xs
xsm
sm
md
lg

“แพรว ฮอร์โมน” #ทีมส้มส้ม สวย แสบ เเซ่บ!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เขียนบทจากการเป็นตัวเองหนูกับส้มส้มเหมือนกันนะ คาแรกเตอร์นี่หนูเลยภายนอกจะดูเหมือนเหวี่ยงแต่ลึกๆ ไม่ได้มีอะไรเลย” แพรว-นฤภรกมล ฉายแสง เธอคือนางเอกดาวรุ่งดวงใหม่ที่ทำให้โลกมายาสดใส ด้วยบุคลิกมาดนิ่งแต่แฝงไปด้วยความมีเสน่ห์ และทันทีที่ผลงานของเธอลงจอออกอากาศให้ได้ชมกันเพียงไม่กี่ตอนก็ถูกพูดถึงมากที่สุดกับบทบาท “ส้มส้ม” ที่ได้ใจแฟนๆ กันอย่างท่วมท้นจนฮิตจนถึงขนาดติดเเฮชเเทก #ทีมส้มส้ม กันกระหน่ำโซเชียล!!




ฮอร์โมนใสๆ แต่โหดมาก!

เรียกว่าดังจนฉุดไม่อยู่เลยทีเดียว สำหรับซีรีส์ขวัญใจวัยรุ่นอย่าง “ฮอร์โมน 3 เดอะไฟนอลซีซั่น” ซึ่งเป็นภาคต่อจากเรื่องราวในฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ซีซั่น 1 และซีซั่น 2 โดยกลับมาคราวนี้เป็นปีการศึกษาสุดท้ายแล้ว แต่ยังแฝงไปด้วยเนื้อหาที่เข้มข้น กระแทกใจคนดู เหล่าวัยว้าวุ่นต่างติดกันงอมแงมเช่นเคย และยังคงดังแบบสุดๆ ไม่แพ้ซีซั่นก่อนๆ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า อีกหนึ่งบทบาทที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุดในขณะนี้คงนี้ไม่พ้น “ส้มส้ม” สาวหมวย ขี้วีน หน้าเหวี่ยง พูดจาตรงไปตรงมาแต่แฝงไปด้วยความจริงใจ ที่รับบทโดย “แพรว-นฤภรกมล ฉายแสง” M-Lite สัปดาห์นี้ก็ไม่พลาดที่จะคว้าตัวเธอมาร่วมพูดคุย หลังจากกล่าวคำทักทายกันได้สักพักหนีไม่พ้นประเด็นคำถามแรกรู้สึกอย่างไรที่เพียงชั่วข้ามคืนไม่มีใครไม่รู้จัก “ส้มส้ม” จากเด็กสาววัยรุ่นธรรมดาๆ คนหนึ่งกลับกลายเป็นสาวฮอตขึ้นมาทันที! และบรรทัดต่อจากนี้คือบทสนทนาระหว่างเรา

“ผลตอบรับเกินคาดมากก็รู้สึกดีใจมาก เพราะไม่นึกว่าจะมีคนอินกับเราได้ถึงขนาดนี้และสุดท้ายก็เต็มทวิตเตอร์เลย คนที่ดูก็ชมหนูว่าเวลาเล่นใช้ตาดีมาก เล่นดี เสียใจด้วยเลย ร้องไห้ด้วยเลย เพราะอินมาก เหมือนเป็นส้มส้มไม่ใช่แพรว” สาวน้อยยิ้มพรางเล่าให้ฟังด้วยท่าทีเขินอาย




เธอเป็นนักแสดงน้องใหม่ในวงการบันเทิงที่ไม่ได้ผ่านงานมามากมายเท่าไหร่นัก ทว่า เธอต้องรับบทที่ต้องมีพ่อเป็นเกย์ เพราะฉะนั้น การเข้าถึงบทบาทและการสื่ออารมณ์ให้ออกมาดีนั้นจึงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนักสำหรับนักแสดงน้องใหม่อย่างเธอ และบทที่เธอได้รับจึงถือว่ายากพอควร

เธอคาดหวังกับซีรีส์เรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของฮอร์โมนแต่เป็นซีซั่นที่ 3 ซึ่งจะเป็นซีซั่นสุดท้ายแล้ว ดังนั้น เธอต้องตั้งใจและทำการบ้านเพื่อให้มันออกมาดีมากๆ ไม่แพ้รุ่นพี่ของเธอในซีซั่นก่อนๆ เธออมยิ้มพลางเล่าให้ฟังช้าๆ

“กระแสดีมากเลยขอบอกว่าไม่ใช่แค่ตอนส้มส้มหรือว่าตอนใคร คือมันดีจริงๆ ถ้าเป็นตอนหนูก็มีคนอินแล้วบอกว่าชีวิตน่าสงสารเพราะมีพ่อเป็นเกย์ แล้วพ่ออีกคนก็มาอยู่ด้วย ในเรื่องมันจะเสนอมุมมองอีกมุมหนึ่งที่ยังไม่เคยมีใครนำเสนอ

