จากที่เป็นข่าวฮือฮาซ้ำแล้วซ้ำอีก “ทัลค์ (Talc)” หรือ “ทัลคัม (Talcum)” ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของแป้งฝุ่น พร้อมเตือนถึงเด็กทารกที่สูดดมสะสมละอองแป้ง มีสิทธิ์ปอดอักเสบ ถึงตายได้ รวมทั้งผู้หญิงหากใช้โรยบริเวณจุดซ่อนเร้นเป็นเวลานานๆ เสี่ยงเกิดมะเร็งรังไข่ !?!
อณูทัลคัม ฟุ้งเข้าจมูก อันตรายต่อระบบทางเดินหายใจทุกเพศทุกวัย
ผู้จัดการ Live ออกสำรวจ พบว่าแป้งฝุ่นทาหน้าโรยตัว ไม่ว่าจะแป้งเด็ก แป้งเย็น แป้งใส่สารกันแดด และแป้งหน้าขาว หน้าชมพู หน้าเนียน ที่ขายกันตรึมในท้องตลาดทั่วไปล้วนเป็น แป้งทัลคัม (Talcum Powder)
“ทัลค์เป็นสารอนินทรีย์ จึงไม่ถูกย่อยสลายด้วยจุลินทรีย์ในธรรมชาติ ดังนั้นการทาแป้งโดยเฉพาะตอนโรยแป้ง ผงแป้งจะลอยในอากาศ หากสูดดมเข้าไปทางลมหายใจเป็นเวลานานจะเกิดการสะสมเป็นก้อนในปอด ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ ส่วนในเด็กทารกอาจทำให้ปอดอักเสบและตายได้” นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวไว้ในผู้จัดการออนไลน์
“ถ้าเป็นเด็กที่เป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว อาการก็จะกำเริบ หรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่ที่เป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว ถ้าใช้แป้งทัลคัม อาการก็กำเริบได้ ไม่ใช่แค่เด็ก” นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ยังพูดถึงบรรดาสาวๆ ที่นิยมสรรหาแป้งยูวี แป้งกลูต้า แป้งหน้าเด้ง โบ๊ะหน้าด้วย
“ต้องดูว่าแป้งนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง ถ้าสารทัลคัม มีชื่อทางเคมีว่า Magnesium Silicate Hydroxide มันจะคล้ายเม็ดทรายที่ป่นละเอียด เนื้อเนียนเป็นแป้งเลย แล้วเอามาทาหน้า ใกล้จมูก ฟุ้งเข้าจมูก ถ้าน้อยๆ ร่างกายไม่แพ้ ก็อาจไม่เป็นไร แต่ถ้าร่างกายเป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว อาการจะกำเริบได้”
พ่อแม่อย่าซี้ซั้วโรยแป้งทาหน้าเด็กเล็ก ใส่ใจข้อบ่งใช้ ตระหนักคำเตือน
จากการสำรวจ แป้งทุกชนิดทุกแบรนด์ต่างมีคำเตือนไปในแนวทางเดียวกัน นอกจากอย่าให้แป้งเข้าจมูกเข้าปากเด็กแล้ว ยังต้องเก็บให้พ้นมือเด็ก ระวังอย่าให้เข้าตาด้วย กระทั่งแป้งเด็กที่ผลิตจากแป้งข้าวเจ้าบริสุทธิ์ ย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ ก็ยังมีคำเตือนห้ามใช้โรยสะดือเด็กแรกเกิด แป้งเด็กเนื้อโลชั่นก็หมายเหตุว่าแม้ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ในกลุ่มทดลอง เว้นแต่การแพ้ส่วนบุคคล หรือระคายเคือง
“ต้องอ่านข้อบ่งใช้ด้วยครับ” นพ.กฤษดา ฝากเตือนอีกถึงบรรดาผู้ปกครองคนเลี้ยงเด็กทั้งหลาย
“โดยหลักคือ ทาบางๆ อย่าถึงขนาดชุบแป้ง และระวังจุดอ่อนไหว 2 จุดคือ ทางเดินหายใจ และอวัยวะเพศ”
ผู้หญิงติดทาแป้งจิ๊มิลดอับชื้น อาจได้มะเร็งรังไข่มาแทน
