเพราะกลัวด้วยค่ะว่า ถ้าวันนี้เราตอบไป แล้ววันนึงมีคนมาคอมเมนต์เยอะกว่าเดิมแล้วเราไม่ตอบ เพราะเราตอบไม่ไหว แล้วเขาอาจจะมองว่าเมื่อก่อนยังตอบเลย ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่ตอบแล้ว เลยไม่อยากให้เขารู้สึกว่าเราเปลี่ยนไปค่ะ แต่ทุกวันนี้ก็ยังอ่านคอมเมนต์เหมือนเดิมนะ อ่านแล้วก็รู้สึกดีทุกครั้งค่ะ รู้สึกดีที่มีคนปลื้มในตัวเรา” |
สัมภาษณ์โดย ผู้จัดการ Lite
เรื่อง: อิสสริยา อาชวานันทกุล
ภาพ: ปวริศร์ แพงราช
ขอบคุณภาพบางส่วน: อินสตาแกรม @cnan.kz
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754