หนูกดดันมาก ตอนที่รู้ว่าเล่นเป็น ep.3 เพราะ ep2.ก็เป็นของดาวก้อย ซึ่งเป็นรุ่นพี่แล้วเขาเล่นเอาไว้ดีมาก แล้วพอมา ep.3 ก็มาเป็นหนูที่เป็นน้องใหม่คนแรกด้วยที่เปิดมา คาดหวังไว้เยอะค่ะเพราะว่ามันเป็นครั้งแรกของหนูแล้วก็จะเป็นครั้งสุดท้ายของฮอร์โมนด้วยหนูก็เลยตั้งใจที่จะทำมันให้ดีมากๆ คืออ่านบทซ้ำแล้วซ้ำอีก ต้องทำให้คนดูอินให้ได้จะได้รู้สึกว่าฮอร์โมนซีซั่นนี้มันดีจริงๆ ตอนแรกก็คิดว่าเราก็เป็นน้องใหม่ เพราะบางคนก็เคยเล่นกันมาแล้ว แล้วฮอร์โมนก็ดังมาทุกปี แล้วถ้าปีนี้มาล่มมันก็ไม่โอเคก็เลยต้องตั้งใจ”




หากเห็นจากในจอแก้วแล้วเธอสามารถตีบทได้แตกกระจาย ทั้งท่าทาง สีหน้า แววตา เรียกว่าคนดูอินไปตามๆ กัน แต่ใครเล่าจะรู้ว่าบทของส้มส้มนี้ส่วนหนึ่งมาจากตัวของเธอล้วนๆ ที่มีนิสัยออกแมนๆ หน้าเหวี่ยงๆ หน่อย แต่ลึกๆ แล้วเป็นคนที่มีจิตใจดีและไม่ได้เหวี่ยงเหมือนหน้าตาเลยแม่แต้นิดเดียว

“ตอนแรกมีการคุยกันอยู่แล้ว ให้มาเขียนบทจากการเป็นตัวเองว่าเราเป็นคนยังไง แล้วก็เหมือนใส่อะไรไปนิดหน่อยเรื่องไม่จริงแล้วก็ใส่ตัวเราไปด้วยแล้วก็ให้มาแคสเหมือนกันค่ะ ถึงจะเขียนจากเราแต่ก็ต้องมาแคส อย่างคนอื่นก็บ่งบอกความเป็นตัวเองเหมือนกันยกเว้นตัวเจนก็จะไม่เหมือนเลย เพราะเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมาใหม่

คาแรกเตอร์ของส้มส้มก็จะแมนๆ เหวี่ยงๆ ก็มีนิสัยผู้หญิงอยู่ด้วยเพราะอยู่กับเพื่อนผู้หญิง แต่จริงๆ แล้วจิตใจโอเคมาก แต่แค่หน้าไม่ค่อยโอเค (หัวเราะร่วน) แล้วก็เป็นคนตรง ตัวจริงหนูกับส้มส้มก็เหมือนนะ จริงๆ คาแรกเตอร์นี่หนูเลยนะ ส้มส้มอาจจะมากกว่าหนูนิดหนึ่ง จริงๆ ภายนอกจะดูเหมือนเหวี่ยงแต่ไม่ได้มีอะไรลึกๆ ไม่ได้มีอะไรเลย (ยิ้มกว้าง)”




จากเมื่อก่อนที่เห็นฮอร์โมนซีซั่น 1 และ 2 สาวแพรวยอมรับว่า ดูจากการแสดงของพี่ๆ แล้วมองว่าเป็นเรื่องง่ายๆ ถ่ายแป๊บเดียวก็ผ่าน แต่เมื่อมาเจอกับตัวเองสาวแพรวบอกเลยว่าหินสุดๆ และไม่ได้ง่ายเหมือนที่มองไว้ตอนแรกเลย

“พี่เขาให้แคส 2 รอบค่ะ ก็ได้เลย ยากค่ะตอนแรกหนูก็ไม่คิดว่ามันจะยากขนาดนี้ แล้วก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องเป็นตัวเมนหรืออะไร แล้วพอได้รู้ว่าจะต้องเป็นตัวเมนต้องเป็นแบบนี้ๆ ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้นะในเรื่องต้องทำแบบนี้นะ ก็ยากมากเพราะเราต้องจินตนาการขึ้นมาเองทุกอย่าง มันเกินจริงไปเลยค่ะ

ตอนแรกดูฮอร์โมนใสๆ พอได้มาเล่นโหดมาก ยากมาก (ลากเสียงยาว) อันนั้นมันลวงตาทำไมง่ายจัง ดูพูดๆ แล้วก็เดินไป พอมาเล่นจริงๆ ยากจังวะ (หัวเราะ) ยากตั้งแต่อ่านบทว่าตัวนี้รู้สึกแบบนี้นะๆ”




ขึ้นแท่นดาวรุ่งดวงใหม่!