“ในสตรีหากใช้โรยบริเวณจุดซ่อนเร้นเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เกิดมะเร็งรังไข่ ดังนั้นสตรีไม่ควรโรยแป้งบริเวณจุดซ่อนเร้น”” จากข่าวที่นพ.อภิชัย เตือนไว้ ผู้จัดการ Live จึงค้นหาสาเหตุ และพบว่า
IARC (International Agency for Research on Cancer) ซึ่งเป็นองค์กรหน่วยย่อยหนึ่งของ World Health Organization (WHO) ที่ทำหน้าที่หลักเป็นผู้ประเมินและจัดกลุ่มสารก่อมะเร็งที่ได้รับความเชื่อถือสูงที่สุดในโลก จัดกลุ่มเจ้าสารทัลค์ให้อยู่ในกลุ่ม 2 B หมายถึง อาจจะเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์
“โดยสรีระของผู้หญิงตรงอวัยวะเพศเป็นอุโมงค์ เป็นทางเปิดที่เข้าไปได้ง่ายกว่า แป้งคืออณูฝุ่นครับ มันสามารถผ่านทางช่องคลอด เข้าไปถึงมดลูก และจากมดลูก เข้าไปที่ปีกมดลูก จากปีกมดลูก มันจะไปที่รังไข่ ยิ่งผู้หญิงบางคนชอบโรยแป้งตรงแผ่นอนามัยที่ติดกับกางเกงชั้นใน รู้สึกมั่นใจ สะอาดดี ต้องระวังอย่างยิ่งครับ” นพ.กฤษดา ให้ข้อมูลอีกว่า
“มีงานการศึกษาที่รวบรวมหลายการศึกษามาวิเคราะห์ เขาก็บอกว่าถ้าใช้กับจุดซ่อนเร้น มีแนวโน้มที่จะเกี่ยวกับมะเร็งรังไข่”
ถึงแม้องค์กรอะไร หมอท่านใด งานศึกษาวิจัยสำนักไหน ยังไม่ฟันธง โดยใช้คำว่า “อาจจะ” “เสี่ยง” “แนวโน้ม” “เกี่ยวกับ” เราในฐานะผู้บริโภคควรต้องดูแลป้องกันตัวเองและลูกหลานไว้ก่อน
แป้งข้าวเจ้าข้าวโพดคือ ทางออก แต่ไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด
“เนื่องจากความไม่ปลอดภัยในการใช้แป้งทัลคัม แพทย์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้แป้งทาตัวเด็กที่มีส่วนผสมของทัลคัม และผู้ผลิตชั้นนำได้หันมาเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ อาทิ แป้งข้าวโพด เพื่อทดแทนแร่หินทัลค์
และในปัจจุบันมีความนิยมใช้แป้งเด็กที่ทำมาจากแป้งข้าวเจ้าบริสุทธิ์ (Rice Starch) กันมากขึ้น เนื่องจากมีความปลอดภัยมากกว่าไม่เกิดการสะสมในปอดหรือใต้ร่มผ้า ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ นอกจากนี้ยังปกป้องลูกน้อยจากผื่นคัน เพราะมีคุณสมบัติป้องกันความเปียกชื้น และการดูดซับไขมันสูงกว่าทัลคัม” รศ.ดร.ไสยวิชญ์ วรวินิต ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีแป้ง (Starch Technology) ได้แนะนำไว้ในกรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2556
“ผมอยากใช้คำว่าแป้งทางเลือก อย่างเช่น แป้งเนื้อโลชั่นก็ได้ เพราะมันไม่กระจาย แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวโพด ก็ได้
แต่เมื่อไรก็ตามที่เด็กเป็นผื่น และยังไม่แน่ใจว่าผื่นนั้นคืออะไร อย่าเพิ่งโรยแป้ง ให้เอาผ้านุ่มๆ มาซับให้แห้งแทน เพราะถ้าเป็นผื่นจากเชื้อรา การที่โรยแป้งข้าวเจ้าแป้งข้าวโพด มันจะกลายเป็นอาหารโต๊ะจีนชั้นดีให้กับเชื้อราเลยครับ
ผู้หญิงก็เช่นกันครับ อย่าทาแป้งตรงจุดซ่อนเร้นเลย ใช้วิธีเอาผ้านุ่มๆ ค่อยๆ ซับแห้ง ปลอดภัยกว่าครับ” นพ.กฤษดา แนะปิดท้าย