หากพูดถึงเรื่องของการเตรียมตัว เธอบอกว่าเธอทำเต็มที่เพราะอยากให้มันออกมาดีที่สุด ทั้งการอ่านบทซ้ำแล้วซ้ำอีก ยิ่งเป็นฉากสำคัญที่รับรู้ว่าพ่อเป็นเกย์แล้วนั้นถือเป็นฉากที่ยากมากเพราะไม่ได้ใกล้เคียงชีวิตจริงของเธอเลย แต่ถือเป็นโชคดีของเธอที่ก่อนเข้าฉากเธอได้ทำความคุ้นเคยกับคุณพ่อ (แพท-พัสสน ศรินทุ) ของเธอเรียบร้อยแล้วจึงไม่เกร็งมาก

“เขาก็ให้เวิร์กชอปอยู่แล้ว ตอนอ่านบทก็อ่านด้วยกันหมดเลยก็จะเหมือนรู้สึกถึงอารมณ์แรกที่เรารู้สึกว่ามันเป็นแบบนี้นะๆ อารมณ์ตอนนี้ที่เรารู้สึกที่เราอ่านกลับไปอ่านอีก พออ่านก็ต้องทำความเข้าใจมันเกิดขึ้นได้ยังไง เราจะทำยังไงตรงนี้เรารู้สึกยังไงอยู่

หนูคิดว่ามันยากทุกฉาก เพราะทุกฉากมันมีความสำคัญแล้วมันก็ยากมาก ฉากกับพ่อก็ยากแล้วต่อไปก็จะมีฉากกับคู่สัมพันธ์มันก็จะยากเหมือนกันจะยากกันคนละแบบ ซีนอารมณ์ที่รับรู้ว่าพ่อเป็นเกย์อันนั้นก็ยากมาก ตอนนั้นอ่านบทไปเข้าใจบทแล้วก็พอเวลาไปถึงหน้าเซ็ตจริงๆ มันเหมือนเล่นๆ บ่อยๆ แล้วเหมือนอยู่กับพี่แพทมากมันมีความรู้สึกไปเอง รู้สึกว่าตัวเองเข้าไปเอง แล้วมันก็รีแลกซ์ พอรีแลกซ์ปุ๊บทุกอย่างจะดีค่ะ ถ้าเกิดเกร็งน้ำตาจะไม่ไหลเลย”



เธอเล่าต่อว่าคุณพ่อในเรื่องของเธอนั้นเก่งมาก ส่งอารมณ์ให้เธอดีมากๆ ทำให้เธอเชื่อว่าเธอมีพ่อเป็นเกย์ได้จริงๆ ทำให้ฉากนั้นผ่านไปอย่างง่ายดาย

“พี่แพทไม่ได้สอนแต่พี่แพทจะส่งอารมณ์เก่งมาก พี่แพทก็จะส่งอารมณ์ให้หนูพอส่งให้ปุ๊บหนูก็จะรู้สึกทุกอย่าง ไม่นานก็ผ่านค่ะ หนูเป็นคนแบบขี้ดรามา (หัวเราะ) ร้องไห้ง่าย ถ้าชีวิตจริงเจอเหตุการณ์แบบนี้หนูก็คงจะต้องพยายามรับมัน ก็อาจจะต้องถามพ่อว่าตั้งเมื่อไหร่อะไรยังไง แต่หนูก็อยากรู้นะว่าทำไมมันเป็นแบบนี้ก็จะงงเหมือนกัน ก็คงแบบเอ๋อๆ ร้องไห้เหมือนกันนั่นแหละ แต่ก็คงไม่มีการไปเหวี่ยงอะไรแบบนั้น”






ต่อกันด้วยบทบาทคาแรกเตอร์ของตัวส้มส้ม เธอบอกว่าให้แง่คิดได้อย่างดีทีเดียว เพราะส้มส้มเขาจะมองโลกแค่ด้านเดียวทุกอย่างต้องเพียบพร้อมและออกมาดีเมื่อชีวิตของเขากลับไม่เป็นแบบที่คิดเอาไว้ทุกอย่างก็จะพังลงและอาจจะรับไม่ได้ เพราะฉะนั้น ตัวละครนี้จะสอนได้อย่างดีว่าไม่มีใครที่จะเพียบพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ และต้องมองโลก 2 ด้านเสมอ

“ก็สอนทุกอย่างบนโลกมันไม่ได้เพอร์เฟกต์เสมอไป เพราะว่าส้มส้มอยากให้ทุกอย่างมันเพอร์เฟคผู้หญิงต้องคู่กับผู้ชายทุกอย่างต้องเพอร์เฟกต์ไปหมด จะมีน้องคนนี้ไม่ได้เพราะเขาไม่ใช่น้องเราเราจะไม่รักเขา คือก็จะทำให้ทุกคนรู้ว่าโนบอดี้เพอร์เฟกต์ ไม่มีใครจริงๆ ที่จะเพอร์เฟกต์ 100 เปอร์เซ็นต์”






หน้าเหวี่ยงแต่จริงใจ นี่แหละ “แพรว”!!

หากให้ลองพูดถึงตัวตนหรือเสน่ห์ของตัวเองสักหน่อย สาวแพรวนิ่งคิดชั่วครู่แล้วตอบกลับทันทีว่าเธอเป็นคนตรงๆ แต่นิสัยขอบอกว่าตรงกันข้ามกับใบหน้าเหวี่ยงนี้อย่างแน่นอน เพราะเมื่อใครที่ได้พูดคุยกับเธอแล้วจะรู้ว่าเธอเป็นคนรั่ว โก๊ะ แบบสุดๆ และเป็นคนที่อารมณ์เสียยากที่สุดเลยก็ว่าได้ สาวน้อยอ้อนบอกกับเราด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“หนูเป็นคนตรงๆ มั้งคะ จริงๆ มองภายนอกหนูจะนิ่งๆ แต่ถ้ายิ้มจะยิ้มง่ายมากเพราะเส้นตื้นเพื่อนพูดอะไรก็ขำ แต่ถ้าพูดถึงภายนอกก็น่าจะเป็นตา เพราะหนูรู้สึกว่าตาหนูปกปิดอะไรไม่ได้เลยอารมณ์อะไรก็ออกมาทางตาหมดมีคนบอกว่าหนูหน้าเหวี่ยงมีประจำ ตลอดเวลา (หัวเราะ)

อย่างเวลาไปโรงเรียน ตอนแรกหนูย้ายโรงเรียนตอนประมาณ ม. 5 คนที่ไม่รู้จักหนูก็จะบอกเฮ้ย..! ทำไมหน้าเหวี่ยงจังคิดว่าหนูหยิ่งซึ่งมันไม่จริง ตอนแรกเพื่อนในห้องไม่กล้าทักหนูเลยหนูก็คุยก่อน เข้าไปทักก่อนเพราะไม่งั้นจะไม่มีใครคุยด้วยเลยสักคน (หัวเราะ)





จริงๆ แล้วหนูคุยได้กับทุกคนนะ หนูไม่ได้เหวี่ยงหรือว่าขี้วีนอะไรเลยแต่โมโหก็โมโหร้าย แต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรทำให้หนูโมโหได้ แค่หน้าเป็นคนหน้าเหวี่ยงก็จะไม่มีใครกล้าเข้าหา แต่หลังก็มีปากต่อปากว่าหนูเป็นคนไม่ได้มีอะไรเพื่อนก็กล้าเข้าหาขึ้น พอรู้จักจริงๆ ก็รั่วๆ ไม่ได้มีความเหวี่ยงหรืออะไรเลย หนุ่มๆ นี่ไม่มีกล้ามาจีบค่ะ”


ส่วนงานอดิเรกสาวแพรวก็เหมือนวัยรุ่นทั่วๆ ไป ที่ชอบฟังเพลง ดูหนัง อ่านหนังสือ และยังมีอย่างหนึ่งที่เธอได้ลองทำนั่นก็คือเธอกำลังหัดเรียนร้องเพลงเพราะตอนนี้กำลังจะมีคอนเสิร์ตของจีทีเอช เรียกได้ว่าความสามารถครบรอบด้านเสียจริงๆ

“หนูเคยเล่นบาสฯ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้เล่นแล้ว พอทำงานไปด้วยเดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรเลย นอนอย่างเดียวบางทีก็อ่านหนังสือ อยู่บ้านเฉยๆ ออกไปหาเพื่อน ไปกินข้าว ส่วนมากหนูจะออกไปหาเพื่อนแล้วก็ออกไปหาอะไรกินมากกว่า
หนูชอบฟังเพลง เล่นโทรศัพท์ นอน ดูหนัง ตอนนี้ก็เรียนร้องเพลงด้วยเพราะกำลังจะมีคอนเสิร์ตจีทีเอช ร้องเพลงยากนะคะ ก็พอได้แต่ไม่เพราะหรอก (อมยิ้ม)”




“ส้มส้ม” ที่มาจากความไม่ได้ตั้งใจ
จากเด็กสาวที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมอะไรเธอต้องขอแฝงตัวเข้าไปทำด้วยทุกครั้ง เพื่อนๆ เลยเห็นแววบอกให้สาวแพรวมาประกวดฮอร์โมนเดอะเน็กซ์เจนเพราะว่าเธอน่าจะทำได้ แต่เหมือนโชคชะตาเล่นกลเมื่อเธอมาถึงแล้วใบสมัครกลับหมด เธอจึงคิดว่าคงไม่ได้ประกวดแล้วแน่ๆ แต่แล้วจู่ๆ ก็เจอแม่ของเพื่อนดึงตัวเธอไปเข้าประกวดจนเธอได้มาเป็น “ส้มส้ม” ที่ฮอตที่สุด ณ ขณะนี้