บทความโดย ผู้จัดการ Live
เรื่อง: กุลิสรา กัณหะวัฒนะ
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
อณูทัลคัม ฟุ้งเข้าจมูก อันตรายต่อระบบทางเดินหายใจทุกเพศทุกวัย
ผู้จัดการ Live ออกสำรวจ พบว่าแป้งฝุ่นทาหน้าโรยตัว ไม่ว่าจะแป้งเด็ก แป้งเย็น แป้งใส่สารกันแดด และแป้งหน้าขาว หน้าชมพู หน้าเนียน ที่ขายกันตรึมในท้องตลาดทั่วไปล้วนเป็น แป้งทัลคัม (Talcum Powder)
“ทัลค์เป็นสารอนินทรีย์ จึงไม่ถูกย่อยสลายด้วยจุลินทรีย์ในธรรมชาติ ดังนั้นการทาแป้งโดยเฉพาะตอนโรยแป้ง ผงแป้งจะลอยในอากาศ หากสูดดมเข้าไปทางลมหายใจเป็นเวลานานจะเกิดการสะสมเป็นก้อนในปอด ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ ส่วนในเด็กทารกอาจทำให้ปอดอักเสบและตายได้” นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวไว้ในผู้จัดการออนไลน์
“ถ้าเป็นเด็กที่เป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว อาการก็จะกำเริบ หรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่ที่เป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว ถ้าใช้แป้งทัลคัม อาการก็กำเริบได้ ไม่ใช่แค่เด็ก” นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ยังพูดถึงบรรดาสาวๆ ที่นิยมสรรหาแป้งยูวี แป้งกลูต้า แป้งหน้าเด้ง โบ๊ะหน้าด้วย
“ต้องดูว่าแป้งนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง ถ้าสารทัลคัม มีชื่อทางเคมีว่า Magnesium Silicate Hydroxide มันจะคล้ายเม็ดทรายที่ป่นละเอียด เนื้อเนียนเป็นแป้งเลย แล้วเอามาทาหน้า ใกล้จมูก ฟุ้งเข้าจมูก ถ้าน้อยๆ ร่างกายไม่แพ้ ก็อาจไม่เป็นไร แต่ถ้าร่างกายเป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว อาการจะกำเริบได้”
พ่อแม่อย่าซี้ซั้วโรยแป้งทาหน้าเด็กเล็ก ใส่ใจข้อบ่งใช้ ตระหนักคำเตือน
จากการสำรวจ แป้งทุกชนิดทุกแบรนด์ต่างมีคำเตือนไปในแนวทางเดียวกัน นอกจากอย่าให้แป้งเข้าจมูกเข้าปากเด็กแล้ว ยังต้องเก็บให้พ้นมือเด็ก ระวังอย่าให้เข้าตาด้วย กระทั่งแป้งเด็กที่ผลิตจากแป้งข้าวเจ้าบริสุทธิ์ ย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ ก็ยังมีคำเตือนห้ามใช้โรยสะดือเด็กแรกเกิด แป้งเด็กเนื้อโลชั่นก็หมายเหตุว่าแม้ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ในกลุ่มทดลอง เว้นแต่การแพ้ส่วนบุคคล หรือระคายเคือง
“ต้องอ่านข้อบ่งใช้ด้วยครับ” นพ.กฤษดา ฝากเตือนอีกถึงบรรดาผู้ปกครองคนเลี้ยงเด็กทั้งหลาย
“โดยหลักคือ ทาบางๆ อย่าถึงขนาดชุบแป้ง และระวังจุดอ่อนไหว 2 จุดคือ ทางเดินหายใจ และอวัยวะเพศ”
ผู้หญิงติดทาแป้งจิ๊มิลดอับชื้น อาจได้มะเร็งรังไข่มาแทน
“ในสตรีหากใช้โรยบริเวณจุดซ่อนเร้นเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เกิดมะเร็งรังไข่ ดังนั้นสตรีไม่ควรโรยแป้งบริเวณจุดซ่อนเร้น”” จากข่าวที่นพ.อภิชัย เตือนไว้ ผู้จัดการ Live จึงค้นหาสาเหตุ และพบว่า