“หนูเป็นเด็กกิจกรรมชอบอะไรทุกกิจกรรมอยู่แล้ว ชอบทำอะไรแบบนี้อยู่แล้ว อยู่โรงเรียนหนูก็ทำทุกอย่างชอบทำค่ะ เป็นดรัมเมเยอร์ เป็นประธานสี ดูแลเชียร์ หลายอย่างเลย ตอนนั้นหนูก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาประกวดค่ะ เพื่อนก็บอกเขามีประกวดลองไปดิน่าจะสนุกน่าจะได้

หนูก็คิดว่าไม่ได้หรอก ยิ่งมาภาคกลางคนยิ่งเยอะหนูก็ไม่กล้า หนูก็ลองมาแล้วแต่บัตรสมัครหมด หนูก็เลยไปเดินเล่นสักพักก็เจอเพื่อนที่ราชบุรีก็เจอแม่เขามาด้วย แม่เขาก็เลยดันให้หนูเข้าไปกับลูกชายเขา หนูก็เลยเขาไปก็เลยได้ค่ะ แต่ตอนนี้เพื่อนคนนั้นก็ไม่ได้กลายเป็นหนูได้คนเดียว (หัวเราะ)”





การเข้าสู่วงการครั้งนี้ ถือว่าเธอได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างที่เธอชอบและคิดที่จะเรียนรู้มันในอนาคตข้างหน้าอยู่แล้ว จึงถือว่าตรงนี้คือโอกาสที่ดี และเธอก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำการแสดง

“พอได้มาเล่นฮอร์โมนหนูรู้สึกทำแล้วมีความสุขเพราะหนูเมื่อก่อนหนูชอบดูหนังดูอะไรอยู่แล้ว อยากจะเรียนการแสดงตั้งนานแล้วแต่คุณแม่ก็ยังไม่ได้พาไปเรียนเพราะตอนนั้นอยู่ราชบุรียังไม่ได้มาที่นี่ก็เลยยังไม่ได้เรียน ตอนแรกก็คิดว่าจะเรียนตอนมหา’ลัยค่ะ ตอนนี้ก็ได้เข้ามาก่อนก็เลยได้เรียนแล้ว”

สาวแพรวเล่าต่อว่านี่เป็นเหมือนความฝัน เพราะไม่เคยคิดเลยว่าจะก้าวเข้ามาอยู่ตรงจุดนี้ได้ จากเมื่อก่อนที่ดูฮอร์โมนก็ดูตามกระแส ตามเพื่อนๆ ไปอย่างนั้น แต่เมื่อวันนี้มีโอกาสได้เข้ามาเป็นหนึ่งในนักแสดงหลักก็ถือว่าเกินคาดเอามากๆ เลยทีเดียว

“พอได้มาเล่นหนูภูมิใจมาก (ลากเสียงยาว) ตอนแรกหนูไม่เคยคิดว่าหนูจะก้าวเข้ามาอยู่ตรงนี้ได้เลย คิดว่าคงจะใช้ชีวิตไปวันๆ ปกติเหมือนเด็กทั่วไป ตอนนี้หนูคงบ้าเรียนอยู่ มันรู้สึกดีมากที่มาอยู่ตรงถึงจุดนี้แล้ว คือเมื่อก่อนที่ดูดูฮอร์โมนหนูก็ดูไปอย่างั้นตามกระแส เฮ้ย..! พี่คนนี้เท่ พอเวลาผ่านไปพอเราได้มาทำงานเองเรารู้ว่าแบบความจริงที่ตอนนั้นเราคิดว่าพี่เขาเท่เขาคงเล่นไปเฉยๆ แต่จริงๆ เขาต้องใช้ความพยายามมากๆ มันเหนื่อยมาก ที่จะมาอยู่ตรงนี้ได้”




เธอประกวดฮอร์โมนเดอะเน็กซ์เจนซีซั่น 2 แต่มาได้เล่นจริงๆ ซีซั่น 3 เธอบอกว่าเธอไม่ได้น้อยใจเป็นเพราะพี่ๆ อยากให้เธอเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากกว่านี้เสียก่อน โดนก่อนหน้าที่จะมาเล่นฮอร์โมนเธอเคยผ่านการแสดงมาแล้ว 1 เรื่อง คือซีรีส์เพื่อนเฮี้ยนโรงเรียนหลอน ตอน เสียงตามสาย

“ฮอร์โมนจะใหญ่กว่าแล้วบทมันจะหนักกว่า คือเพื่อนเฮี้ยนมันไม่เยอะ แล้วเราก็จำได้เราก็รู้ว่าประมาณไหน แต่ฮอร์โมนบทยาวมาก ต้องทำความเข้าใจสูงมากมันซับซ้อนกว่าอันนั้นมันบทง่าย ได้รับบทเป็นเด็กเกเรเหมือนกัน เป็นผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในกลุ่มผู้ชาย แต่ว่าตอนนั้นก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรมากอยู่สักพักหนึ่งก็ตายไป (หัวเราะ)

หนูไม่น้อยใจหนูว่าพี่เขาอยากให้หนูมาเรียนอีก เหมือนเขาจะปูไว้แล้วหนูว่าเขาก็คงเห็นว่าต้องมีพัฒนาการที่ดีกว่านี้ พอได้มาเล่นตอน 3 ปุ๊บ ก็เลยได้ค่ะ เหมือนให้เราไปเก็บประสบการณ์จากเพื่อนเฮี้ยนก่อนก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเพราะตอนนั้นก็ไม่ดีเลย”




ฮอตจนรุ่นน้องเดินตาม

เมื่อซีรี่ส์ฮอร์โมนลงจอแก้วออนแอร์ให้คนทั้งประเทศได้ชมแล้ว สาวน้อยบอกว่าปลื้มใจสุดๆ เพราะกระแสจากคนรอบข้างดีมากๆ ถึงขั้นรุ่นน้องที่โรงเรียนเดินตามและขอถ่ายรูปกันเป็นขบวน

“เพื่อนก็เรียกหนูว่าลูกตุ๊ด เรียกส้มส้ม ส้วมส้วม อะไรก็ไม่รู้เยอะมาก โรงเรียนหนูก็จะมีเด็กประถมด้วยน้องๆก็จะเดินตามพี่แพรวอย่างโน้นอย่างนี้หนูก็ฮะ..! (ทำหน้างง) น้องๆ ก็มาขอถ่ายรูปเวลาไปไหนมาไหนส่วนมากคนก็จำหนูได้นะ รู้สึกเปลี่ยนไปแต่ก็ไมได้อะไร บางทีก็ตกใจว่าเฮ้ย..! จำได้ขนาดนี้เลยเหรอ เพราะบางทีหนูก็ไม่ได้ทาอะไรเลย เขาก็ยังจำได้เข้ามาทักหนูก็ดีใจทีเขายังจำได้ (ยิ้มหวาน)”




ส่วนคุณแม่ก็แอบภูมิใจในตัวของเธออยู่ไม่น้อย ถึงแม้จะไม่ค่อยแสดงออกและไม่ค่อยชมเธอก็ตาม แต่ก็แอบไปพูดกับเพื่อนๆ อยู่บ่อยๆ ว่าเธอเก่งและภูมิใจในตัวเธอที่สุด

“คุณแม่สนับสนุนให้ทำอะไรแบบนี้อยู่แล้วค่ะ คุณแม่ชอบ เหมือนที่โรงเรียนคุณแม่ก็จะชอบบอกเป็นไปเลยเป็นนี่เป็นนั่น คุณแม่จะเป็นคนไม่ค่อยแสดงออกเป็นคนเก็บมาดนิดหนึ่ง แต่บางทีจะพูดหลุดๆ ออกมา ก็จะทำเป็นเหมือนไม่ชมไม่อะไรแต่ความจริงเขาภูมิใจมากเอาไปพูดกับคนอื่นตลอดเออเนี้ยดีใจ แพรวเก่งมาก

พอกับหนูจริงๆ แม่จะไม่ค่อยพูด คุณแม่เห่อมาก ดูทุกตอนไม่พลาดเลย จะมีตอนหนึ่งคุณแม่บ่นเพราะไปรอหนูทำอะไรก็ไม่รู้จำไม่ได้แล้ว แล้วเขาก็ไม่ได้ดูฮอร์โมนเขาก็บ่นว่าทำให้แม่ไม่ได้ดูเลย แม่บ่นใหญ่เลยหนูก็บอกมันมีรีรันแม่ (หัวเราะร่วน)”

ถึงแม้สาวน้อยจะเกิดมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ แต่แม่ของเธอทำหน้าที่ของพ่อและแม่ได้อย่างดีเยี่ยม เลี้ยงดูเธอมาอย่างดีตั้งแต่เด็กๆ เธอจึงไม่ได้รู้สึกขาดตรงส่วนนี้ เธอบอกว่าอยู่กับแม่ 2 คนก็สบายดีและมีความสุขไม่แพ้ครอบครัวอื่นๆ เลย

“หนูไม่ได้อยู่กับคุณพ่อ หนูเป็นลูกคนเดียว อยู่กับแม่ 2 คนไม่เหงาเลย หนูไม่เคยรู้สึกแบบนั้น เพราะบางทีเพื่อนก็มาบ้าน แม่ก็เป็นคนตลกหนูก็ไม่เคยเหงาเลย เวลามาทำงานคุณแม่ก็จะคอยขับรถให้เพราะว่าแม่อยากให้หนูหลับก็ให้นอนไปก่อนเพราะทำงานมาเหนื่อย ก็ไม่น้อยใจนะคะอยู่มาตั้งแต่เด็ก ส่วนคุณพ่อก็มีติดต่อบ้างแต่ตอนนี้ก็ไม่ได้ติดต่อแล้ว หนูอยู่กับแม่ชินแล้ว แล้วก็มีญาติๆ ด้วย ที่ได้เล่นฮอร์โมนก็มีทางญาติๆ ฝั่งโน่นมาบอกว่าคุณพ่อก็ดูเขาก็รู้ค่ะ (อมยิ้ม)”