IARC (International Agency for Research on Cancer) ซึ่งเป็นองค์กรหน่วยย่อยหนึ่งของ World Health Organization (WHO) ที่ทำหน้าที่หลักเป็นผู้ประเมินและจัดกลุ่มสารก่อมะเร็งที่ได้รับความเชื่อถือสูงที่สุดในโลก จัดกลุ่มเจ้าสารทัลค์ให้อยู่ในกลุ่ม 2 B หมายถึง อาจจะเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์
“โดยสรีระของผู้หญิงตรงอวัยวะเพศเป็นอุโมงค์ เป็นทางเปิดที่เข้าไปได้ง่ายกว่า แป้งคืออณูฝุ่นครับ มันสามารถผ่านทางช่องคลอด เข้าไปถึงมดลูก และจากมดลูก เข้าไปที่ปีกมดลูก จากปีกมดลูก มันจะไปที่รังไข่ ยิ่งผู้หญิงบางคนชอบโรยแป้งตรงแผ่นอนามัยที่ติดกับกางเกงชั้นใน รู้สึกมั่นใจ สะอาดดี ต้องระวังอย่างยิ่งครับ” นพ.กฤษดา ให้ข้อมูลอีกว่า
“มีงานการศึกษาที่รวบรวมหลายการศึกษามาวิเคราะห์ เขาก็บอกว่าถ้าใช้กับจุดซ่อนเร้น มีแนวโน้มที่จะเกี่ยวกับมะเร็งรังไข่”
ถึงแม้องค์กรอะไร หมอท่านใด งานศึกษาวิจัยสำนักไหน ยังไม่ฟันธง โดยใช้คำว่า “อาจจะ” “เสี่ยง” “แนวโน้ม” “เกี่ยวกับ” เราในฐานะผู้บริโภคควรต้องดูแลป้องกันตัวเองและลูกหลานไว้ก่อน
แป้งข้าวเจ้าข้าวโพดคือ ทางออก แต่ไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด
“เนื่องจากความไม่ปลอดภัยในการใช้แป้งทัลคัม แพทย์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้แป้งทาตัวเด็กที่มีส่วนผสมของทัลคัม และผู้ผลิตชั้นนำได้หันมาเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ อาทิ แป้งข้าวโพด เพื่อทดแทนแร่หินทัลค์
และในปัจจุบันมีความนิยมใช้แป้งเด็กที่ทำมาจากแป้งข้าวเจ้าบริสุทธิ์ (Rice Starch) กันมากขึ้น เนื่องจากมีความปลอดภัยมากกว่าไม่เกิดการสะสมในปอดหรือใต้ร่มผ้า ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ นอกจากนี้ยังปกป้องลูกน้อยจากผื่นคัน เพราะมีคุณสมบัติป้องกันความเปียกชื้น และการดูดซับไขมันสูงกว่าทัลคัม” รศ.ดร.ไสยวิชญ์ วรวินิต ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีแป้ง (Starch Technology) ได้แนะนำไว้ในกรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2556
“ผมอยากใช้คำว่าแป้งทางเลือก อย่างเช่น แป้งเนื้อโลชั่นก็ได้ เพราะมันไม่กระจาย แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวโพด ก็ได้
แต่เมื่อไรก็ตามที่เด็กเป็นผื่น และยังไม่แน่ใจว่าผื่นนั้นคืออะไร อย่าเพิ่งโรยแป้ง ให้เอาผ้านุ่มๆ มาซับให้แห้งแทน เพราะถ้าเป็นผื่นจากเชื้อรา การที่โรยแป้งข้าวเจ้าแป้งข้าวโพด มันจะกลายเป็นอาหารโต๊ะจีนชั้นดีให้กับเชื้อราเลยครับ
ผู้หญิงก็เช่นกันครับ อย่าทาแป้งตรงจุดซ่อนเร้นเลย ใช้วิธีเอาผ้านุ่มๆ ค่อยๆ ซับแห้ง ปลอดภัยกว่าครับ” นพ.กฤษดา แนะปิดท้าย
บทความโดย ผู้จัดการ Live
เรื่อง: กุลิสรา กัณหะวัฒนะ
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754