เธอบอกเล่าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่าเธอนั้นเป็นเด็กที่ดื้อเอามากๆ โดนเลี้ยงมาแบบค่อนข้างโดนตามใจ และแม่ก็ไม่เคยบังคับให้เธอทำในสิ่งที่เธอไม่ชอบ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแม่จะให้เธอตัดสินใจเองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเรียกได้ว่าสิ่งนี้เองทำให้สาวน้อยเติบโตขึ้นและสามารถช่วยเหลือตัวเองได้

“หนูดื้อมาก (ทำหน้าเข้ม) คุณแม่ก็จะดุแต่ดุไม่จริง แอบใจดี เขาก็ไม่เคยให้หนูออกนอกลู่นอกทางเลย กลับบ้านนี่เกือบต้องตรงเวลาทุกวัน เพราะว่าเป็นลูกสาวคนเดียว คุณแม่ไม่เคยบังคับค่ะ ชอบให้ตัดสินใจเองเพราะว่าถึงบังคับหนูก็ดื้ออยู่แล้วแต่ดื้อไม่เท่าส้มส้มนะ (หัวเราะ) ส่วนถ้ามีเวลาว่างคุณแม่ชอบพาไปตะเวรกินนู่นกินนี่เป็นสายกิน แต่หลังๆ แม่บอกว่าลดน้ำหนักเถอะนะ อ้วนแล้ว แต่แม่ก็ยังไปกินต่อ แต่แกล้งบอกให้หนูลดน้ำหนัก”




ทำงานจัดเต็ม เกรดดีไม่มีตก!

ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ยิ่งเป็นช่วงสอบไฟนอลโค้งสุดท้ายแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนักสำหรับเด็ก ม.6 สาวน้อยเล่าให้ฟังว่าหนักมาก เพราะเธอเรียนอยู่ต่างจังหวัดแต่ต้องมาทำงานที่กรุงเทพฯ ซึ่งเรียกได้ว่าไม่ใช่ระยะทางใกล้ๆ เลยที่จะไป-กลับ สลับกันระหว่างทำงานและกลับไปเรียนหนังสือ


“หนักมากค่ะ ยิ่งตอนนี้เขาเก็บงานกันเตรียมที่จะสอบมิดเทอม ไฟนอล ต้องทำงานมือหงิกเลยทำไม่ทัน บางอย่างหนูก็ไม่รู้ว่ามีงานอันนี้บางทีเพื่อนก็ลืมบอกก็จะเหนื่อยมาก หนูก็แบบเพิ่งรู้ก็ต้องไปทำเอง จริงๆ แล้วหนูก็แบ่งเวลาไม่เป็นเหมือนกันหนูก็เพิ่งเข้ามาแล้วหนูก็อายุยังไมโตมากอาศัยเก็บงานเอา


ส่วนเรื่องเรียนไปโรงเรียนก็จะถามเพื่อน ส่วนครูก็จะช่วยบ้างก็จะไม่สอนเลยไปเยอะมาก เพื่อที่จะเซฟหนูไว้ให้มาทัน ครูบางคนก็จะให้เอาใบลาไปก็จะไม่เช็กอะไร แต่โรงเรียนหนูก็ไม่ค่อยอะไรอยู่แล้วค่ะแค่ขอให้เรียนให้ทำงานส่งและอย่าให้เกรดตกให้สอบให้ได้ ตอนนี้เกรดหนูดีค่ะไม่ตก”




สาวแพรวบอกว่าเมื่อได้มาอยู่จุดนี้ก็ชินกับการทำงานบางแล้ว จากแต่ก่อนเป็นคนขี้เซาเมื่อถึงเวลาไปเรียนค่อนข้างตื่นยากอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อมาทำงานแล้วต้องมีความรับผิดชอบสูงกว่าเดิมเอามากๆ แต่ก็ต้องสู้และต้องทำทั้ง 2 อย่างให้ออกมาดีที่สุด


“ตั้งแต่เข้ามาอยู่ตรงนี้งานก็เยอะขึ้นนะคะ มีพวกงานอีเวนต์ก็ชินแล้ว ปกติหนูขี้เซาไม่ค่อยตื่นตอนนี้ก็ต้องตื่นเช้า ตอนนั้นเหนื่อยมากเพราะไม่เคยตื่นเช้าขนาดนั้น ขนาดตื่นไปโรงเรียนหนูยังลุกแล้วลุกอีก ลุกแล้วก็นอนใหม่ ตอนฮอร์โมนนี่ต้องตื่นจริงๆ ไม่ตื่นไม่ได้ ตอนถ่ายฮอร์โมนตื่นตี 4-5 ทุกวันเลย




ตอนนั้นถ่ายอาทิตย์ละประมาน 4 วัน พฤหัสฯ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ก็แล้วแต่เลยบางคนก็จะโดน 4 วัน บางคนก็จะโดนแค่ เสาร์ อาทิตย์ อย่างหนูเคยโดนถ่ายวันพฤหัสฯ แล้ววันศุกร์จะต้องมีสอบเก็บคะแนนแล้วมันขาดไม่ได้จริงๆ กองเลิกประมาณตี 3 แล้วหนูต้องกลับบ้านตื่น 6 โมงเช้า หนักมาก เหนื่อยมาก ช่วงนั้นเหมือนผีดิบเลย ไปโรงเรียนเพื่อนก็บอกเหมือนซอมบี้เลย (หัวเราะ)”


หากไม่ได้เข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง ความใฝ่ฝันอีกอย่างหนึ่งของสาวแพรวคือการเป็นแอร์โฮสเตส แต่เมื่อได้มาอยู่จุดนี้แล้วเธอก็ขอทำตรงนี้ให้เต็มที่เสียก่อน เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่เธอจะได้รับโอกาสแบบนี้


“หนูกำลังคิดอยู่ว่าจะทำอะไรต่อไป ตอนแรกคืออยากเป็นแอร์โฮสเตสแล้วพอได้มาทำการแสดง เลยอยู่ในการแสดงดีกว่า พออายุมากขึ้นอาจจะมีเปิดร้านอะไรเล็กๆ แต่ตอนนี้หนูก็ต้องทุ่มเทด้านนี้ก่อน ที่มาอยู่จุดนี้มันเกินฝันมากแล้วค่ะ ได้มาอยู่บริษัทอย่างนี้แล้วก็แบบได้ทำงานแบบจริงจังหนูก็รู้สึกโอเคแล้ว”


วงการนี้สอนให้เธอได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง จากเมื่อก่อนเธอมองว่าการทำงานในวงการบันเทิงเป็นเรื่องสบายๆ และได้เงินมาง่ายๆ แต่เมื่อเข้ามาแล้วกลับตรงกันข้ามทุกอย่าง แต่เธอก็พร้อมที่จะเรียนรู้มันและตั้งใจทำมันอย่างเต็มที่และดีที่สุด


“ก่อนที่จะเข้ามาก็มองว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ ชิลชิล ก็แค่เล่นๆ ไปง่ายๆ ก็ได้ตังค์แล้ว แต่พอเข้ามาแล้วคือมันต้องมีความพยายามจริงๆ ต้องมีความรับผิดชอบสูงมาก มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเล่นแล้วผ่านไปด้วยดี ปัญหามันจะมีเยอะ กับตัวเราเองเราอาจจะไม่เข้าใจอะไรหลายๆ เราต้องเรียนรู้ไปควบคู่กับการทำงาน เพราะยิ่งอายุน้อยก็ยิ่งยาก ส่วนตัวหนูไม่มีคติประจำใจในการใช้ชีวิตเลยหนูก็คิดแค่ว่าวันนี้จะทำอะไร พรุ่งนี้จะทำอะไร แล้วก็ทำทุกวันให้ดีที่สุด”




สาวน้อยยังกล่าวทิ้งท้ายว่าคำที่เขาบอกกันว่าวงการนี้เป็นวงการมายา เธอบอกว่าเป็นเรื่องไม่จริงเลย การที่จะอยู่ในวงการนี้ได้นานๆ ต้องมีความรับผิดชอบและเรื่องของเวลาก็เป็นสิ่งสำคัญ และเธอก็อบอุ่นทุกครั้งที่ได้มาอยู่ในบ้านหลังนี้

“ไม่เลย ไม่ได้เป็นแบบนั้น อยู่ในวงการบันเทิงได้นานเราต้องมีความรับผิดชอบ พวกพี่จะสอนตลอดว่าเวลาเป็นสิ่งสำคัญ ทุกอย่างต้องมีความรับผิดชอบไม่งั้นเราจะอยู่ได้ไม่นาน แล้วเราก็ต้องตั้งใจทำทุกอย่างให้ดีที่สุด พี่ๆ ทุกคนไม่ดุเลยค่ะ ทุกคนจะสอนหนูคุยได้ทุกเรื่อง มีปัญหาอะไรก็บอกกับพี่ได้ทุกอย่างเขาจะเข้าใจเรามาก”




ประวัติส่วนตัว
ชื่อ : แพรว-นฤภรกมล ฉายแสง
วัน เดือน ปีเกิด : 1 มิถุนายน 2541
ส่วนสูง : 170 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 46 กิโลกรัม
การศึกษา : ม. 6 โรงเรียนบอสโกพิทักษ์
ผลงานเด่น : ฮอร์โมน 3 เดอะไฟนอลซีซั่น




สัมภาษณ์โดย ASTVผู้จัดการ Lite
เรื่อง: กรกนก วงษ์สุวรรณ
ภาพโดย: พงษ์ฤทธิ์ฑา ขวัญเนตร
ขอบคุณภาพบางส่วน: อินสตาแกรม “narupornkamol”




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น